“สมศักดิ์” เคาะยาบ้าไม่ถึง 1 เม็ด เป็นผู้เสพ พร้อมผุดไอเดีย ”1 ผู้เสพ ขยายผล 1 ผู้ขาย และขยายต่อเป็น 1 ผู้ผลิต” หวังตามยึดทรัพย์ เผย เปิดรับฟังความเห็นผ่านเว็บไซต์ สธ. 15 วัน ก่อนชง ครม.พิจารณาต่อ

 

เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม  ที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการทบทวนกฎกระทรวงกำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษ และวัตถุออกฤทธิ์ที่ให้สันนิษฐานว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ พ.ศ. 2567 ว่า ที่ประชุมมีการหารือเรื่องการกำหนดปริมาณการครอบครองยาบ้า เพื่อดำเนินคดีให้ง่ายขึ้น คือ มีปริมาณไม่เกิน 1 เม็ด ที่คิดเป็นปริมาณ 100 มิลลิกรัม มีสารบริสุทธิ์ 20 มิลลิกรัม ซึ่งจะมีความผิดในการครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องมีโทษจำคุก โทษปรับ รวมทั้งตรวจสอบทรัพย์สิน และยึดทรัพย์ และในกรณีที่ชุมชน หมู่บ้าน ซึ่งมั่นใจว่า จะมีผู้นำชุมชน และคนในกระทรวงจะช่วยเป็นหูเป็นตา  ซึ่งจะมีส่วนแบ่ง เงินรางวัลในการแจ้งเบาะแสจนสำไปสู่การยึดรัพย์

 

“ วันนี้เป็นการประชุมเบื้องต้น จากนั้นจะนำร่างฯ ไปรับฟังความเห็นจากประชาชนผ่านเว็บไซต์กระทรวงสาธารณสุขเป็นเวลา 15 วัน จากนั้นจะนำข้อสรุปมาพิจารณาดำเนินการ หากเห็นพ้องต้องกัน ก็จะนำเสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก่อนเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อผ่าน ครม. แล้วก็ส่งเข้าไปยังคณะกรรมการกฤษฎีกา” นายสมศักดิ์ กล่าว

ทั้งนี้ ขอย้ำว่า ยาบ้า 1 เม็ด ก็มีความผิด เพราะต้องพิสูจน์ต่อด้วยว่า เป็นผู้เสพ หรือ ผู้ขาย หากเป็นผู้เสพก็ต้องเข้ารับการบำบัด พร้อมต้องขยายผลตามแนวนโยบาย “1 ผู้เสพ ขยายผล 1 ผู้ขาย และขยายต่อเป็น 1 ผู้ผลิต” ดังนั้น มียาบ้า 1 เม็ด ก็ต้องถูกขยายผลเพื่อนำไปสู่การยึดอายัดทรัพย์ ซึ่งในขณะนี้ เรามีผู้แทนแต่ละกระทรวง ที่อยู่ตามชุมชน ก็จะช่วยเป็นหูเป็นตา และหากใครแจ้งเบาะแสก่อน ก็รับรางวัลนำจับ 5%

 

เมื่อถามถึงเหตุผลในการใช้พิจารณากำหนดปริมาณยาบ้า 1 เม็ด นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เหตุผลหลัก คือความเสียหายที่เกิดขึ้นกับประชาชน ซึ่งมีทั้งข้อมูล สถิติในการจับกุม ก่อนหน้านี้ที่ไม่มีการกำหนดยาบ้า 5 เม็ด เป็นผู้เสพ ก็จะต้องถูกปล่อยไปบำบัด แต่หลังมีการประกาศให้ครอบครองยาบ้า 5 เม็ดเป็นผู้เสพ พบว่า มีผู้ถูกจับกุมมากขึ้นถึง 85%  ซึ่งเชื่อว่า การลดลงเหลือ 1 เม็ด จะทำให้ได้ผลในการดำเนินคดี ส่วนเรื่องการบำบัดรักษา หากคนที่ถูกจับกุมยาบ้า 1 เม็ด แล้วสมัครใจเข้ารับบำบัด หรือขอเข้าบำบัด เราก็มองว่า เป็นการเอาเปรียบประเทศ เอาเปรียบราชการเกินไป แต่เมื่อถูกจับแล้วต้องบอกให้ได้ว่า ซื้อยานี้มาจากที่ไหน ไม่ว่าจะเป็นรายเล็ก รายใหญ่ก็ต้องเข้าสู่กระบวนการถูกยึดเม็ดทรัพย์ ยืนยันว่า ครอบครอง 1 เม็ด ก็มีสิทธิถูกจำคุกได้ 

 

เมื่อถามว่า หมายความว่าจากนี้จับผู้ครอบครอง 1 เม็ดได้ก็จะไม่สันนิษฐานว่าเป็นผู้เสพแล้วใช่หรือไม่ แต่ให้จับมาดำเนินการก่อนแล้วค่อยแยกทีหลัง นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เราจับ 1 เม็ด ก็ต้องดูพฤติกรรมว่า เป็นผู้เสพหรือไม่ หากผลสอบไม่ใช่ผู้เสพ ก็ต้องงถูกดำเนินคดี แล้วหากตรวจสอบพบว่า เป็นผู้เสพก็ต้องสอบสวนทวนความว่า ซื้อมาจากไหน ก็จะได้ผู้ขายตามมาจากการบอกของผู้เสพ  

เมื่อถามว่า ใครเป็นคนคัดแยกว่า คนที่ครอบครอง 1 เม็ดนั้น เป็นผู้เสพที่ต้องเข้ารับการบำบัด หรือผู้ขาย นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ก็ยึดหลักการเดิม แต่การลดลงเหลือ 1 เม็ด จะทำให้ง่ายต่อการคัดกรอง ผู้ขายจะพกพาไม่เกิน 5 เม็ด แต่พอถูกจับกลับบอกว่า เป็นผู้เสพ เขาสมัครใจเข้าบำบัด ทำให้เราทำอะไรไม่ได้ แต่เมื่อเราลดเหลือ 1 เม็ด อยากจะพกไปขาย และตรวจสอบพบว่าไม่ใช่ผู้เสพจริงๆ ก็ต้องถูกดำเนินคดี

 

เมื่อถามว่า คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน มีการแสดงความห่วงใย ว่าปรับเหลือ 1 เม็ด เป็นการละเมิดสิทธิ และกังวลว่า จะซ้ำรอยช่วงประกาศสงครามยาบ้า ยุครัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ขอให้เสนอแนะความคิดเห็นมาทางเว็บไซต์ ตนไม่วิพากษ์วิจารณ์ เพราะตอนนี้มันผ่านขั้นตอนในการดำเนินการทำให้กฎหมายรองเกิดขึ้นแล้ว เรื่องลดปริมาณยาบ้า 1 เม็ด ก็ไปวิพากษ์วิจารณ์กันในเว็บ ซึ่งตนพร้อมรับฟังความเห็น รวบรวมว่า มีกี่ประเด็น คงไม่มีประเด็นเป็นร้อยๆ หรอก คงมีเห็นด้วย ไม่เห็นด้วย

 

เมื่อถามย้ำว่า ก่อนหน้านี้เคยมีการเสนอปริมาณยาบ้า 1 เม็ดมาแล้ว แต่ไม่ผ่าน ดังนั้น การเสนอในรอบนี้มีเหตุผลที่แตกต่างจากการเสนอในครั้งนั้นหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของบรรยากาศ ดูพี่น้องประชาชนสิ เพราะว่า เดิมอาจจะมีคนเสพน้อย แต่ระยะหลังมีคนเสพมาก ซึ่งได้เห็นข้อมูลที่เกืดขึ้น พบว่า มีจำนวนคนเสพ ถูกจับ ดำเนินคดี เข้าสู่การบำบัดจำนวนมาก ซึ่งเมื่อก่อนยังไม่มาก ยาบ้ากินไปนานๆ มันก็บ้า และรุนแรงขึ้น สถานการณ์มันก็เปลี่ยน ยืนยันว่า เมื่อก่อนก็ไม่ได้ผิดพลาดอะไร เมื่อก่อนยังเตยมีการเสนอ 15 เม็ด บางคนบอกยุคนี้ยาบ้ามันถูก โรงงานก็เยอะ ราคาไม่แพง เม็ดละ 50 สตางค์ เสพง่าย ต้องยอมรับว่า สภานการณ์ปัจจุบัน เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม คนติดยาบ้ามีจำนวนมาก มีผู้ปาวยจิตเวชเพิ่มขึ้นจึงต้องหาทางป้องกัน และปราบปราม ต้องหยุดให้ได้ และประชาชนต้องช่วยกันแจ้งเบาะแส

 

เปิดแล้วรับฟังความเห็นยาบ้า 1 เม็ด เว็บสธ.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานเลขานุการคณะกรรมการบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด กระทรวงสาธารณสุข เปิดให้รับฟังความคิดเห็นร่างกฎกระทรวงกำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษและวัตถุออกฤทธิ์ที่ให้สันนิษฐานว่า มีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ (ฉบับที่..) พ.ศ.. ตั้งแต่วันที่ 17 พฤษภาคม 2567- 4 มิถุนายน 2567

 https://ncmc.moph.go.th/home/index.php/index/detail/30589