ปลัดสธ. ตั้งเป้ารพ.มหาราชนครศรีธรรมราช เป็นศูนย์เชี่ยวชาญครอบคลุม 19 สาขาในปี 2570 ขณะเดียวกันยังเป็นศูนย์มะเร็งครบวงจร  ทั้งผ่าตัด เคมีบำบัด รังสีรักษา จนถึงดูแลระยะประคับประคอง ตรวจวินิจฉัยมะเร็งด้วยเครื่อง PET/CT Scan เทคโนโลยีด้านเวชศาสตร์นิวเคลียร์ ให้บริการรังสีรักษาได้ถึง 100 คนต่อวัน ลดระยะเวลารอคอยคิวฉายรังสีเหลือไม่เกิน 6 สัปดาห์ ช่วยให้ผู้ป่วยโรคมะเร็งในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียงของภาคใต้ตอนบนรักษาใกล้บ้านมากขึ้น

 

เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการพัฒนาศักยภาพสถานบริการตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข ว่า โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช  เป็นโรงพยาบาลศูนย์ขนาดใหญ่ ดูแลประชากรภายในจังหวัดกว่า 1.5 ล้านคน และจังหวัดข้างเคียงในเขตภาคใต้ตอนบน ได้พัฒนาศูนย์เชี่ยวชาญในสาขาต่างๆ ถึง 13 สาขา และมีแผนที่จะพัฒนาเพิ่มให้ครอบคลุม 19 สาขาภายในปี 2570

โดยในด้านมะเร็งครบวงจร ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายมุ่งเน้นของกระทรวงสาธารณสุข รพ.มหาราชนครศรีธรรมราชถือว่ามีศักยภาพสูงมาก นอกจากบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ ยังมีเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัย ให้การดูแลรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งได้ทุกระบบและครบวงจร ทั้งการผ่าตัด เคมีบำบัด รังสีรักษา จนถึงการดูแลในระยะประคับประคอง ช่วยให้ผู้ป่วยโรคมะเร็งในจังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดใกล้เคียงในภาคใต้ตอนบนได้รับการรักษาใกล้บ้านมากขึ้นและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

พัฒนาด้านเวชศาสตร์นิวเคลียร์ ตรวจวินิจฉัยผู้ป่วยมะเร็ง

ด้าน นพ.ศักดา อัลภาชน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 11 กล่าวว่า รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช เปิดให้บริการศูนย์รังสีรักษาเป็นแห่งแรกของ 14 จังหวัดภาคใต้ ตั้งแต่วันที่ 29 มกราคม 2562 มีแพทย์รังสีรักษา 4 คน นักฟิสิกส์การแพทย์ 2 คน นักรังสีการแพทย์ 7 คน พยาบาลวิชาชีพเฉพาะทางสาขาการพยาบาลรังสีรักษา 4 คน สามารถให้บริการฉายรังสีผู้ป่วยได้ถึง 100 คนต่อวัน ช่วยลดระยะเวลารอคอยเข้ารับการฉายรังสีเหลือ 6 สัปดาห์หรือน้อยกว่า โดยในปี 2566 มีผู้ป่วยรายใหม่เข้ารับบริการรังสีรักษา 1,183 คน ได้ตั้งเป้าหมายให้บริการฉายรังสีผู้ป่วยใหม่ 1,200 คนต่อปี นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาด้านเวชศาสตร์นิวเคลียร์ ให้การตรวจวินิจฉัยโรคมะเร็งด้วยเครื่อง PET/CT Scan ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยและเป็นเครื่องแรกของโรงพยาบาลในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข