“ยิ่งลักษณ์” เรียกประชุมด่วน เปิดช่องการเมืองคุมราคายา “วิทยา” เสนอตัวนั่งหัวโต๊ะ
แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ในวันที่ 21 ก.ย.นี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการพัฒนาระบบบัญชียาแห่งชาติ มีคำสั่งเรียกประชุมคณะกรรมการฯ อย่างเร่งด่วน ที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพื่อพิจารณา 3 ประเด็น ได้แก่ 1.การจัดปรับอำนาจของคณะอนุกรรมการพิจารณากำหนดราคากลางยา และคณะอนุกรรมการพัฒนาบัญชียาหลักแห่งชาติ 2.การแต่งตั้งคณะอนุกรรมการชุดอื่นๆ ประมาณ 5 ชุด (ยกเว้น 2 ชุดแรกที่มีการจัดปรับอำนาจ) 3.แต่งตั้งคณะกรรมการสัดส่วนผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน 10ราย
อย่างไรก็ตาม วันดังกล่าว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ติดภารกิจไม่สามารถเดินทางมาเป็นประธานการประชุมได้ จึงมอบหมายให้ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่แทน แต่ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ก็ติดภารกิจเช่นกัน นายวิทยา บุรณศิริ รมว.สาธารณสุข (สธ.) จึงเสนอตัวเป็นประธานการประชุมแทน
แหล่งข่าวสธ. กล่าวว่า การจัดปรับอำนาจครั้งนี้ คือการโอนย้ายอำนาจของ 2 คณะอนุกรรมการ ซึ่งมีหน้าที่ในการต่อรองราคายา และกำหนดราคากลางยา รวมถึงพิจารณายาเพื่อบรรจุลงในบัญชียาหลักแห่งชาติ จากเดิมที่อยู่ภายใต้คณะกรรมการพัฒนาระบบยาฯ ให้มาขึ้นตรงกับคณะกรรมการกำหนดระบบบริหารยา เวชภัณฑ์ การเบิกจ่าย ค่าตรวจวินิจฉัยและค่าบริการทางการแพทย์
แหล่งข่าว กล่าวอีกว่า คณะกรรมการพัฒนาระบบยาฯ มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน กรรมการจากหลายภาคส่วน ทั้งการเมือง ข้าราชการ วิชาการ ภาคประชาชน ขณะที่คณะกรรมการกำหนดระบบบริหารยาฯ มีรมว.สธ.เป็นประธาน กรรมการส่วนใหญ่เป็นฝ่ายการเมืองและข้าราชการประจำเท่านั้น
สำหรับสาเหตุของการขอจัดปรับอำนาจใหม่ นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการอย. ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการพัฒนาระบบบัญชียาแห่งชาติ เคยระบุไว้ก่อนหน้านี้ว่า เพราะคณะกรรมการพัฒนาระบบยาฯ จัดประชุม 4 เดือนครั้ง จึงกระทบต่อการดำเนินงานที่จะล่าช้า ซึ่งแตกต่างกับคณะกรรมการกำหนดระบบบริหารยาฯ ที่ทำงานได้รวดเร็วกว่า เนื่องจากจัดประชุมทุกเดือน
นายนิมิตร์ เทียนอุดม อนุกรรมการพิจารณากำหนดราคายา กล่าวว่า ข้ออ้างของนพ.พิพัฒน์ฟังไม่ขึ้น เนื่องจากจุดประสงค์หลักของการตั้งคณะอนุกรรมการฯ ขึ้นมา เพื่อแก้ข้อจำกัดเรื่องการประชุมทุกๆ 4 เดือน โดยคณะอนุกรรมการฯ มีอำนาจเด็ดขาดในการเรียกประชุมเมื่อใดก็ได้ และหากพิจารณาหรือมีมติอะไรแล้ว ก็เพียงแต่เสนอให้คณะกรรมการชุดใหญ่รับทราบเท่านั้น
ทั้งนี้ รายชื่อผู้ทรงคุณวุฒิทั้ง 10 ราย ได้แก่ 1.นายยุทธ โพธารามิก สมาคมส่งเสริมการผสมผสานกิจกรรมพัฒนาประชากรและสาธารณสุขไทย 2.นายจำรูญ มีขนอน มูลนิธิศาสตราจารย์นพ.สมบูรณ์ วัชโรทัย 3.นายวิษณุ ธรรมลิขิตกุล ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการแพทย์ 4.นายทวี เลาหพันธ์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการแพทย์แผนไทยหรือการแพทย์ทางเลือก 5.นายธีรลักษณ์ สุทธเสถียร ผู้ทรงคุณวุฒิด้านทันตกรรม6.นายสุนิพนธ์ ภุมมางกูร ผู้ทรงคุณวุฒิด้านเภสัชกรรม 7.นายปานเทพ รัตนากร ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสัตวแพทย์ 8.นายสุชัย เจริญรัตนกุล ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสาธารณสุข 9.นายคณิศ แสงสุพรรณ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านเศรษฐศาสตร์ 10.นายกายสิทธิ์ พิศวงปราการ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย
ที่มา: http://www.posttoday.com
- 1 view