ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

“อนุทิน” คุย บ.ก่อสร้าง ต้องยอมเสียทรัพย์สิน แลกชีวิตคนงาน เผย ใช้รพ.มหาราชนครราชสีมารับเหยื่อดินถล่ม ล่าสุด ทั้ง ฮ.-รถ เตรียมพร้อมแล้ว มีแนวโน้มช่วยเหลือได้เร็วๆนี้ 1 คน

 

 

เมื่อวันที่28 สิงหาคม  นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เดินทางมายังบริเวณที่เกิดเหตุอุโมงรถไฟความเร็วสูงถล่ม ในพื้นที่หมู่ 2 บ้านท่าหีบ ตำบลจันทึก อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นบริเวณโครงการก่อสร้าง ช่วงสถานีคลองขนานจิต ซึ่งมีแรงงานติดอยู่ด้านใน 3 ราย ตลอดทั้งวัน ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดพร้อมเปิดเผยว่า

 

ทีมกู้ภัยพยายามอย่างเต็มที่และเข้าใกล้แรงงานแล้ว เหลืออีกเพียงเมตรกว่าเท่านั้น แต่มันมีอุปสรรคเรื่องหิน ทำให้การฝ่าเข้าไปยากลำบาก หากได้ตัวแล้วเราต้องปฏิบัติการอย่างรวดเร็ว ดังนั้นจึงมีการเตรียมพร้อมในเรื่องของโรงพยาบาลที่จะใช้รักษา ที่ได้เลือก โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เนื่องจากมีความพร้อมทั้งบุคลากรการแพทย์และเครื่องมือไปจนถึงได้เตรียมการให้เฮลิคอปเตอร์ รถพยาบาลสำหรับขนส่งผู้ป่วย แต่ที่สุดแล้วก็ต้องให้แพทย์เป็นผู้พิจารณาเพราะต้องคำนึงถึงความปลอดภัย

"เราทุกคนมาอยู่ตรงนี้ อย่างมีความหวัง และข้อมูลต่างๆ มันก็ทำให้เราเชื่ออย่างนั้น เรามาช่วยเหลือคน ที่ทราบแน่นอนคือด้านในมีอากาศหายใจ ก็หวังว่าเขาจะติดอยู่ในรถซึ่งในรถก็อาจจะมีขนมขบเคี้ยว และมีน้ำให้ได้เอาชีวิตรอด ผมยังมีหวังอยู่ตลอด" นายอนุทิน กล่าว

 

เมื่อ ถามถึงข้อมูลเรื่องการเคาะจากด้านนอก แล้วมีสัญญาณตอบรับจากแรงงานที่ติดอยู่ในอุโมงค์ นายอนุทินตอบว่าเป็นรายงานจากทางผู้รับเหมาก็ขอให้เป็นอย่างนั้นจริงๆ

 

“ ที่ทำได้ชั่วโมงนี้คือการขุด เราเข้าไปได้ทีละ 2 คน เราก็ต้องรักษาความปลอดภัยให้กับคนที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วย รถกู้ภัยและรถพยาบาลที่นำเข้ามา ก็มีไว้ใช้ สำหรับขนย้ายผู้ป่วยไปจนถึงรับมือทุกเหตุฉุกเฉินที่เกิดขึ้น” นายอนุทิน กล่าว

 

เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้ มีความไม่เข้าใจกันระหว่างเอกชน กับทางรัฐ นายอนุทินตอบว่า ทางเอกชนเขามีข้อมูลอยู่ในมือมากกว่า เขาเข้าใจสถานการณ์มากกว่าทางภาครัฐก็ต้องเป็นฝ่ายสนับสนุน  ซึ่งทาง ปภ. ได้อำนวยความสะดวกเรื่องอุปกรณ์ให้หมดแล้วทางทีมกู้ภัยจากกรุงเทพฯก็เข้ามาร่วมด้วยช่วยกัน

 

“แต่ผมบอกเขาไปแล้วว่าเรื่องชีวิตคนสำคัญเป็นอันดับ 1 ไม่ต้องไปสนใจเรื่องทรัพย์สิน ทางเจ้าของบริษัท  เขาเข้าใจแล้ว”