ฝุ่นพิษ PM 2.5 ภัยสุขภาพระยะยาว กับความเสี่ยง "มะเร็งปอด" สธ.เผยมีผู้ป่วยโรคที่เกี่ยวข้องกับมลพิษทางอากาศเพิ่มขึ้น ปี 2566 ยอด 16,123 คน อุบัติการณ์การเกิดมะเร็งปอดปี 2559-2561 พบ! ผู้ป่วยภาคเหนือสูงสุด ภาคอิสานต่ำสุด
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา คนไทยต้องเผชิญกับภาวะฝุ่นพิษ ตัวการร้ายที่ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพมากมาย โดยมีต้นตอปัญหาที่หลากหลายตามแต่ละพื้นที่ และต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย
คนไทยเชื่ออีก 5 ปีข้างหน้าปัญหาสิ่งแวดล้อมจะเลวร้ายลง
จากการสำรวจความคิดเห็นประชาชน ซึ่งเป็นการร่วมมือกันระหว่างมาร์เก็ตบัซซและวิทยาลัยโลกคดีศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พบว่า ปัญหาสิ่งแวดล้อมอันดับต้น ๆ ที่คนไทยวิตกกังวล
- สภาวะโลกร้อน 44%
- มลพิษทางอากาศ 44%
- การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ 25%
หายใจเอามลพิษทางอากาศ 3 ปี เสี่ยงมะเร็งปอด
คนไทยเชื่อว่า สถานการณ์ปัญหาสิ่งแวดล้อมจะมีความเลวร้ายลงอีกใน 5 ปีข้างหน้า ข้อมูลจาก ThaiHealth Watch 2024 จับตาทิศทางสุขภาพคนไทย ปี 2567 : Next Gen Living คุณภาพชีวิตในอนาคต ชี้ให้เห็นถึงความกังวลต่อฝุ่นจิ๋วและผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว
เพราะฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เมื่อเข้าสู่ร่างกายสามารถเข้าไปในปอดได้ลึก เชื่อมโยงกับปัญหาสุขภาพ เช่น โรคหัวใจและโรคมะเร็งปอด โดยนักวิจัยด้านมะเร็งชาร์ลส์ สวันตัน (Charles Swantan) จากสถาบันฟรานซิส คริก (Francis Crick Institute) สหราชอาณาจักร เผยว่า การได้รับมลพิษทางอากาศเพียงแค่ 3 ปี ก็เพิ่มความเสี่ยงมะเร็งปอดได้
ปี 2559-2561 พบ! ผู้ป่วยมะเร็งปอด ภาคเหนือสูงสุด ภาคอิสานต่ำสุด
ด้าน นพ.อรรถพล แก้วสัมฤทธิ์ รองอธิบดีกรมอนามัย ให้สัมภาษณ์กับ Hfocus ว่า ในภาพรวม มีผู้ป่วยโรคมะเร็งปอดเพิ่มมากขึ้น โดยมะเร็งปอด ไม่ได้เกิดจากฝุ่นพิษอย่างเดียว อาจเกิดได้จากยีน หรือพฤติกรรม เช่น การสูบบุหรี่ หรือการสูดดมควันบุหรี่มือ 2 แต่การได้รับ PM 2.5 เป็นตัวกระตุ้นตัวหนึ่งที่ทำให้เกิดได้ ทั้งนี้ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) มุ่งเน้นการป้องกันฝุ่นพิษเข้าสู่ประชาชน มีนโยบายตั้งแต่ต้นทาง โดยโรงพยาบาลในเครือของ สธ. จะพยายามใช้พลังงานสะอาด มีการจัดการขยะหรือแยกขยะ ทำให้การเผาลดลง มีนโยบายให้ลดการใช้ไฟฟ้า และการสนับสนุนเรื่องห้องปลอดฝุ่น ร่วมกับการสื่อสารให้ความรู้ด้านพฤติกรรมสุขภาพ เช่น การสูด PM 2.5 ส่งผลต่อร่างกาย ดังนี้
การสูด PM 2.5 ส่งผลระยะสั้น
- เกิดการระคายเคืองตา ผิวหนัง
- คัดจมูก มีน้ำมูก
- หายใจลำบาก
- เหนื่อยง่าย
การสูด PM 2.5 ส่งผลระยะยาว
- โรคหัวใจและหลอดเลือด
- โรคหลอดเลือดสมอง
- โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง
- โรคมะเร็งปอด
อุบัติการณ์การเกิดมะเร็งปอด 2559-2561 หน่วยต่อแสนประชากร
ภาคเหนือสูงสุด: เพศชาย 33.1 คน เพศหญิง 19.9 คน
ภาคอิสานต่ำสุด: เพศชาย 16.9 คน เพศหญิง 8.4 คน
ส่วนอัตราป่วยด้วยโรคที่เกี่ยวข้องกับมลพิษทางอากาศ ปี 2563-2566 นพ.อรรถพล กล่าวว่า อัตราป่วยด้วยโรคที่เกี่ยวข้องกับมลพิษทางอากาศ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
- ปี 2566 16,123 คน
- ปี 2565 14,283 คน
- ปี 2564 11,881 คน
- ปี 2563 10,522 คน
ปธ.สภาลมหายใจเชียงใหม่ หนุนการกระจายอำนาจไปที่ท้องถิ่น โดยมีการจัดสรรงบฯ
ขณะที่นายชัชวาลย์ ทองดีเลิศ ประธานสภาลมหายใจเชียงใหม่ กล่าวกับ Hfocus ว่า แต่เดิมรัฐแก้ปัญหาแบบเฉพาะหน้า และใช้วิธีสั่งการลงมา การมีส่วนร่วมจึงต่ำ กฎหมายไม่สามารถจัดการปัญหาที่ซับซ้อนได้ ทำให้ปัญหาฝุ่นพิษหนักขึ้น จึงมีการเสนอการแก้ปัญหาแบบใหม่ที่เปลี่ยนไปจากเดิม โดยมีความเห็น ดังนี้
- ต้องมีข้อมูลที่ถูกต้องและรอบด้านถึงแหล่งกำเนิด และการเคลื่อนตัวของ PM 2.5 บางพื้นที่ฮอตสปอตน้อย แต่ปริมาณฝุ่นพิษเยอะ หรือบางพื้นที่ฮอตสปอตเยอะ แต่ปริมาณฝุ่นพิษน้อย ตามบริบทที่แตกต่างกันแต่ละพื้นที่ ซึ่งต้องทำให้สังคมเข้าใจ
- ระบบบริหารจัดการต้องเปลี่ยนใหม่ สร้างการมีส่วนร่วมทุกฝ่าย เพราะทุกคนมีส่วนร่วมในการปล่อย PM 2.5 ทำอย่างไรให้ทุกองคาพยพเข้ามาช่วยกัน
- ต้องใช้ความรู้ในการแก้ไขปัญหา สิ่งที่นำเสนอ คือ การป้องกันและบริหารจัดการเชื้อเพลิงแบบควบคุม โดยบูรณาการและมีส่วนร่วมในทุกภาคส่วน
"การทำงานจึงต้องมีการวางแผนจากทุกฝ่าย และต้องผ่านงานวิชาการ เชียงใหม่เลือกใช้แอปพลิเคชันไฟดี (FireD) ในการบริหารจัดการแบบควบคุม ไม่ให้เกิดไฟที่ไร้การควบคุม ทำให้อยู่ในขอบเขตที่รับได้ พยากรณ์ไปได้ 3-5 วัน เชียงใหม่ใช้มาแล้ว 3 ปีต่อเนื่อง ถ้าใครไม่แจ้งว่ามีการเผาจะโดนจับ ถ้าแจ้งมาจะถือว่าอยู่ในระบบ และทำเป็นวอร์รูม มีองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ที่ทันสมัย ในนั้นจะตรวจสอบได้หมด ช่วยในการตัดสินใจ โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ในวอร์รูมนี้หมด ส่วนการทำงานในพื้นที่ มีการทำแนวกันไฟ มีหน่วยลาดตระเวน ช่วยควบคุมดูแลอยู่" นายชัชวาลย์ กล่าว
ประธานสภาลมหายใจเชียงใหม่ เพิ่มเติมว่า จากนี้การสื่อสารเชิงรุกสำคัญมาก ปัญหาฝุ่นพิษเป็นเรื่องซับซ้อน อย่างหมอกควันข้ามแดน เชียงใหม่ได้รับผลกระทบ 30% เชียงรายในปีที่ผ่านมา จุดฮอตสปอตน้อยมาก แต่ฝุ่นควันเยอะ ชัดเจนว่ามาจากหมอกควันข้ามแดน ขึ้นอยู่กับกระแสลม การระบายตัวของอากาศที่เกิดขึ้นมาในระยะ 10 ปีนี้เอง น่าจะเกิดจากโลกร้อน หากมีกฎหมายมาดูแลตรงนี้จะคุมทุกแหล่งกำเนิดได้
เมื่อถามถึงการกระจายอำนาจไปที่ท้องถิ่น นายชัชวาลย์ ให้ความเห็นว่า หากมีการกระจายอำนาจไปที่ท้องถิ่นจริง ๆ แก้โดยที่ท้องถิ่นช่วยกันแก้จะมองเห็นปัญหา แก้ไขได้ดีกว่า ที่ผ่านมา มีการโอนภารกิจไปให้ท้องถิ่น แต่ยังไม่มีงบประมาณ เช่น การถ่ายโอนภารกิจไฟป่า ที่ยังดำเนินการไม่ได้ เพราะมีปัญหาเรื่องเงินสนับสนุน ตอนนี้เป็นสูญญากาศอยู่
แหล่งกำเนิด PM 2.5
สำหรับการเกิดฝุ่นพิษในแต่ละพื้นที่ ก็มีแหล่งกำเนิด PM 2.5 ที่แตกต่างกัน ได้แก่
ภาคเหนือ
- ไฟป่า
- การเผาเศษวัสดุการเกษตร
- หมอกควันข้ามแดน
ภาคกลาง
- การเผาเศษวัสดุการเกษตร
- ไฟป่า
- หมอกควันข้ามแดน
กทม.และปริมณฑล
- ยานพาหนะ
- การเผาในที่โล่ง
- โรงงานอุตสาหกรรม
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
- การเผาเศษวัสดุการเกษตร
- หมอกควันข้ามแดน
- การเผาริมทาง
ภาคใต้
- หมอกควันข้ามแดน (ก.ค.-ก.ย.)
ประชุมระดับชาติ เรื่อง มลพิษทางอากาศ PM2.5 ครั้งแรก
เนื่องจากปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 เป็นปัญหาระดับชาติ เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 2566 ที่ผ่านมา จึงมีการจัดการประชุมระดับชาติ เรื่อง มลพิษทางอากาศ PM2.5 ครั้งที่ 1 (Thailand National PM2.5 Forum) หัวข้อ “อากาศสะอาด : ความรับผิดชอบร่วมของรัฐ เอกชน และประชาสังคม” ขึ้น ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา จ.เชียงใหม่
นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่งว่า คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (กก.วล.) ได้เห็นชอบมาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 การขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ “การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง” และ “มาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ประจำปี 2567” และเมื่อวันที่ 6 พ.ย. 2566 นายกรัฐมนตรี ได้ลงนามคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการจัดการปัญหามลพิษทางอากาศเพื่อความยั่งยืน หรือ บอร์ดฝุ่นชาติ เพื่อเป็นกลไกเร่งรัดจัดทำแผนและดำเนินมาตรการเพื่อลดฝุ่นควัน PM2.5 ทั้งระบบ และบูรณาการหน่วยงานรัฐบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และเมื่อวันที่ 28 พ.ย. 2566 คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติหลักการร่าง พ.ร.บ. บริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด พ.ศ. ... และรับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง กรอบระยะเวลา และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ออกตาม พ.ร.บ. ดังกล่าว ตามที่ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
สำหรับสาระสำคัญของ พ.ร.บ.ดังกล่าว กำหนดกลไกบริหารจัดการและควบคุมกิจกรรมต่าง ๆ ที่ส่งผลให้เกิดมลพิษทางอากาศในทุกมิติ มีคณะกรรมการทำหน้าที่ขับเคลื่อนเชิงนโยบาย เชิงวิชาการ และบริหารจัดการเชิงพื้นที่ กำหนดมาตรการควบคุมมลพิษจากแหล่งกำเนิด ทั้งโรงงานอุตสาหกรรม สถานประกอบการ เกษตรกรรม การคมนาคมและขนส่ง การเผาในที่โล่ง เผาป่า เผาในพื้นที่เกษตรกรรม ก่อสร้าง หมอกควันข้ามแดน ตลอดจนมีเครื่องมือ หรือมาตรการทางเศรษฐศาสตร์ เพื่อเป็นกลไกสนับสนุนให้ภาคอุตสาหกรรม ภาคธุรกิจ รวมถึงประชาชนทั่วไปมีส่วนร่วมรับผิดชอบ และมีบทบาทหน้าที่ในการควบคุม ปรับลด และแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศร่วมกัน
การทำงานหลังจากนี้จึงต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจจากทุกฝ่าย ร่วมกับการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวด เป็นความรับผิดชอบร่วมกัน เพื่ออากาศสะอาดในอนาคต
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง:
ประชุมระดับชาติ PM 2.5 เปิดเวทีถกประเด็นอากาศสะอาด คุ้มครองสุขภาพ ปชช.
ยื่น 11 ข้อเสนอแนะเชิงมาตรการ ให้รัฐบาลป้องกันและแก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM2.5
- 545 views