“ชลน่าน-อุ๊งอิ๊ง” นำทีม เปิด “30 บาทรักษาทุกที่ฯ” เฟส 2 อย่างเป็นทางการ ที่โคราช "แอนโทเนีย โพซิ้ว” ร่วมงาน พร้อมอีก 7 จังหวัด จ่อขยายเฟส 3 พ.ค.นี้ ครอบคลุม 6 เขตสุขภาพ รววมแล้ว 3 ระยะมี 45 จังหวัด ก่อนครบทั่วประเทศภายในปี 67 เตรียมขยายแผนพัฒนาบริการเพิ่ม ทั้งเจาะเลือดที่บ้าน ส่งต่อทั่วประเทศแบบไร้รอยต่อ ให้ประชาชนสะดวก และจัดระบบลดภาระงานบุคลากรให้มากที่สุด
เมื่อวันที่ 30 มีนาคม ที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 จ.นครราชสีมา นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร รองประธานคณะกรรมการพัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และ น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมเปิดงาน “ยกระดับ 30 บาท รักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว” เฟสที่ 2 ขยายเพิ่มอีก 8 จังหวัด จากเฟสแรก 4 จังหวัด รวมแล้ว12 จังหวัด
แอนโทเนีย โพซิ้ว ร่วมงานโคราช
โดยมีผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข นำโดย นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ผู้บริหารในพื้นที่ บุคลากรสาธารณสุข ผู้นำชุมชน ผู้นำท้องถิ่น อสม. และประชาชน เข้าร่วมงานกว่า 10,000 คน พร้อมกันกับอีก 7 จังหวัด รวมเป็น 8 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ สิงห์บุรี หนองบัวลำภู สระแก้ว อำนาจเจริญ และพังงา อีกทั้ง ภายในงาน "แอนโทเนีย โพซิ้ว" รองอันดับ 1 มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2023 ยังได้ร่วมแสดงโชว์เปิดงานดังกล่าว
"อุ๊งอิ๊ง" เผยยกระดับ 30 บาทรักษาทุกที่ลดความแออัดในรพ.
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร รองประธานคณะกรรมการพัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติ กล่าวถึงความเป็นมานโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค ว่า วันนี้เราจะพลิกโฉมจากความสำเร็จของ 30 บาทรักษาทุกโรค เป็น “ 30 บาทรักษาทุกที่” ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วย มีรพ.อัจฉริยะเข้ามาช่วย รวมทั้งยังใช้บริการต่อเนื่องในหน่วยบริการใกล้บ้าน ทั้งคลินิก ร้านยา แล็บ ฯลฯ เชื่อมโยงข้อมูลด้วยบัตรประชาชนใบเดียว โดยมีการนัดหมายและให้บริการระบบการแพทย์ทางไกลแล้ว 55,446 ครั้ง ใช้บริการนัดหมายออนไลน์ทุกสังกัดผ่าน “หมอพร้อมสเตชัน” และระบบ สอน.บัดดี้แล้วกว่า 2.2 หมื่นครั้ง และช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ มีการออกใบรับรองแพทย์ดิจิทัล 81,317 ใบ
“อีกประการหนึ่งที่สำคัญช่วยลดความแออัดในการรอคอยยาใน รพ. และอำนวยความสะดวกประชาชนอย่างดี คือ จัดส่งยาและเวชภัณฑ์โดย Health Rider ครอบคลุมแล้วกว่า 35 จังหวัด 55,376 ออร์เดอร์ ผู้รับบริการกว่า 90% พึงพอใจในระดับดีมาก ขอย้ำว่าภายใต้รัฐบาลท่านนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน และคณะกรรมการพัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติ มุ่งมั่นพัฒนาระบบสาธารณสุขของประเทศให้มีคุณภาพยั่งยืน เพื่อบรรลุเป้าหมายสูงสุดของนโยบายยกระดับ 30 บาทรักษาทุกที่ฯ เพื่อให้ประชาชนได้รับการดูแลรักษา ส่งเสริม ฟื้นฟูสุขภาพผ่านระบบดิจิทัลทันสมัยอย่างเท่าเทียม ทั่วถึง ลดเหลื่อมล้ำ ลดรอคอยภายใต้มาตรฐานที่มีคุณภาพ ที่สำคัญขอขอบคุณบุคลากรสาธารณสุขทุกท่าน พี่น้องอสม. และทุกส่วนที่เกี่ยวข้องที่ร่วมกันขับเคลื่อนนโยบายฯ” น.ส.แพทองธาร กล่าว
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การยกระดับระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ให้ประชาชนสามารถใช้บัตรประชาชนใบเดียวเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลทุกที่ทั้งรัฐและเอกชน เป็นหนึ่งในนโยบายรัฐบาลที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้แถลงต่อรัฐสภา และเป็นนโยบายที่กระทรวงสาธารณสุขให้ความสำคัญ เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตของประชาชนทุกคน ทุกพื้นที่ ด้วยการเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพจากหน่วยบริการทุกระดับ ทุกสังกัด และยกระดับหน่วยบริการให้เป็นโรงพยาบาลอัจฉริยะ นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้จัดบริการสุขภาพ ซึ่งปัจจุบัน มีหน่วยบริการสังกัด สป.สธ. ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน รพ.อัจฉริยะแล้ว 99.7% รวมทั้งมีการเชื่อมต่อ Application และไลน์หมอพร้อม ทั่วประเทศแล้วกว่า 40 ล้านคน
ขยาย 6 เขตสุขภาพ (1, 3, 4, 8, 9 และ 12) เดือน พ.ค.
นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า จากการตรวจเยี่ยมติดตามการให้บริการในระบบต่างๆ ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา และโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี อาทิ ประวัติสุขภาพอิเล็กทรอนิกส์ การออกใบรับรองแพทย์ดิจิทัล ใบสั่งยา/ใบสั่งแล็บออนไลน์ การแพทย์ทางไกล เภสัชกรรมทางไกล การรับยาผ่านระบบเภสัชกรรมทางไกล การดูแลผู้ป่วยที่บ้านทางไกล รวมถึงระบบความปลอดภัยทางไซเบอร์ พบว่ามีความพร้อมอย่างมาก มีการยืนยันตัวตนของผู้รับบริการ Health ID 1,286,975 คน และลงทะเบียนผู้ให้บริการ Provider ID แล้ว 18,862 คน คิดเป็น 96.3% ของบุคลากรในจังหวัด ทุกโรงพยาบาลในสังกัด สธ. เชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพได้ 100% ส่วนการยกระดับ 30 บาทรักษาทุกที่ฯ ระยะที่ 3ในช่วงเดือนพฤษภาคมจะขยายเป็น 6 เขตสุขภาพ คือ เขตสุขภาพที่ 1, 3, 4, 8, 9 และ 12 ซึ่งเมื่อรวมกับ 2 ระยะแรกจะครอบคลุมถึง 45 จังหวัด จากนั้นจะขยายให้ครอบคลุมทั้งประเทศ ภายในปี 2567 นี้
วางแผนเพิ่มบริการเจาะเลือดที่บ้าน ส่งต่อทั่วประเทศไร้รอยต่อ
นพ.ชลน่าน กล่าวอีกว่า ในอนาคตอันใกล้วางแผนพัฒนาบริการเพิ่มขึ้น เช่น เจาะเลือดที่บ้าน ส่งต่อทั่วประเทศไร้รอยต่อ ช่วยเหลือผู้ป่วยติดบ้านติดเตียง ผู้สูงอายุ ทั้งหมดเพื่อให้เกิดความสะดวกสบายประชาชน ควบคู่กับการลดภาระงานของบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ในโอกาสนี้ขอขอบคุณบุคลากรทุกภาคส่วน ทั้งบุคลากรสาธารณสุข อสม. ภาคีเครือข่ายที่ร่วมกันขับเคลื่อนนโยบายยกระดับ 30 บาทรักษาทุกที่ฯเป็นไปด้วยดี
"ในนามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ภูมิใจที่ได้มายืนอยู่ตรงนี่ท่ามกลางทุกท่านที่มีความรู้ความสามารถขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าว เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนคนไทยทุกคนในทุกมิติ” รัฐมนตรีว่าการ สธ.กล่าว
- 707 views