'เผดิมชัย'สั่งสอบแก้ปมคอมพ์สปส.เบรกทำระบบใหม่

เร่งแก้ปัญหาคอมพ์ประกันสังคม'เผดิมชัย'ตั้ง 2 ทีมสอบข้อเท็จจริง ยังไม่อนุมัติงบ 1.2 พันล้านทำระบบใหม่

นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 14 มกราคม ถึงปัญหาระบบคอมพิวเตอร์ของสำนักงานประกันสังคม (สปส.) ถูกปิดลง เนื่องจากหมดสัญญากับบริษัทเอสโอเอ คอนซอร์เตียม เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2555 ที่ผ่านมา ว่าขณะนี้ยังไม่ได้รับการชี้เจงจากนายจีระศักดิ์ สุคนธชาติ เลขาธิการ สปส. หรือผู้บริหารคณะกรรมการ (บอร์ด) สปส.แต่อย่างใด และยังไม่เคยเห็นมติบอร์ดหรือสัญญาจ้างใดๆ ที่ สปส.ทำไว้กับบริษัทดังกล่าว

นายเผดิมชัยกล่าวว่า เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2555 สปส.ได้เสนอเรื่องมา เพื่อขอให้เซ็นอนุมัติงบประมาณ 80 ล้านบาท เพื่อต่อสัญญาจ้างกับบริษัทเอสโอเอฯ เป็นระยะเวลา 3 เดือน แต่ไม่ได้เซ็นอนุมัติ เนื่องจากมีการเสนอเรื่องเข้ามาอย่างเร่งด่วนและติดราชการไปต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ได้ให้ทีมงานไปตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ โดยได้มอบหมายให้นายสง่า ธนสงวนวงศ์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ไปตรวจสอบเรื่องสัญญาจ้าง และนายอนุสรณ์ ไกรวัตนุสสรณ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน ไปดูเรื่องของระบบคอมพิวเตอร์ ทั้งนี้ ให้สรุปข้อมูลทั้งหมดส่งมาโดยเร็วที่สุด ส่วนกรณีที่ สปส.เสนอให้พิจารณาเซ็นอนุมัติงบกว่า 1,200 ล้านบาท เพื่อจัดทำระบบคอมพิวเตอร์ใหม่นั้น ยังไม่ได้เซ็นอนุมัติ เนื่องจาก สปส.ไม่ได้ชี้แจงรายล้านบาท เพื่อจัดทำระบบคอมพิวเตอร์ใหม่นั้น ยังไม่ได้เซ็นอนุมัติ เนื่องจาก สปส.ไม่ได้ชี้แจงรายละเอียดของโครงการมาล่วงหน้า

"ขณะนี้ระบบคอมพิวเตอร์ของ สปส.กำลังมีปัญหา ถือเป็นเรื่องใหญ่ แต่เวลานี้ไม่ว่าจะเป็น นพ.สมเกียรติ ฉายะศรีวงศ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานบอร์ด สปส. และเลขาธิการ สปส.ยังไม่ได้เข้ามาชี้แจงถึงสาเหตุและแนวทางการแก้ปัญหา ผมจึงตั้งทีมงานสอบข้อเท็จจริง เพื่อให้รู้รายละเอียดทั้งหมด ซึ่งต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง" นายเผดิมชัยกล่าว

นายสง่า ธนสงวนวงศ์ กล่าวว่า ได้รับรายงานด้วยวาจาว่า บริษัท เอสโอเอฯ ส่งงานระบบคอมพิวเตอร์ไม่ผ่าน เนื่องจากมีรายละเอียดบางอย่างที่คณะกรรมการตรวจรับงานไม่สามารถให้ผ่านได้ เรื่องนี้คงต้องให้ สปส.รายงานมาอย่างเป็นทางการว่า โครงการมีปัญหาจุดไหน

นายพนัส ไทยล้วน กรรมการประกันสังคม ฝ่ายลูกจ้าง กล่าวว่า บอร์ด สปส.ทราบมาประมาณ 1 ปีแล้วว่า สัญญาจ้างบริษัทเอสโอเอฯ จะหมดลงในวันที่ 31 ธันวาคม 2555 จึงได้มีการเตรียมติดตั้งระบบคอมพิวเตอร์ใหม่ที่มีความทันสมัยมากกว่า โดยผ่านการพิจารณาจากอนุกรรมการด้านไอทีของ สปส.และผ่านการพิจารณาของบอร์ด สปส. และได้อนุมัติให้ใช้งบประมาณ 1,200 ล้านบาท ในการติดตั้งระบบคอมพิวเตอร์ใหม่ และได้เสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานพิจารณาอนุมัติเมื่อประมาณ 4 เดือนที่แล้ว

"ระบบใหม่นี้จะต้องมีการทำทีโออาร์ โดยใช้ระยะเวลาดำเนินการ 3-4 เดือน ซึ่งบอร์ด สปส.เกรงว่าจะไม่ทันเวลา จึงอนุมัติให้ต่อสัญญากับบริษัทดังกล่าวออกไปอีก 3 เดือน หลังหมดสัญญา ในวงเงิน 69 ล้านบาท จากนั้นได้ส่งไปให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเซ็นอนุมัติในวันที่ 28 ธันวาคม 2555 แต่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานไม่เซ็น และไม่ได้บอกเหตุผลถึงการไม่เซ็น แม้ว่าทางบริษัทจะยืดเวลาให้สามารถเซ็นต่อสัญญาย้อนหลังได้ถึงวันที่ 7-8 มกราคมที่ผ่านมาก็ตาม จนกระทั่งจอคอมพิวเตอร์ในระบบ สปส.ใช้การไม่ได้ ในวันที่ 11 มกราคมที่ผ่านมา" นายพนัสกล่าว และว่า การติดตั้งระบบใหม่นั้นจะต้องทำให้ระบบเก่าเสถียรกับระบบใหม่ในระยะเวลาหนึ่งก่อน เมื่อระบบเสถียรกันแล้ว และระบบใหม่ใช้งานได้ตามปกติแล้ว สปส.กับสัญญาที่จะหนึ่งก่อน เมื่อระบบเสถียรกันแล้ว และระบบใหม่ใช้งานได้ตามปกติแล้ว สปส.กับสัญญาที่จะต่อ 3 เดือนนี้ก็จะจบลง

นายพนัสกล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่บอร์ด สปส.ปล่อยให้บริษัท เอสโอเอฯ เก็บฐานข้อมูลของ สปส.ไว้ฝ่ายเดียวนั้นยืนยันว่า ข้อมูลยังคงอยู่กับ สปส.เพียงแต่บริษัทมีหน้าที่เชื่อมโยงข้อมูลด้วยระบบคอมพิวเตอร์ให้ สปส.เท่านั้น เพื่อให้ข้อมูลของ สปส.สามารถออนไลน์ได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โครงการคอมพิวเตอร์ 2,300 ล้านบาท ของ สปส. เดิมคือโครงการคอมพิวเตอร์ที่ตั้งงบประมาณไว้ 2,800 ล้านบาท ตั้งแต่ปี 2549 สมัยนายไพโรจน์ สุขสัมฤทธิ์ เป็นเลขาธิการ สปส. แต่โครงการดังกล่าวถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า เป็นการนำเงินประกันสังคมมาใช้ผิดวัตถุประสงค์ ทำให้กระทรวงแรงงานต้องส่งเรื่องให้คณะกรรมการกฤษฎีกาและสำนักงานอัยการสูงสุดตีความ ก่อนที่จะมีความเห็นว่าโครงการดังกล่าวสามารถเดินหน้าต่อได้ต่อเมื่อต้องปรับลดวงเงินลงและใช้ในภารกิจของ สปส.เท่านั้น ต่อมาในสมัยนางอุไรวรรณ เทียนทอง เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้เสนอเรื่องให้ ครม. เห็นชอบและว่าจ้างให้บริษัท เอสโอเอฯ เป็นผู้ดำเนินโครงการวางระบบคอมพิวเตอร์ เป็นเวลา 5 ปี ตั้งแต่ปี 2551-2555 ซึ่งสาเหตุที่บริษัทดังกล่าวได้รับอนุมัติ เนื่องจากเป็นบริษัทที่จัดทำระบบคอมพิวเตอร์ให้แก่ สปส.มาอย่าง ต่อเนื่องกว่า 10 ปี

--มติชน ฉบับวันที่ 16 ม.ค. 2556 (กรอบบ่าย)--