สหรัฐอนุมัติชุดตรวจเชื้อเอชไอวีเองที่บ้านเริ่มวางขายเดือน ต.ค. ตามร้าน 3 หมื่นแห่งทั่วสหรัฐ เก็บตัวอย่างของเหลวจากเหงือกล่าง-บน สามารถรู้ผลภายใน20-40 นาที
สหรัฐประกาศวานนี้ (4 ก.ค.) ว่า ได้อนุมัติให้วางจำหน่ายชุดตรวจเชื้อเอชไอวีเองที่บ้าน โดยคาดว่าชุดทดสอบ "ออราควิก อินโฮม เอชไอวี" จะวางขายได้ในเดือน ต.ค. นี้ ตามร้านค้าปลีก 30,000 แห่งในสหรัฐ บริษัทผู้ผลิตกล่าวว่าเมื่อใช้ชุดตรวจดังกล่าว จะสามารถทราบผลได้ภายใน 20-40 นาที
คณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐ (เอฟดีเอ) และบริษัทผู้ผลิต"ออราควิก อินโฮม เอชไอวี" ซึ่งมีชื่อว่าออราชัวร์ เทคโนโลยีส์ ยินดีกับการที่รัฐบาลอนุมัติชุดตรวจ ด้วยการระบุว่า เป็นความก้าวหน้าครั้งใหญ่ในการตรวจการติดเชื้อเอชไอวี
กระบวนการตรวจนั้นค่อนข้างไม่ซับซ้อน โดยต้องเก็บตัวอย่างของเหลวด้วยการป้ายเหงือกด้านล่างและเหงือกด้านบนในปากของผู้ที่ต้องการตรวจ จากนั้นนำตัวอย่างที่เก็บมาไปใส่ชุดตรวจ แล้วก็รอผล
เอฟดีเอตั้งข้อสังเกตว่าหากผลการตรวจเป็นบวก ก็ไม่ได้หมายความว่าผู้นั้นติดเชื้อเอชไอวีแล้วแน่นอน แต่ควรมีการไปตรวจเพิ่มเติมจากแพทย์เพื่อยืนยันผลอีกครั้งหนึ่ง
"ในทำนองเดียวกัน หากผลการตรวจเป็นลบ ก็ไม่ได้หมายความว่าคนนั้นไม่ได้ติดเชื้อเอชไอวี โดยเฉพาะหากสงสัยว่ามีพฤติกรรมเสี่ยงหรือสงสัยว่าอาจได้รับเชื้อในช่วง 3 เดือนก่อนหน้านี้" เอฟดีเอระบุในแถลงการณ์
องค์การอาหารและยาของสหรัฐระบุด้วยว่าชุดตรวจเชื้อเอชไอวีเองที่บ้านนี้ สามารถตรวจพบทั้งเชื้อเอชไอวีสายพันธุ์ชนิด 1 และสายพันธุ์ชนิด 2
ด้านโฆษกของบริษัทออราชัวร์ เทคโนโลยีส์ กล่าวว่า บริษัทยังไม่ได้ตัดสินว่าจะกำหนดราคาของชุดตรวจเชื้อเอชไอวีเองที่บ้าน ในระดับเท่าไร แต่มีแนวโน้มว่าราคาจะไม่สูงเกิน 17 ดอลลาร์ อันเป็นระดับราคาที่ใกล้เคียงกับชุดตรวจที่บริษัทจำหน่ายให้แก่โรงพยาบาลต่างๆ รวมถึงคลินิก และแพทย์
นายดักลาส มิเชลส์ ประธานและหัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) บริษัทออราชัวร์ เทคโนโลยีส์ กล่าวว่า ชุดตรวจนี้จะเปิดโอกาสให้ผู้คนทราบถึงสถานภาพเกี่ยวกับเชื้อเอชไอวีได้ที่บ้าน และอาจขอคำปรึกษาเพิ่มเติมได้ในกรณีที่มีความจำเป็น
ทั้งนี้ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคประเมินว่ามีคน 1.2 ล้านคนในสหรัฐที่ติดเชื้อเอชไอวี ในจำนวนนี้มีผู้ที่ไม่ทราบว่าตัวเองติดเชื้อประมาณ 1 ใน 5 ราย ขณะเดียวกัน ก็มีผู้ติดเชื้อเอชไอวีใหม่ๆ ปีละประมาณ 50,000 คน โดยผู้ติดเชื้อใหม่ๆ จำนวนมาก รับเชื้อมาจากผู้ที่ไม่ทราบว่าตัวเองติดเชื้อเอชไอวี
น.ส.คาเรน มินธัน ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและประเมินทางกายภาพแห่งเอฟดีเอ กล่าวว่า การมีชุดตรวจเชื้อเอชไอวีเองที่บ้าน เป็นทางเลือกสำหรับผู้คนในการตรวจหาเชื้อ เพื่อที่จะเข้ารับการรักษาต่อไปอย่างเหมาะสม เพราะการทราบสถานภาพของตัวเองเป็นปัจจัยสำคัญในความพยายามป้องกันการระบาดของเชื้อเอชไอวี
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ เคยมีการศึกษาของสหรัฐที่พูดถึงสถานการณ์การรับมือโรคเอดส์ในประเทศอื่น โดยระบุว่าโครงการให้ความช่วยเหลือของสหรัฐสามารถช่วยชีวิตคนได้ 740,000 คน ระหว่างปี 2547-2551
โครงการฉุกเฉินเพื่อบรรเทาโรคเอดส์ เริ่มขึ้นสมัยอดีตประธานาธิบดีจอร์จดับเบิลยู บุช เมื่อปี 2546 และใช้เงินลงทุน 15,000 ล้านดอลลาร์ ใน 15 ประเทศ
การวิเคราะห์พบว่าใน 9 ประเทศของแอฟริกา โครงการนี้สามารถช่วยชีวิตผู้คนไว้ได้ 740,000 คนในช่วง 4 ปีเมื่อเทียบกับในประเทศที่ไม่มีโครงการนี้ แม้แต่นักรณรงค์ให้ตระหนักรู้โรคเอดส์อย่างโบโน นักร้องนำวงยูทู ยังยกย่องโครงการดังกล่าว
ที่มา : นสพ.กรุงเทพธุรกิจ วันที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2555
- 36 views