กรมควบคุมโรค ย้ำไทยยังไม่พบ “ฝีดาษวานร” สายพันธุ์เคลด 1บี แอฟริกา ยังคงเป็นสายพันธุ์ไม่รุนแรง ส่วนวัคซีนป้องกันฝีดาษวานรโดยตรง ปัจจุบันยังไม่ขึ้นทะเบียน อย. แต่สามารถใช้ได้ โดยคร. มีวัคซีนไข้ฝีดาษเมื่อ 10 ปีที่แล้วหากพบระบาด สามารถนำมาพัฒนาเป็นวัคซีนป้องกันได้ แม้ว่าสายพันธุ์จะเปลี่ยนไป
เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงสถานการณ์ฝีดาษวานร สายพันธุ์เคลดวัน บี (Clade 1b) ที่ระบาดในบางประเทศของแอฟริกา โดยเฉพาะดีอาร์คองโก และยังพบในสวีเดน ซึ่งมีกระแสข่าวกังวลว่า ขณะนี้พบในประเทศไทยแล้ว ว่า ต้องถามว่าฝีดาษวานร ที่พบในประเทศไทย เป็นสายพันธุ์อะไร หากหมายถึงสายพันธุ์เคลด 2b (Clade 2b) ไทยพบผู้ป่วยมาตั้งแต่ปี 2565 แล้วกว่า 800 ราย แต่อาการไม่รุนแรง ขณะที่ในปี 2567 พบราว 140 รายก็สายพันธุ์นี้ แต่หากเป็นสายพันธุ์เคลด 1b (Clade 1b) ที่ระบาดในแอฟริกา ต้องยืนยันว่า ไทยยังไม่พบแม้แต่รายเดียว
ผู้สื่อข่าวถามว่าขณะนี้มีบางกลุ่มอาจกังวล และต้องการรับวัคซีนฝีดาษวานร ในส่วนกรมควบคุมโรคได้จัดหาแล้วหรือไม่ นพ.ธงชัย กล่าวว่า ต้องอธิบายว่า วัคซีนฝีดาษวานร ยังไม่มีในประเทศไทย เพราะยังไม่มีการขออนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) ก่อน ส่วนที่มีการประกาศให้บริการ ถือเป็นกรณีพิเศษเพื่อศึกษา
เมื่อถามว่าวัคซีนป้องกันฝีดาษวานร ขณะนี้ยังไม่ใช่วัคซีนป้องกันโรคฝีดาษวานรโดยตรงใช่หรือไม่ นพ.ธงชัย กล่าวว่า ใช่ แต่ป้องกันได้เหมือนกัน อย่างของกรมควบคุมโรค มีการเตรียมพร้อมกรณีการระบาด แต่ปัจจุบันยังไม่ระบาด โดยวัคซีนที่ใช้เป็น วัคซีนไข้ฝีดาษ ซึ่งป้องกันฝีดาษวานรได้เหมือนกัน ขณะนี้เก็บรักษาอยู่หากมีการระบาดก็พร้อมนำมาทำเป็นวัคซีน ส่วนสายพันธุ์ที่แตกต่างกัน ไม่มีปัญหา สามารถนำมาใช้ได้ สิ่งสำคัญตอนนี้ยังไม่ได้เกิดการระบาดเหมือนโควิด จึงยังไม่ต้องนำมาใช้
“ขณะนี้วัคซีนที่ใช้ป้องกันฝีดาษวานร ต้องบอกว่าไม่ได้อยู่ในชุดสิทธิประโยชน์ จึงต้องจ่ายเอง และค่อนข้างมีราคาสูง ดังนั้น หากไม่ใช่กลุ่มเสี่ยง ที่ต้องมีการสัมผัสใกล้ชิด ก็ขอให้อย่ากังวล อย่างบุคลากรสาธารณสุขด่านหน้า ขณะนี้ก็ยังไม่ต้องใช้วัคซีน ซึ่งไม่ต้องห่วง กรมควบคุมโรค มีระบบเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์เพื่อป้องกันการระบาดของโรค พร้อมทั้งประสานข้อมูลกับนานาประเทศตลอด” อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าว
เมื่อถามว่า ณ ตอนนี้มาตรการป้องกันฝีดาษวานร เคลด 1บี ประเทศกลุ่มเสี่ยงถึงเวลาต้องกักตัวการเดินทางหรือยัง นพ.ธงชัย กล่าวว่า ยังไม่ต้องกักตัว แต่มีระบบ มีมาตรการเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด ตามด่านต่างๆ หากมาจากประเทศเสี่ยง หรือประเทศงสัยก็จะมีการสังเกต ซักประวัติ มีการตรวจวัดไข้ ดูว่า มีผื่นขึ้นหรือไม่ ซึ่งจริงๆ ประเทศต้นทางที่จะเดินทางมายังไทย ก็จะมีระบบตรวจสอบเช่นกัน
นพ.ธงชัย กล่าวอีกว่า เราจะเน้นให้ความรู้แก่ประชาชน นักท่องเที่ยวกลุ่มต่างๆ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติ กับ Sex Worker ซึ่งส่วนใหญ่มีความระวังตัวเองอยู่แล้ว แต่เมื่อให้ความรู้ก็จะยิ่งดูแลและระมัดระวังมากขึ้น สิ่งสำคัญคือ หากสังเกตอาการ ทั้งมีไข้ มีผื่น มีตุ่มขึ้นตามร่างกายให้รีบพบแพทย์ทันที เพราะในสถานพยาบาลทั้งรัฐและเอกชนจะมีระบบตรวจคัดกรอง ตรวจเชื้อและแจ้งมายังกรมควบคุมโรค ตามขึ้นตอนที่วางไว้อยู่แล้ว
“ไฟล์บินจากกลุ่มประเทศเสี่ยงของแอฟริกา เข้าประเทศไทยไม่ได้มีมาก การตรวจคัดกรองจึงทำได้ไม่ยาก แต่หากตรวจแล้วพบมีไข้สูง มีตุ่มขึ้นตามผิวหนัง แม้ไม่ใช่เดินทางมาจากประเทศเสี่ยง ก็จะนำเข้าสู่ระบบการรักษาทันที และขอยืนยันว่า จนขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานพบเชื้อเคลด 1บีในประเทศไทย” นพ.ธงชัย กล่าว
ข่าวเกี่ยวข้อง : กรมวิทย์ยันผลตรวจสอบคุณภาพวัคซีนฝีดาษคน ของอภ. 13 รุ่น เก็บไว้ 40 ปียังมีคุณภาพ
- 1702 views