ในช่วงไม่ถึงสัปดาห์ เกิดโศกนาฏ กรรมกับนักเรียนอินเดียที่เข้าร่วมโครงการอาหารกลางวันฟรีของรัฐบาลถึง 2 เหตุการณ์ ซึ่งสร้างความตกตะลึงไปทั่วโลก เพราะเหยื่อเป็นเด็กเล็กตาดำๆ อายุเพียง 5-12 ขวบ
เหตุการณ์แรกเกิดขึ้นที่รัฐพิหาร ทางเหนือ มีเด็กเสียชีวิต 23 ราย ล้มป่วย 25 คน อีกเหตุการณ์เกิดขึ้นที่รัฐกัว ทางตะวันตกเฉียงใต้ มีเด็กล้มป่วย 23 คน
เด็กมีอาการเหมือนอาหารเป็นพิษ ทั้งอาเจียน ท้องเดิน หัวใจเต้นผิดจังหวะ หายใจลำบาก ลมชักไปจนถึงอัมพาต สันนิษฐานว่าสาเหตุมาจากยาฆ่าแมลงที่ปนเปื้อนในผัก และข้าว
บ้างก็เดาว่าเป็นเพราะน้ำมันปรุงอาหาร ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบ
แม้จะยังไม่ได้ข้อสรุปว่าสารพิษคืออะไร มาจากอะไร และไปอยู่ในอาหารเด็กโดยบังเอิญ หรือมีใครวางยา
ความสูญเสียนี้ทำให้สังคมหันมาจับจ้องมาตรฐานความปลอดภัยของอาหาร
การวิจารณ์ประเด็นนี้เกิดขึ้นอย่างกว้างขวาง และปลุกกระแสเรียกร้องให้รัฐบาลปรับปรุงโครงการอาหารกลางวัน จนทางการรัฐพิหารยอมตั้งชุดทำงานพิเศษดูแลโครงการนี้ตามโรงเรียนต่างๆ
ขณะที่รัฐพิหารได้ชื่อว่าเป็นรัฐที่ยากจนที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ
ข้อมูลระบุว่า เด็กเกือบครึ่งของประเทศเป็นโรคขาดสารอาหาร และศาลฎีกาอินเดียตัดสินเมื่อปี 2554 ให้โรงเรียนของรัฐทุกแห่งจัดโครงการอาหารกลางวันฟรีแก่เด็กอายุต่ำกว่า 13 ปี
โครงการอาหารกลางวันของอินเดียนับเป็นโครงการอาหารสำหรับนักเรียนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ดูแลเด็กมากกว่า 120 ล้านคน จาก 1.2 ล้านโรงเรียน
หากอินเดียไม่ตื่นตัวปรับปรุงแก้ไขโครงการดังกล่าวเสียตั้งแต่ตอนนี้ ก็น่ากลัวว่าอาจต้องเผชิญโศกนาฏกรรมลักษณะนี้อย่างซ้ำซากอีกในอนาคต--จบ--
ที่มา: หนังสือพิมพ์ข่าวสด วันที่ 24 กรกฎาคม 2556
- 2 views