ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กระทรวงสาธารณสุข - กระทรวงยุติธรรม ลงนาม MOU เชื่อมโยงข้อมูลบริการด้านสาธารณสุขบน Digital Health Platform เพื่อการเข้าถึงระบบบริการสุขภาพของผู้ต้องขังในเรือนจำอย่างทั่วถึงทุกจังหวัด หวังให้การรักษาผู้ป่วยได้อย่างต่อเนื่องไร้รอยต่อ

เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2567 ที่สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการเชื่อมโยงข้อมูลบริการด้านสาธารณสุข บน Digital Health Platform ของกระทรวงสาธารณสุข ระหว่าง นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กับนางพงษ์สวาท นีละโยธิน ปลัดกระทรวงยุติธรรม

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญที่สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของทั้งสองกระทรวง ในการส่งเสริมการดูแลสุขภาพของผู้ต้องขัง ทั้งในช่วงที่อยู่ในเรือนจำและหลังจากพ้นโทษ ซึ่งข้อมูลประวัติการรักษาที่ถูกต้องและครบถ้วนจะช่วยให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขสามารถวางแผนการรักษาและดูแลสุขภาพผู้ต้องขังได้อย่างเหมาะสมและต่อเนื่อง ช่วยให้กลับมามีสุขภาพที่ดี และยังช่วยลดโอกาสในการแพร่กระจายของโรคในเรือนจำและในชุมชนหลังพ้นโทษ อีกทั้งเป็นการเสริมสร้างเครือข่ายการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานรัฐเพื่อความยั่งยืนด้านสุขภาพของผู้ต้องขังอีกด้วย

"ในฐานะที่กระทรวงสาธารณสุขมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมและป้องกันสุขภาพของประชาชนมีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้เห็นการลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในวันนี้ ซึ่งเป็นการเสริมสร้างเครือข่ายการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงาน เพื่อความยั่งยืนและการสร้างความเข้มแข็งสุขภาพของผู้ต้องขัง ขอขอบคุณทุกท่านที่ได้มีส่วนร่วมในการผลักดันโครงการนี้ และหวังอย่างยิ่งว่าการร่วมมือครั้งนี้จะนำมาซึ่งประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่แก่ผู้ต้องขังและสังคมโดยรวม" นายสมศักดิ์ กล่าวว่า

ด้านนพ.โอภาส กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้พัฒนาและจัดระบบบริการสาธารณสุขให้กับผู้ต้องขังในเรือนจำ เด็กและเยาวชนในสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน และ ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน อย่างต่อเนื่อง ตามโครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และพบว่า ยังมีปัญหาเรื่องการเชื่อมโยงข้อมูลด้านสุขภาพระหว่างโรงพยาบาลแม่ข่ายและเรือนจำ ทำให้ประชาชนกลุ่มนี้เข้าถึงบริการด้านสาธารณสุขไม่เท่าเทียมกับประชาชนทั่วไป นำมาสู่การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในครั้งนี้ โดยกระทรวงสาธารณสุขจะทำหน้าที่ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาระบบข้อมูลกลาง บน Digital Health Platform ของกระทรวงสาธารณสุข ให้ก้าวหน้า ทันสมัย และมีประสิทธิภาพ

สนับสนุนชุดความรู้และวิธีการใช้งานระบบข้อมูลกลางให้บุคลากรที่เกี่ยวข้องในกระทรวงยุติธรรมสามารถดำเนินการได้อย่างถูกต้องเหมาะสม และก่อให้เกิดการมีส่วนร่วมจากบุคลากร หน่วยงาน และภาคีเครือข่ายทุกระดับ สนับสนุนให้เกิดการเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพ ประวัติการรักษา เพื่อประโยชน์ในการรักษาผู้ป่วยอย่างต่อเนื่องไร้รอยต่อ แก่แพทย์ พยาบาล และบุคลากรสุขภาพของทั้งสองหน่วยงาน ภายใต้ความคุ้มครองของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนสนับสนุนให้เกิดความมั่นคงปลอดภัยในการรักษาความลับ และการใช้ข้อมูลกลาง บน Digital Health Platform ของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อประโยชน์ในการเข้าถึงบริการด้านสาธารณสุขของผู้รับบริการในทุกพื้นที่อย่างทั่วถึง

 
 
ขณะที่นางพงษ์สวาท กล่าวว่า  กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม มีผู้ต้องขังในความควบคุมดูแลทั่วประเทศ ในเรือนจำและทัณฑสถาน 143 แห่ง ประมาณ 300,000 คน ซึ่งจะมีผู้ต้องขังรับตัวเข้าใหม่ในแต่ละปี ประมาณ 190,000 คน และปล่อยตัว 170,000 คน ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าข้อมูลด้านสุขภาพของผู้ต้องขังที่เวียนเข้าออกของเรือนจำเป็นข้อมูลที่มีความสำคัญสำหรับการดูแลที่ต่อเนื่อง ภายใต้ความคุ้มครองของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และจัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสมในการบริหารจัดการข้อมูลสุขภาพ ประวัติการรักษา การนำเข้าข้อมูล การแสดงข้อมูลต่างๆ ในระบบข้อมูลกลาง รวมทั้งความปลอดภัยในการให้บริการ โดยไม่แสดงถึงการตีตราบุคคล

รวมถึงไม่กระทบต่อความมั่นคงของเรือนจำ ตลอดจนจัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของเรือนจำ ในการใช้อุปกรณ์และเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อการดำเนินการในระบบข้อมูลกลาง โดยไม่ขัดต่อระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และสื่อสารถึงประโยชน์ของระบบข้อมูลกลาง ในการให้บริการด้านสาธารณสุข เพื่อให้ผู้รับบริการเข้าใจและยินยอมในการบันทึกข้อมูลส่วนบุคคลลงในระบบฯ ด้วยความสมัครใจ 

"หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการบันทึกข้อตกลงความร่วมมือฉบับนี้ จะสามารถสนับสนุนให้การพัฒนาระบบสุขภาพดิจิทัลบน Digital Health Platform ของสาธารณสุข ระหว่างกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงยุติธรรม จะสามารถครอบคลุมเรือนจำและทัณฑสถานทั่วประเทศ  แล้วเป็นประโยชน์ต่อบุคลากรทางการแพทย์ ทั้งในส่วนของกระทรวงสาธารณสุขและกรมราชทัณฑ์ สำหรับการดูแลสุขภาพผู้ต้องขังอย่างไร้รอยต่อ และเพื่อเป็นการพัฒนาระบบฐานข้อมูลสุขภาพต่อไป"  นางพงษ์สวาท กล่าว

 

 

 

 

เรื่องที่เกี่ยวข้อง