ศวส.ห่วงปัญหาอุบัติเหตุ ความรุนแรงพุ่ง หลังเปิดผับบาร์ถึงตี 4

รองผอ.ศวส. ห่วงปัญหาอุบัติเหตุ ความรุนแรงพุ่ง หลังรัฐเดินหน้าเปิดผับตีสี่ ระบุงานวิจัยชี้ชัดสารพัดปัญหามักเกิดในช่วงเวลาขาย-ดื่ม น้ำเมา  จี้รัฐสรุปผลปีใหม่คุ้มหรือไม่ 

เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. รศ.ดร.นพ.พลเทพ วิจิตรคุณากร รองผู้อำนวยการศูนย์วิจัยปัญหาสุรา (ศวส.) กล่าวว่า ตามรัฐบาลอนุญาตให้มีการการขยายเวลาเปิดสถานบริการถึง 04.00 น. ใน 5 พื้นที่นำร่อง คือกรุงเทพมหานครภูเก็ต ชลบุรี เชียงใหม่ และเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เริ่มไปแล้วเมื่อคืนวันที่ 15 ธ.ค.ที่ผ่านมา แม้จะมีการทักท้วงขอให้ชะลอนโยบายนี้ออกไปก่อน รวมถึงตน เพราะห่วงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น โดยเฉพาะปัญหาอุบัติเหตุทางถนน การเข้าถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของเด็ก และเยาวชนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งนอกจากรัฐไม่ได้ชะลอนโยบายแล้ว ยังพบว่ายังมีการอนุญาตให้สถานบริการในทุกท้องที่ทั่วประเทศสามารถเปิดบริการในคืนส่งท้ายปีเก่า 31 ธ.ค. ไปจนถึงเวลา 06.00 น. ของวันปีใหม่ 1 ม.ค.อีกด้วย 2567 ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ากังวลมาก

รศ.ดร.นพ.พลเทพ กล่าวต่อว่า นอกจาก แอลกอฮอล์ยังมีฤทธิ์ทำให้ผู้ดื่มลดหรือขาดความยับยั้งชั่งใจ และการตัดสินใจบกพร่อง อาจนำไปสู่การคุกคามทางเพศ ซึ่งมีงานวิจัยชี้ชัดว่า แอลกอฮอล์เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดการล่วงละเมิดทางเพศ ประมาณ 50% และยังสัมพันธ์กับปัญหาความรุนแรงในครอบครัว ความรุนแรงในสังคม และปัญหาอาชญากรรม  การทำร้ายร่างกาย การทะเลาะวิวาท การทำลายข้าวของและทรัพย์สินสาธารณะ เป็นต้น จะพบมากในช่วงเวลาที่มีการจำหน่าเครืองดื่มแอลกอฮอล์ ดังนั้น การควบคุมช่วงเวลาจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และจำกัดเวลาให้บริการของสถาบันเทิงก็ช่วยป้องกันและลดปัญหาอาชญากรรมลงได้

ดังนั้น ก่อนปีใหม่นี้ รัฐต้องแสดงให้เห็นว่าหลังจากที่มีการขยายเวลาแล้ว อุบัติเหตุจราจรไม่เพิ่มขึ้น และมาตรการที่ดำเนินการอยู่มีความคุ้มค่า โดยหลังจากวันที่ 15 ธ.ค.นี้ไปจนถึงหลังปีใหม่ รัฐต้องติดตามประเมินผลของมาตรการเป็นระยะและนำเสนอผลที่เกิดขึ้นต่อสาธารณชน เพื่อช่วยในการปรับปรุงมาตรการให้เหมาะสมต่อการปกป้องสุขภาพและชีวิตของประชาชน โดยความเสี่ยงนี้ไม่ควรรอนาน