ม็อบหมอใหญ่นับพันหอบดอกไม้เชียร์หมอประดิษฐ หลังกลุ่มแพทย์ชนบทชุมนุมนัดไล่พ้นเก้าอี้ ปมคัดค้านนโยบายพีฟอร์พี ด้านเจ้าตัวลั่นผมไม่กลัว แต่หวั่นภาพลักษณ์แพทย์ไทยติดลบ ประกาศชัดพร้อมตั้งโต๊ะเจรจายุติปัญหา แจงคำขู่นัดหยุดงานประท้วงช่วงสงกรานต์ไม่กระทบหน้างาน ยกคำสอนอย่าเอาคนไข้เป็นตัวประกัน ขณะที่หมอประชุมพร ชี้หลักการดีเกลี่ยเงินรายได้ทั่วหน้า
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 25 มี.ค. ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จ.นนทบุรี พญ. ประชุมพร บูรณ์เจริญ ประธานสมาพันธ์โรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไปแห่งประเทศ ไทย (สพศท.) นพ.สุทัศน์ ศรีวิไล ประธานชมรมโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป (รพศ./รพท.) พร้อมสมาชิกกว่า4,000 คน เดินทางมามอบดอกไม้ให้กำลังใจ นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รมว.สาธารณสุข และ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เพื่อสนับสนุนการออกระเบียบการเงินค่าตอบแทนตามภาระงานหรือพีฟอร์พี (Pay for Performance)
นพ.ประดิษฐ กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณทุกคนที่มาแสดงน้ำใจสนับสนุน เพราะเห็นถึงคุณค่าของการทำงานอย่างแท้จริง ไม่ใช่การสนับสนุนที่ตัวบุคคล ยืนยันว่าจะยืนหยัดทำงานต่อไปโดยอาศัยกำลังใจที่ได้รับมาแปรเป็นผลงานที่เป็นประโยชน์สู่ประชาชน ที่สำคัญขอยืนยันว่า สธ.ไม่ได้ยกเลิกค่าตอบแทนเพียงแต่เป็นวิธีการปรับเปลี่ยนวิธีจ่ายเท่านั้น ส่วนเนื้อหาในการชี้แจงต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะเป็นเรื่องรายละเอียดเดิม ๆ ว่าทำเพื่อสร้างความมั่นคงกับความชัดเจนในการจ่ายมากขึ้น ยืนยันว่าเงินเดิมไม่ลดน้อยลง
นพ.ประดิษฐ กล่าวต่อว่า ส่วนตัวไม่ห่วงเรื่องที่ผู้ไม่เห็นด้วยจะเดินทางมาคัดค้าน แต่กังวลในเรื่องของการแสดงออก อยากให้แสดงออกอย่างถูกต้องเหมาะสมกับปัญหา เพราะหากมีภาพการแสดงออกที่รุนแรงจะทำให้ภาพลักษณ์ของวิชาชีพในสายตาของสาธารณชนจึงขอฝากไปถึงคนที่จะมาชุมนุมด้วยว่าขอให้กระทำการด้วยความเหมาะสม เพราะการแสดงออกทุกอย่างจะสะท้อนถึงความคิดและจุดประสงค์อย่างชัดเจนว่าต้อง การอะไร อย่างไรก็ตามถ้ามีการพูดคุยทำความเข้าใจกันก็ไม่น่ายืดเยื้อ แต่ถ้าไม่ยอมเข้ามาพูดคุยกันปัญหามันก็ไม่จบ
ต่อข้อถามถึงกรณีที่ฝ่ายผู้คัดค้านจะมีการหยุดงานช่วงสงกรานต์ นพ.ประดิษฐ กล่าวว่า ปกติช่วงนั้นโรงพยาบาลจะปิดอยู่แล้ว แต่จะมีเจ้าหน้าที่ประจำห้องฉุกเฉินเข้าเวรประจำอยู่แล้ว จึงไม่น่าจะเกิดปัญหาอะไร เพราะครูบาอาจารย์สอนเรามาว่าไม่ให้เอาคนไข้เป็นตัวประกัน
ด้าน พญ.ประชุมพร กล่าวว่า ที่มารวมตัวกันเพราะคิดว่าถ้าปล่อยให้มีการประณาม ใส่ร้าย พูดจาบิดเบือนผู้บริหารทั้งสองคนจะทำให้เกิดความเสียหาย และหากเกิดอะไรไม่ดีก็จะเหมือนเป็นการที่ผู้ใหญ่ไปรังแกเด็ก ที่น้อง ๆ ทำไม่ถูกต้อง การออกมาชุมนุมขับไล่ รมว.สาธารณสุข ถือเป็นการทำเกินไป ส่วนตัวอยากให้ผู้บริหารรู้ว่าในหลักการปรับค่าตอบแทนจากวิธีการเหมาจ่ายมาเป็นจ่ายตามภาระงาน ช่วงแรกอาจจะขรุขระบ้าง แต่ถ้าเข้าที่แล้วจะกลายเป็นระบบที่ยุติธรรมมาก ที่ผ่านมามีหลายโรงพยาบาลนำระบบดังกล่าวไปใช้แล้วและก็ได้ผลดี เช่น รพ.พาน จ.เชียงราย รพ.มะการักษ์ จ.กาญจนบุรี ซึ่งทำให้บรรยากาศการทำงานดีขึ้น เพราะไม่เกิดการกินแรงกัน
"การตัดเงินครึ่งหนึ่งนั้นก็ไม่ได้ไปไหน แต่เอามารวมเป็นกองทุนของโรงพยาบาลนั้น และเอามาจ่ายเป็นค่าตอบแทนพีฟอร์พีให้กับน้อง ๆ หมอเด็ก ๆ สามปีแรกได้เดือนละหมื่น แต่คนแก่ ๆ ไม่ทำอะไร กลับได้ห้าหมื่น ก็เอาครึ่งหนึ่งของคนที่ได้เยอะ ๆ มาเกลี่ยให้คนอื่นไม่ว่าจะเป็นหมอ พยาบาล ทันตแพทย์ ก็ได้กันถ้วนหน้า" พญ.ประชุมพร กล่าว
ที่มา: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 26 มีนาคม 2556
- 4 views