ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

เครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์ เตรียมรวมพลบุกทำเนียบรัฐบาล 13 ธ.ค.นี้ ค้านขยายเวลาเปิดผับบาร์ถึงตี 4 พร้อมมอนิเตอร์ทุกพื้นที่หลังรัฐเปิดโซนนิ่ง หากมีคนเจ็บตายเพิ่ม! ต้องมีคนรับผิดชอบทางการเมือง

 

เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม นายชูวิทย์ จันทรส ผู้ประสานงานเครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์ กล่าวถึงการเคลื่อนไหวแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยเปิดผับบาร์ถึงตี 4 และรัฐบาลเตรียมจะคิกออฟในวันที่ 15 ธันวาคมนี้ ว่า ในวันที่ 13 ธันวาคมนี้ ทางเครือข่ายเตรียมขับเคลื่อนคัดค้านนโยบายขยายเวลาเปิดสถานบริการ ผับบาร์ถึงตี 4 ที่ทำเนียบรัฐบาล เนื่องจากนโยบายนี้ทำอย่างเร่งรัด ไม่ได้รับฟังความเห็นจากภาคประชาชนอย่างแท้จริง ซึ่งนโยบายนี้เกี่ยวข้องกับชีวิตของประชาชน มีทั้งเจ็บ ตาย พิการ ไม่เหมือนกับดิจิทัลวอลเล็ต จะมาขับเคลื่อนนโยบายไปแก้ปัญหาไปไม่ได้ อย่างไรก็ตาม แม้รู้ว่าไม่อาจคัดค้านได้ แต่ก็จะไม่นิ่งเฉย เราต้องการให้รัฐบาลรับรู้ว่า มีคนกังวลเกี่ยวกับนโยบายนี้ โดยจะมอนิเตอร์ทุกพื้นที่ที่เปิดโซนนิ่งขยายเวลาเปิดสถานบันเทิง กทม. ชลบุรี ภูเก็ต เชียงใหม่ และเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี หากมีคนเจ็บตายขึ้นมารัฐบาลต้องรับผิดชอบ

 

"นักการเมือง ทั้งนายเศรษฐา ทวีสิน  นายกรัฐมนตรี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และ น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ควรแสดงความรับผิดชอบ หากมีผู้บาดเจ็บ เสียชีวิต พิการ จากเมาแล้วขับจากนโยบายนี้ เพราะมีแต่พูดเรื่องขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ขณะที่นโยบายก็สวนทางกับผลวิจัยของกระทรวงท่องเที่ยวฯ เอง" นายชูวิทย์กล่าว

 

นายชูวิทย์กล่าวว่า เรื่องมาตรการรองรับหากจัดรถรับส่งสาธารณะให้คนเมาได้ก็เป็นเรื่องที่ดี แต่จะทำจริงได้หรือไม่ มองว่าสาธารณสุขควรออกมาตรการให้ชัด อย่างเรื่องห้ามขายให้คนเมาครองสติไม่ได้มีมานานแล้ว แต่ไม่เคยมีการออกเกณฑ์ที่ชัดเจน ทำให้ร้านค้า สถานบันเทิง ไม่รู้ว่าต้องปฏิบัติอย่างไร ซึ่งอย่างในต่างประเทศ ทางร้านขาย ร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เขามีเรื่องนี้ หากลูกค้าไปเมาแล้วขับเกิดอุบัติเหตุ ผู้ประกอบร้านค้านั้นก็ต้องร่วมรับผิดชอบด้วย

(ข่าวเกี่ยวข้อง : เปิดผลสำรวจกว่า 70% ไม่เห็นประโยชน์ และ 51.8% ไม่เห็นด้วยขยายเวลาปิดผับบาร์ตี 4)