ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

" อ.วรพจน์ " หัวหน้าทีมยกระดับ ขอบคุณสมาชิกทุกคนที่ยังสนับสนุนและเชื่อมั่น ขอเร่งแต่งตั้งกรรมการชุดใหม่ให้เสร็จภายใน 30 วัน เพื่อไม่ให้เป็นช่องว่างในการทำงาน เผย เร่งขับเคลื่อน 3 ประเด็นหลักคือ การปรับตำแหน่ง-จัดทำมาตรฐานวิชาชีพ-สอบใบประกอบวิชาชีพ

ตามที่คณะอนุกรรมการอำนวยการเลือกและการเลือกตั้งกรรมการสภาการสาธารณสุขชุมชน  ประกาศเลือกตั้งกรรมการชุดใหม่วาระที่ 3 ระหว่าง พ.ศ.2567-2570  รับสมัครวันที่  5-14 ก.พ. 2567 สรุปลงสมัครทั้งสิ้น  4 ทีม และผู้สมัครอิสระ ประกอบด้วย ทีมยกระดับ , ทีมสานต่อ , ทีมพลังใหม่ ,ทีมพลังนักสาธารณสุข และอิสระ 4 คน กำหนดลงคะแนนระหว่างวันที่ 14 มี.ค. - 18 เม.ย. และนับคะแนนวันที่ 19 เม.ย.2567

หลังจากเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา ปรากฎว่าผลการนับคะแนนอย่างเป็นทางการ ทีมยกระดับ 12 คน ได้รับเลือกจากสมาชิกยกทีม เร็วๆนี้สำนักข่าว Hfocus ได้มีโอกาสพูดคุยกับ รศ.วรพจน์ พรหมสัตยพรต  หัวหน้าทีมยกระดับ ที่ได้คะแนนกว่า  10,203  คะแนน ว่ารู้สึกอย่างไรและต่อจากนี้มีการวางแผนการดำเนินงานอย่างไรบ้าง

รศ.วรพจน์ เผยว่า  ขอขอบคุณสมาชิกทุกคนที่ยังให้การสนับสนุนและเชื่อมั่นในทีมยกระดับยกทีม ฉะนั้นการทำงานคงจะง่ายขึ้น ซึ่งตอนนี้รอให้กระบวนการดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการต่างๆให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน และเมื่อมีการดำเนินการแต่งตั้งเสร็จแล้ว ทีมยกระดับมีความพร้อมที่จะร่วมมือกับคณะกรรมการที่มาจากการแต่งตั้งโดยเตรียมพร้อมดำเนินการตามนโยบายที่ได้หาเสียงไว้ว่าจะทำอย่างไร รวมถึงมีการวางแผนการทำงานร่วมกับเครือข่ายต่างๆซึ่งล้วนเป็นสมาชิกของตนทั้งนั้นที่ต้องทำงานร่วมกัน และจะเป็นการเชิญคนที่อยู่ในทีมต่างๆที่มีความรู้ความสามารถมาช่วยกันทำงานขับเคลื่อนให้กับสมาชิกต่อไป เพราะกระบวนการแข่งขันการเลือกตั้งถือว่าจบลงแล้ว

ทั้งนี้ หากกระบวนการแต่งตั้งทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว สิ่งแรกที่จะต้องดำเนินการให้เร็วที่สุดคือ 1. การเร่งดำเนินการเรื่องปรับตำแหน่ง “นักสาธารณสุข” ที่อาจมีการเกิดความคลาดเคลื่อน และความไม่เข้าใจตรงกันอยู่ตอนนี้  โดยเฉพาะในเรื่องของวุฒิการศึกษาซึ่งก่อนหน้านี้มีการพูดคุยกันแล้วและเกิดความเข้าใจกันมากขึ้นแล้ว คงต้องเร่งติดตามกับ บค.สธ. ต่อไป  เพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกัน ฉะนั้นสำคัญเลยกรรมการชุดเดิมต้องเร่งแต่งตั้งกรรมการชุดใหม่ให้แล้วเสร็จภายใน 30 วันเพื่อไม่ให้เป็นช่องว่างในการขับเคลื่อนในเรื่องนี้ 

2. เรื่องการจัดทำมาตรฐานวิชาชีพ เพื่อจะการผลักดันค่าตอบแทนวิชาชีพ ซึ่งจะไปสอดคล้องกับเรื่องการปรับตำแหน่งนักสาธารณสุขด้วย ซึ่งการทำงานตรงนี้จะเกิดกระบวนการทำงานร่วมกันกับเครือข่ายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ชมรมสมาคมสาธารณสุขฯ กลุ่มสถาบันการศึกษาต่างๆ และ 3. เรื่องการปรับรูปแบบการสอบขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกอบวิชาชีพ ที่ตอนนี้มีสมาชิกหลายคนยังสอบไม่ผ่าน ซึ่งเรื่องนี้จะมีการหารือวิธีการว่าจะเกื้อกูลกับกลุ่มสมาชิกที่สอบหลายครั้งแล้วแต่ยังไม่ผ่านให้สามารถขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกอบวิชาชีพให้ได้เร็วที่สุดอย่างไร รวมถึงกลุ่มที่ใบประกอบวิชาชีพใกล้จะหมดอายุ  ที่กล่าวมาข้างต้นถือเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องทำให้เร็วที่สุด

"ในส่วนเรื่องนโยบายที่เราได้หาเสียงไว้ก็ยังต้องขับเคลื่อนต่อไปเช่นกัน ที่สำคัญในการทำงานเราเน้นการทำงานร่วมกันกับภาคีเครือข่าย และยินดีที่จะรับฟังข้อเสนอแนะต่างๆจากสมาชิกด้วยเช่นกันเพื่อนำไปปรับปรุงและพัฒนาให้เป็นประโยชน์กับสมาชิกต่อไป" รศ.วรพจน์ กล่าว