ไทยเข้มเฝ้าระวัง “ฝีดาษวานร” กลุ่มแอฟริกา โดยเฉพาะดีอาร์ คองโก หลังระบาดหนักจน องค์การอนามัยโลก ประกาศ  “ภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ” แต่ไม่กักคนเดินทาง เพราะขณะนี้สธ.ไม่ได้ประกาศเป็นโรคติดต่ออันตราย

 

เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม  ที่สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สป.สธ.) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2567 กรณีกรณีองค์การอนามัยโลกประกาศให้โรคฝีดาษวานร (MPox) ในบางพื้นที่ของทวีปแอฟริกามีสถานะเป็น "ภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ" ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อแห่งชาติ ยังไม่มีมาตรการห้ามการเดินทางไปประเทศที่มีการระบาด แต่สำหรับผู้ที่เดินทางไปมากับประเทศที่เกี่ยวข้องนั้น นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมควบคุมโรค ได้ชี้แจงในที่ประชุมว่า จะต้องระมัดระวังและมีมาตรการดูแลควบคุม เพื่อให้เกิดความปลอดภัยที่สุด

“สถานการณ์ของโรคฝีดาษวานรในประเทศไทย พบตั้งแต่ปี 2565 จนถึงปัจจุบัน มีผู้ป่วยสะสม 738 คน สำหรับปี 2567 ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2567 ถึงปัจจุบันมีผู้ป่วยสะสม 140 คน เสียชีวิต 3 คน โดยผู้เสียชีวิตจะเกี่ยวข้องกับการเป็นโรคเอชไอวี ซึ่งภูมิคุ้มกันต่ำ กรณีที่เป็นผู้ป่วยทั่วไปสามารถหายเองได้ ทั้งนี้กรมควบคุมโรคมียา เวชภัณฑ์ เตรียมพร้อมทั้งหมด” นายสมศักดิ์ กล่าว

ด้านนพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมควบคุมโรค(คร.) กล่าวว่า  ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศในสนามบินทุกแห่ง ด่านทางบก ทางน้ำ ทั้ง 69 ด่าน ถ้าใครเดินทางเข้ามาจากกลุ่มประเทศแอฟริกา โดยเฉพาะ ดีอาร์ คองโก ที่มีการระบาดของฝีดาษวานรตามที่องค์การอนามัยโลก(WHO)ประกาศ ก็จะมีการตรวจสอบด้วยการให้มารายงานตัวกับเจ้าหน้าที่ด่านฯ เพื่อช่วยดูแลว่ามีตุ่มหนอง มีอาการหรือไม่  และยังไม่จำเป็นต้องกักตัว เพราะประเทศไทยไม่ได้ประกาศให้เป็นโรคติดต่ออันตราย หากผ่านด่านแล้วมีอาการ จึงจะดำเนินการตามขั้นตอนเฝ้าระวัง

“ไม่ใช่ใครที่มาจากแอฟริกาแล้วต้องกักตัวทั้งหมด ยังสามารถดำเนินการได้ตามปกติ เพียงแต่เข้มงวดขึ้นในกลุ่มประเทศที่องค์การอนามัยโลกประกาศ ส่วนผู้ที่เดินทางจากประเทศที่มีการระบาดของmpoxเข้ามายังประเทศไทยก่อนที่องค์การอนามัยโลกจะประกาศให้เป็นภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข ขอให้สังเกตตัวเอง หากมีอาการเข้าข่าย ให้รีบเข้ารับการรักษา ที่สำคัญ ขอให้แจ้งประวัติการเดินทางกลับจากพื้นที่เสี่ยงกับแพทย์ด้วย”นพ.ธงชัยกล่าว

นพ.ธงชัย กล่าวอีกว่า เชื้อที่ทำให้เกิดผู้ป่วยฝีดาษวานรในประเทศไทยตอนนี้ เป็นคนละตัวกับทางองค์การอนามัยโลกประกาศเป็นสายพันธุ์เคลด 1b ส่วนในไทยเป็นสายพันธุ์เคลด 2 อย่างไรก็ตาม ห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ของไทยมีศักยภาพสามารถตรวจแยกได้ทั้ง 2 สายพันธุ์ ขณะนี้หากพบผู้ป่วยยืนยันmpox ก็จะสุ่มตรวจสายพันธุ์ แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่พบเคลด1ในไทย 

“อัตราการเสียชีวิตจากmpox สายพันธุ์เคลด 1b ที่องค์การอนามัยโลกประกาศอยู่ที่ราว 5 % แต่ในไทยที่เป็นสายพันธุ์เคลด 2 อยู่ที่ราว 1.3 % แต่ไม่ใช่ว่าคนปกติจะมีอัตราการเสียชีวิตนี้ เนื่องจากผู้เสียชีวิตในสะสม 11 รายนั้น 100 % เป็นผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวีซึ่งมีภูมิคุ้มกันต่ำ”นพ.ธงชัยกล่าว