ที่โรงแรมริชมอนด์ วันนี้ (18 พ.ค.) สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้จัดประชุมและลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับบริษัทผู้ผลิตและนำเข้ายาสูตรผสมซูโดอีเฟดรีน 56 ราย ในการกำกับดูแล การขายวัตถุตำรับที่มีซูโดอีเฟดรีนเป็นส่วนผสม

นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการ อย. กล่าวเปิดงานว่า วันนี้สถานการณ์ในภาพรวมเข้าที่ในระดับหนึ่ง รพ.ใหญ่หลายแห่งเริ่มใช้ยาซูโดอีเฟดรีนแล้ว แต่ รพ.ขนาดเล็กหลายแห่งไม่กล้าใช้ หันไปใช้ยาที่มีส่วนผสมของเฟนิลเอฟรินแทน ส่วนเรื่องการผลิต การนำเข้าคงต้องชะลอไว้ก่อน ขอเซ็ตระบบยาที่มีอยู่ให้เข้าที่ก่อน ส่วนเรื่องการส่งออกมีรายละเอียดยุ่งยากพอควร คงตัดทิ้ง เพราะจะต้องตอบคำถามสังคมเยอะ อย่างไรก็ตามทุกคนยังดำเนินธุรกิจได้ แต่อาจยุ่งยากบ้าง ขอบคุณทุกบริษัทที่ให้ความร่วมมือ ส่วนที่จะให้อำนวยความสะดวกเกี่ยวกับซูโดอีเฟดรีนก็ขอให้บอกมา

เลขาธิการอย. กล่าวต่อว่า คาดว่ายาซูโดอีเฟดรีนสูตรผสมที่ค้างสต๊อกอยู่ในบริษัทและที่เก็บจากร้านขายยาคืนมา คงจะอนุญาตให้จำหน่ายได้ในเดือน มิ.ย. โดยจะมีระบบควบคุมการขายซูโดอีเฟดรีนทุกสูตรผ่านโปรแกรมเอฟดีเอ รีพอร์ตเตอร์ (FDA Reporter) บริษัทยาจะต้องแจ้งข้อมูลการจำหน่ายรายวันมาที่ อย. จากเดิมส่งข้อมูลมาทุก 1 เดือน นอกจากนี้ผู้ซื้อคือ รพ.หรือคลินิกต้องแจ้งยอดการใช้เข้ามาด้วยว่าต้องการใช้เท่าไหร่ และเมื่อมีการส่งมอบยาให้กับทาง รพ.แล้วจะมีการแจ้งไปยัง ผอ.รพ.ให้รับทราบ ต่อไป ผอ.รพ.จะปฏิเสธว่าไม่รู้ไม่เห็นการสั่งซื้อไม่ได้ และเพื่อเป็นการป้องกันกรณีที่มีการแอบอ้างชื่อ รพ.ซื้อยาด้วย ระบบนี้จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มิ.ย. พร้อมกับที่มีการให้จำหน่ายยาได้ สำหรับซูโดอีเฟดรีนสูตรเดี่ยวยังคงมีใช้ใน รพ.อยู่ แต่สูตรผสมต้องมาทบทวนว่าจะให้เหลือกี่สูตร อย่างไรก็ตามคาดว่าการนำเข้าวัตถุดิบซูโดอีเฟดรีนจะน้อยลง จากเดิมไม่เกิน 35 ตันต่อปีน่าจะลดลงครึ่งหนึ่ง

ด้าน ภก.ประพนธ์ อางตระกูล ผอ.กองควบคุมวัตถุเสพติด กล่าวว่า ตอนนี้ยอดยาซูโดอีเฟดรีนสูตรผสมทุกตำรับยังมีการส่งคืนบริษัทยาอยู่ ตัวเลขยังไม่นิ่ง อย่างไรก็ตามหลังพ้นจากกำหนดที่ต้องส่งคืนแล้ว หากยังมีการส่งคืนอยู่ บริษัทควรแจ้งพนักงานสอบสวนให้ทราบด้วย สำหรับยาที่ส่งคืนทางบริษัทต้องแยกว่าจะเหลือขายเท่าไหร่หรือทำลายเท่าไหร่

ส่วนนายทัฬห ปิงเจริญกุล ผอ.การบริหารสมาคมไทยอุตสาหกรรมผลิตยาแผนปัจจุบัน กล่าวว่า ยาซูโดอีเฟดรีนสูตรผสมค้างที่อยู่ในสต๊อกบริษัทต่างๆ มีมากกว่า 50 ล้านเม็ด ยังไม่นับรวมยาที่ร้านขายยาส่งคืนมาอีก รวมแล้วมูลค่าหลายร้อยล้านบาท จึงอยากขอให้ทาง อย.พิจารณาหาช่องทางจำหน่ายให้ด้วย เพราะตอนนี้ รพ.ส่วนใหญ่จะไม่ใช้ยาซูโดอีเฟดรีนสูตรผสม แต่จะใช้ยาเดี่ยวเท่านั้น

ขณะที่ภก.อนุตรสิทธิ์ ลิ่มสกุล ผู้จัดการฝ่ายการตลาดบริษัทวี แอนด์ วี กรุงเทพฯ จำกัด บริษัทในเครือไทยนครพัฒนา จำกัด กล่าวว่า ตอนนี้ยาซูโดอีเฟดรีนสูตรผสมพาราจะขายก็ไม่ได้ ส่งออกก็ไม่ได้ อยากให้ภาครัฐช่วยดูแลเราด้วย มีช่องทางเดียวคือขอความร่วมมือให้ทาง รพ.ใช้ยานี้ โดยกระทรวงสาธารณสุขมีคำสั่งลงไป เชื่อว่าคงใช้เวลาไม่ถึงปี หากขายไม่ได้ ท้ายที่สุดต้องทำลาย เสียดายความเสียหายทางเศรษฐกิจ เพราะยานี้ขายมานานแล้ว.--จบ--

 

ที่มา: http://www.dailynews.co.th