สภากาชาดไทย ออกประกาศให้บริการวัคซีนป้องกันโรค ฝีดาษวานร ผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ฉีดได้ 2 วิธี คือ ฉีดเข้าชั้นใต้ผิวหนัง ราคาเข็มละ 8,500 บาท ฉีด 2 ครั้ง ห่างกัน 28 วัน อีกวิธีเป็นการเข้าชั้นผิวหนัง จุดละ 2,200 ฉีด 2 ครั้งห่าง 28 วัน  ทั้ง 2 วิธีป้องกันได้ 80-85% แม้ปัจจุบันยังไม่ใช่วัคซีนป้องกันได้โดยตรง

 

ตามที่องค์การอนามัยโลก ประกาศยกระดับ โรคฝีดาษวานร ให้เป็นภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขระหว่างประเทศ หลังแอฟริกามีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นสายพันธุ์ย เคลด 1 บี (Claude 1b) ซึ่งในส่วนของประเทศไทยนั้น ทางกรมควบคุมโรค กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ออกมาระบุว่าข้อมูลจนถึงวันที่ 19 ส.ค.ยังไม่พบผู้ป่วยโรคฝีดาษวานรสายพันธุ์รุนแรง เคลด 1 บี ในประเทศไทย แต่มีผู้ป่วยโรคฝีดาษวานรสายพันธุ์ไม่รุนแรง ขณะที่ ศ.เกียรติคุณ ดร.วสันต์ จันทราทิตย์ หัวหน้าศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ให้ข้อมูลเกี่ยวกับโรคดังกล่าวพร้อมทั้งระบุด้วยว่า ในประเทศไทย โดยสถานเสาวภา สภากาชาดไทยได้มีการนำเข้าวัคซีนป้องกันโรคดังกล่าว แต่มีค่าใช้จ่าย ป้องกันความรุนแรงได้ 68-80%นั้น

ฉีดวัคซีนป้องกันฝีดาษลิง

ล่าสุดเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม สภากาชาดไทย โพสต์เฟซบุ๊ก การให้บริการวัคซีนป้องกันโรค ฝีดาษวานร ระบุว่า ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ที่มีความประสงค์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคฝีดาษวานร สามารถเข้ารับบริการวัคซีนได้ที่ตึกราชูทิศ สถานเสาวภา สภากาชาดไทย

โดยมีการบริการฉีด 2 วิธี ดังนี้
-วิธีที่ 1 ฉีดเข้าชั้นใต้ผิวหนัง (ขนาดเต็มโดส 0.5 ML) ราคาเข็มละ 8,500 บาท ฉีด 2 ครั้ง ห่างกัน 28 วัน
-วิธีที่ 2 ฉีดเข้าชั้นผิวหนัง (ครั้งละ 0.1 ML) ราคาจุดละ 2,200 บาท ฉีด 2 ครั้ง ห่างกัน 28 วัน (ต้องมาพร้อมกัน 4 ท่าน)

(ข่าวเกี่ยวข้อง : สภากาชาดไทย ปรับบริการ "วัคซีนฝีดาษวานร" เฉพาะฉีดเข้าชั้นผิวหนังเข็มละ 2,200 บ. ฉีด 2 เข็ม)

วัน-เวลาเปิดทำการ
>วันจันทร์-วันศุกร์
• เวลา 08.30-12.00 น. (ปิดรับบัตรคิว เวลา 11.30 น.)
• เวลา 13.00-16.00 น. (ปิดรับบัตรคิว เวลา 16.00 น.)
>วันเสาร์และวันหยุดนักขัตฤกษ์
• เวลา 08.30-12.00 น. (ปิดรับบัตรคิว เวลา 11.30 น.)
>วันอาทิตย์ ปิดทำการ

ไม่ใช่วัคซีนฝีดาษวานรโดยตรง แต่ป้องกันได้ 80-85%

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบข้อมูลไปยังสถานเสาวภา สภากาชาดไทย เกี่ยวกับวัคซีนป้องกันโรคฝีดาษวานร พบว่า  ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกันโรคฝีดาษวานรโดยตรง แต่พบว่า การฉีดวัคซีนป้องกันโรคฝีดาษเข้าใต้ผิวหนัง 2 ครั้ง ห่างกันอย่างน้อย 28 วัน มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคฝีดาษวานรได้ถึง 80-85% ซึ่งผู้ที่ควรได้รับวัคซีน คือ ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไปดังนี้

1. การฉีดวัคซีนแก่บุคคลที่มีการสัมผัสโรคแล้ว ได้แก่ ผู้ที่มีการสัมผัสโดยตรงกับผู้ป่วยโรคฝีดาษวานร เช่น มีเพศสัมพันธ์กับผู้ติดเชื้อ ใกล้ชิดคลุกคลีหรือมีการสัมผัสกับรอยโรคของผู้ติดเชื้อ โดยให้เริ่มฉีดวัคซีนภายใน 14 วัน หลังสัมผัสโรค (ดีที่สุดคือภายใน 4 วัน)

2. การฉีดวัคซีนแบบป้องกันก่อนสัมผัสโรคสำหรับบุคลากรทางการแพทย์หรือเจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องกับเชื้อฝีดาษวานร และผู้ติดเชื้อเอชไอวีหรือกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศโดยเฉพาะกลุ่มขายรักชายที่มีความเสี่ยงสูง เช่น มีคู่นอนมากกว่า 1 คน หรือ ได้รับการวินิจฉัยเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ภายในระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา

 

 

ข่าวเกี่ยวข้อง :

-คร.แนะ “วัคซีนป้องกันฝีดาษวานร” ไม่จำเป็นต้องฉีด เน้นกลุ่มเสี่ยง ราคาสูง ไม่อยู่ในชุดสิทธิประโยชน์