มลพิษทางอากาศรุนแรงสุดรอบเกือบ 16 ปี
สิงคโปร์เผชิญภาวะระดับมลพิษทางอากาศพุ่งสูงสุดในรอบเกือบ 16 ปี จากไฟควันป่าในอินโดนีเซีย ขณะนักท่องเที่ยว และผู้เดินทางมาเข้าร่วมงานสัมมนา หรือประชุมต่างๆ ในสิงคโปร์ พากันแสดงความไม่พอใจต่อสภาพอากาศ และลดเวลาอยู่ในประเทศให้สั้นลง
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สิงคโปร์ต้องร่นเวลาการฝึกทหาร จัดการเด็กที่มีปัญหาไอรุนแรงให้อยู่แต่ในบ้าน และแนะนำให้ประชาชนทั่วไป สวมผ้าปิดจมูกไปทำงาน หลังจากควันไฟหนาทึบที่เกิดจากไฟป่าในประเทศอินโดนีเซียรุนแรงขึ้น จนทำให้สิงคโปร์เผชิญกับมลพิษทางอากาศในระดับที่เลวร้ายที่สุดในรอบเกือบ 16 ปี เมื่อวานนี้ (19 มิ.ย.)
ค่าดัชนีวัดคุณภาพอากาศในสิงคโปร์ พุ่งขึ้นไปอยู่ระดับที่ไม่ปลอดภัยต่อสุขภาพ จากการที่ควันไฟจากเกาะสุมาตราของอินโดนีเซีย ลอยข้ามทะเลไปปกคลุมเหนือตึกระฟ้าของสิงคโปร์จนท้องฟ้ากลายเป็นสีเทา ดัชนีมาตรฐานมลพิษ หรือ พีเอสไอ ขึ้นไปอยู่ระหว่าง 104-123 ซึ่งโดยทั่วไปนั้น ระดับอันตรายที่ไม่ปลอดภัยต่อสุขภาพจะอยู่ระหว่าง 101-200
ขณะที่บรรดานักท่องเที่ยว และชาวต่างชาติ ที่เดินทางมาเข้าร่วมการประชุมในสิงคโปร์ พากันแสดงความไม่พอใจต่อปัญหามลพิษที่เกิดขึ้น โดยนักธุรกิจจากสหรัฐรายหนึ่ง ที่เดินทางมาท่องเที่ยวพักผ่อนกับครอบครัวที่สิงคโปร์ ระบุว่า พวกเขาตัดสินใจที่จะเดินทางออกจากสิงคโปร์เร็วกว่ากำหนด 2 วัน เพราะมีความกังวลในเรื่องสุขภาพจากมลพิษดังกล่าว
ทั้งนี้ ปัญหาหมอกควันจากไฟป่าในอินโดนีเซีย เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นแทบทุกปีในสิงคโปร์ และพื้นที่ทางเหนือของมาเลเซีย โดยมักจะเกิดขึ้นในช่วงกลางปี จากการที่เกษตรกรชาวอินโดนีเซีย ถางป่าเพื่อเพาะปลูกด้วยวิธีการง่าย ๆ และราคาถูก คือจุดไฟเผา และบางครั้งได้กลายเป็นชนวนเหตุแห่งความตึงเครียดทางการทูตกับเพื่อนบ้าน เช่น มาเลเซียและสิงคโปร์ ที่ต่างก็เรียกร้องให้อินโดนีเซีย หามาตรการที่ดีกว่านี้ ในการป้องกันการเผาป่าโดยผิดกฎหมาย
โฆษกกระทรวงป่าไม้ของอินโดนีเซีย ระบุว่า รัฐบาลกำลังพยายามให้การศึกษาแก่เกษตรกร เกี่ยวกับทางเลือกอื่นที่นอกจากการเผาพื้นที่เพื่อการเพาะปลูก ทำให้สามารถลดปัญหาควันไฟลงไปได้บ้างในช่วงหลายปีมานี้ ซึ่งเป็นเพราะได้รับความช่วยเหลือจากชุมชน และจะพยายามเดินหน้าความพยายามต่อไป
ปัญหาควันไฟป่าครั้งล่าสุดนี้ ยังทำให้สิงคโปร์ออกมาจี้ให้อินโดนีเซียเปิดเผยชื่อบริษัท และแผนที่สัมปทานจะได้ดำเนินการกับบริษัทสิงคโปร์ที่ถูกอินโดนีเซียระบุว่ามีส่วนทำให้เกิดหมอกควันไฟป่าจากการเผาแล้วถางเพื่อปลูกปาล์มน้ำมันในอินโดนีเซีย
แต่เจ้าหน้าที่ระดับสูงในกระทรวงสิ่งแวดล้อมอินโดนีเซีย กล่าวว่า ต่างชาติไม่ควรแทรกแซงกิจการภายในของอินโดนีเซีย สิ่งสำคัญที่สุดขณะนี้ คือ อินโดนีเซียกำลังพยายามควบคุมความเสียหายจากไฟป่า และได้ส่งรถดับเพลิงไปยังพื้นที่ที่เกิดไฟป่าแล้ว
ต่างชาติลดเวลาพำนักในประเทศ
ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ วันที่ 20 มิถุนายน 2556
- 375 views