กรมควบคุมโรค เฝ้าระวังโรคจากสถานการณ์ผู้หนีภัยสงครามเมียนมาเข้าไทย มีระบบป้องกันโรคติดต่อในค่าลี้ภัย ป้องกัน 4 กลุ่มโรค ทั้งโรคทางเดินอาหารและน้ำ โรคติดต่อทางเดินหายใจ โรคที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีน และโรคติดต่อนำโดยแมลง

 

เมื่อวันที่ 24 เมษายน ที่กรมควบคุมโรค (คร.)  พญ.จุไร วงศ์สวัสดิ์  นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ ผู้ช่วยอธิบดีกรมควบคุมโรค   แถลงข่าว "เกาะติดสถานการณ์โรคและภัยสุขภาพที่เป็นปัญหา"  ว่า จากเหตุการณ์ปะทะกันอย่างรุนแรง ตรงข้ามฝั่งไทยบ้านวังตะเคียนใต้ อ. แม่สอด จ.ตาก ทำให้มีการอพยพเข้ามาอยู่ในค่ายลี้ภัย  ซึ่งระบบสาธารณสุขไทยมีการป้องกันและเฝ้าระวังโรคติดต่อในค่ายลี้ภัยอยู่แล้ว เนื่องจากสภาพการอยู่อาศัยที่แออัด ระบบการจัดการน้ำทิ้ง การจัดการสิ่งปฎิกูล ขยะ ที่อาจก่อให้เกิดโรคติดต่อได้

สำหรับโรคที่ต้องเฝ้าระวัง คือ 1.โรคติดต่อทางเดินอาหารและน้ำ อาเจียนท้องเสีย หน้าร้อนก็พบโรคติดต่อทางเดินอาหารและน้ำเพิ่มขึ้น 2.โรคติดต่อทางเดินหายใจ  3.โรคป้องกันได้ด้วยวัคซีนอาจระบาดขึ้นได้ และ 4. โรคติดต่อนำโดยแมลง  โดย4 กลุ่มโรคต้องเฝ้าระวังมีการแจ้งและป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดขึ้นในค่ายผู้ลี้ภัย

พญ.จุไร กล่าวอีกว่า  ข้อมูลช่วงวันที่ 20-21 เมษายนที่ผ่านมา มีผู้รับบริการ 142 ราย จากผู้อพยพในค่าย 906 ราย พบผู้ป่วยโรคอุจจาระร่วง 22 ราย ตาแดง 1 ราย โรคทั่วไป 116 ราย และทำแผล 3 ราย การประเมินการรับวัคซีน 30 ราย พบได้รับครบ 24 ราย การตรวจคัดกรองโรคมาลาเรีย 289 ราย พบเชื้อมาลาเรียชนิด PV จำนวน 1 รายเป็นเด็กชายอายุ 10 ปีได้รับการรักษาแล้ว

อย่างไรก็ตาม คำแนะนำในการป้องกันควบคุมโรคในค่ายลี้ภัยต้องบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมที่สะอาด ปลอดโปร่ง ไม่แออัด มีอากาศถ่ายเท จัดสถานที่ล้างมือด้วยสบู่ มีห้องสุขาและส้วมที่ถูกสุขลักษณะ จัดระบบเก็บขยะมูลฝอยถูกหลักสุขาภิบาล อาหารที่ทานต้องปรุงสุกใหม่ หากเก็บไว้ต้องนำมาอุ่นก่อนทาน ทั้งโรคไข้มาลาเรียและโรคเท้าช้างอาจพบไม่บ่อยในบ้านเรา แต่ต้องเฝ้าระวังตามชายแดน ซึ่งเรามีระบบเฝ้าระวังติดตามในพื้นที่อยู่แล้ว