ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ อัปเดตอาการเด็ก 2 ราย รักษาเป็นวันที่ 3 จากเหตุรถบัสไฟไหม้  ทั้งคู่เริ่มหลับตา ลืมตาพอได้ ด้านผู้บริหารสปสช.เข้าเยี่ยม

 

โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ออกแถลงการณ์ (ฉบับที่ 3) เรื่อง อาการบาดเจ็บของเด็กนักเรียนที่ประสบอุบัติเหตุรถบัสไฟไหม้ กรณีส่งตัวมารักษาต่อ จำนวน 2 ราย

 

สรุปอาการบาดเจ็บ  วันที่ 3 ของการรักษา 

 

จากเหตุการณ์รถบัสทัศนศึกษา โรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี เกิดอุบัติเหตุไฟไหม้ เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2567 เวลา 12.30 น. ตามที่เป็นข่าวนั้น โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ได้รับการส่งต่อผู้ป่วยจากโรงพยาบาลแพทย์รังสิต จ.ปทุมธานี จำนวน 2 ราย โดยวันนี้เป็นการรักษาพยาบาลเป็นวันที่ 3 ซึ่งแพทย์ได้ประเมินอาการและให้การรักษาดังนี้

รายที่ 1 เด็กหญิงอายุ 7 ปี แพทย์ประเมินแล้วว่า ร่างกายถูกไฟไหม้บริเวณใบหน้า และลำตัว แผลไหม้ ระดับ  ที่ 2 ทั้งหมดประมาณ 13% สัญญาณชีพปกติ หยุดการให้ยากระตุ้นความดันโลหิต ผู้ป่วยหายใจผ่านท่อช่วยหายใจโดยการใช้เครื่องช่วยหายใจ สามารถลดการช่วยเหลือจากเครื่องช่วยหายใจ ให้ยาแก้ปวด และให้ยานอนหลับต่อเนื่อง ปัสสาวะออกปกติ เริ่มรับอาหารทางการแพทย์ผ่านสายให้อาหารทางจมูกได้ ได้รับการประเมินทางเดินหายใจด้วยการส่องกล้องทางเดินหายใจโดยกุมารแพทย์ด้านระบบทางเดินหายใจ พบทางเดินหายใจบวมลดลง ใช้อุปกรณ์บีบคลายขาทั้ง 2 ข้าง เพื่อป้องกันลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำส่วนลึกอุดตัน แผลดี ปากบวมลดลง ไม่พบการติดเชื้อของแผล และ​ยังคงต้องทำความสะอาดแผลและป้ายยาต้านจุลชีพวันละครั้ง

ทีมแพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูใช้เฝือกร่วมกับอุปกรณ์ประคองมือและแขนสูง เพื่อช่วยลดบวม และมีแผนใส่อุปกรณ์รัดลดแผลเป็นในลำดับถัดไป เปลือกตาและเยื่อตายุบบวมลง สามารถหลับตาลืมตาพอได้ เยื่อหุ้มรก และ eye corneal shield อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ทั้ง 2 ข้าง

รายที่ 2 เด็กหญิงอายุ 9 ปี แพทย์ประเมินแล้วว่า ร่างกายถูกไฟไหม้บริเวณใบหน้า คอ แขน และมือ ทั้ง 2 ข้าง แผลไหม้ระดับที่สอง ทั้งหมดประมาณ 30% สัญญาณชีพปกติ แต่ยังคงต้องใส่ท่อช่วยหายใจ สามารถลดการช่วยเหลือจากเครื่องช่วยหายใจได้ เริ่มรับอาหารทางการแพทย์ผ่านสายให้อาหารทางจมูกได้  ให้ยาแก้ปวด และให้ยานอนหลับต่อเนื่อง สามารถลดการให้สารน้ำและเกลือแร่ทดแทนเข้าทางหลอดเลือดดำได้ โดยประเมินสารน้ำในร่างกายมีภาวะน้ำเกิน เริ่มให้ยาขับปัสสาวะทางหลอดเลือดดำ บาดแผลบริเวณใบหน้ายุบบวมลง ความดันบริเวณแขนทั้ง 2 ข้างลดลง เนื้อเยื่อผิวหนังดีขึ้น​ กระบวนการอักเสบลดลง มีการฟื้นฟูของเนื้อเยื่อ ผิวหนัง​ ทีมแพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูใช้เฝือกร่วมกับอุปกรณ์ประคองมือและแขนสูง เพื่อช่วยลดบวม​ ในส่วนของเปลือกตาและเยื่อตายุบบวมลง สามารถหลับตา ลืมตาพอได้ เยื่อหุ้มรก และ eye corneal shield อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมทั้ง 2 ข้าง

โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ จะดูแลรักษาผู้ป่วยทั้ง 2 ราย อย่างเต็มที่ โดยทีมแพทย์เฉพาะทาง เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างเป็นปกติได้มากที่สุด และขอขอบคุณองค์กรภาครัฐ เอกชน และ     ประชาชนทั่วไป ที่ส่งกำลังใจให้กับผู้ป่วย ครอบครัว ตลอดจนทีมบุคลากรทางการแพทย์

สปสช.เยี่ยมเด็กทั้งสอง

วันเดียวกัน นพ.สาธิต ทิมขำ ผู้อำนวยการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เขต 4 สระบุรี ได้รับมอบจาก นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เป็นตัวแทนเข้าเยี่ยมอาการเด็กนักเรียน ทั้ง 2 ราย ที่ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ  พร้อมให้กำลังใจญาติและครอบครัว

นพ.สาธิต กล่าวว่า ก่อนอื่นต้องขอแสดงความเสียใจต่อคณะครูและนักเรียนทั้ง 23 คนที่ประสบอุบัติเหตุครั้งนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น โดยขณะนี้ยังมีน้องนักเรียนจำนวน 3 คน ที่ยังต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล 2 แห่ง คือ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ จำนวน 2 คน และที่ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี อีก 1 คน ซึ่งจากการเข้าเยี่ยมและพูดคุยกับคณะแพทย์ผู้ให้การรักษา นักเรียนทั้งหมดได้รับการดูแลเป็นอย่างดี แม้จะยังมีอาการบางส่วนที่ต้องเฝ้าระวังต่อเนื่อง แต่ภาพรวมแล้วถือว่ามีอาการดีขึ้นกว่าวันที่ผ่านๆ มา