“นพ.ประวัติ กิจธรรมกูลนิจ”  อดีตผอ.รพ.ด่านมะขามเตี้ย สู่เส้นทางใหม่ ว่าที่ ‘นายก อบจ.กาญจนบุรี’  สิ่งแรกที่ต้องทำ คือ "ยกระดับสุขภาพปฐมภูมิ-เพิ่มบุคลากร-พบหมอออนไลน์"  ขึ้นแท่นเป็น “รพ.สต.พรีเมียม”   เดินหน้าใช้บัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ เพื่อให้จังหวัดมีระบบสุขภาพปฐมภูมิที่ดีกว่าเดิม

หากพูดถึง “หมอนักพัฒนา” หนึ่งในนั้นต้องมีชื่อ “หมอประวัติ”  หรือ นพ.ประวัติ กิจธรรมกูลนิจ  อดีตผู้อำนวยการโรงพยาบาลด่านมะขามเตี้ย และรองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี ผู้ซึ่งบริหารโรงพยาบาลชุมชนขนาด 30 เตียงพลิกฟื้นจากวิกฤตขาดสภาพคล่องระดับ 7 หรือระดับรุนแรงสูงสุดจนสามารถกลายมาเป็นหน่วยบริการ Digital Hospital ที่มีการจัดระบบคิว นัดออนไลน์ สร้างความสะดวกแก่ประชาชน และการบริหารอื่นๆ

กระทั่งปัจจุบัน “หมอประวัติ” ด้วยอายุ 46 ปีกับวิสัยทัศน์ในการบริหารหน่วยบริการรูปแบบใหม่ ได้ตัดสินใจครั้งสำคัญลาออกจากราชการฟากกระทรวงสาธารณสุขเมื่อช่วงเดือนกันยายน 2566  เพื่อเข้าสู่เส้นทางการเมืองอย่างเต็มตัว โดยเข้ารับการเลือกตั้งในตำแหน่ง "นายก อบจ.กาญจนบุรี"  เรื่องนี้น่าสนใจว่า ทำไมถึงตัดสินใจเช่นนี้ และเล็งเห็นอะไรที่จะพัฒนาในส่วนของท้องถิ่น อย่างเรื่องการดูแลสุขภาพและการให้บริการรักษาสุขภาพของคนในชุมชน...

เมื่อเร็วๆนี้ สำนักข่าวออนไลน์ Hfocus มีโอกาสสัมภาษณ์พิเศษ “นพ.ประวัติ กิจธรรมกูลนิจ” ถึงเรื่องราวการตัดสินใจครั้งสำคัญ ว่า เดิมที่เคยเป็นตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลด่านมะขามเตี้ย และ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี เราจะมองเห็นภาพรวมของทั้งจังหวัด อย่างเรื่องระบบสาธารณสุข หลังจากที่มีการถ่ายโอนโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล(รพ.สต.) ไป อบจ. 100% เราจึงคิดว่า อบจ.ยังขาดบุคลากรที่จะมองภาพรวมในระบบสาธารณสุข ซึ่งท่านนายก อบจ.คนเก่าเคยชวนไปเป็นที่ปรึกษาและได้ร่วมงานกันมาในปีที่ผ่านมา  เนื่องจากมีการถ่ายโอนรพ.สต.ไปเพียง 97 แห่ง จาก 143 แห่ง 

ต่อมา นายกอบจ.คนเก่าได้ลาออกไปรับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม จึงทำให้ตำแหน่ง นายก อบจ.ว่าง ฉะนั้นจึงเป็นโอกาสที่ดี ที่นายกอบจ.คนใหม่ จะมีความรู้ในเรื่องของระบบสาธารณสุขและมองเห็นภาพกว้างๆของจังหวัด คาดว่าน่าจะทำให้การบริหารของ อบจ. ดีขึ้น และยิ่งตอนนี้ รพ.สต. ได้ถ่ายโอนมาอยู่กับ อบจ. ทั้งหมด คิดว่าความรู้ความสามารถที่เรามีอยู่น่าจะทำให้จังหวัดมีระบบสุขภาพปฐมภูมิที่ดีกว่าเดิม

จริงๆระบบสุขภาพปฐมภูมิถือเป็นต้นทางของระบบสุขภาพประชาชน แต่ปัจจุบันเนื่องจาก ขาดการพัฒนา ขาดทรัพยากร ขาดเงิน ขาดคน ฯลฯ แต่เมื่อมาอยู่ท้องถิ่นกลายเป็นต้นทางของงบประมาณ ซึ่งถ้าจะขออะไรมันก็ง่ายกว่าเดิม การจะพัฒนาระบบปฐมภูมิจะทำได้สะดวกและรวดเร็วขึ้น เนื่องจากงบฯไม่ต้องอ้อมไปที่ สสจ. สสอ. เป็นต้น 

"ปัจจุบันหลายๆอย่างดูแย่ ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างระบบ รพ.สต.หลายแห่งค่อนข้างแย่ เครื่องมืออุปกรณ์วัสดุต่างๆไม่ได้เพียงพอต่อความต้องการ แต่ตอนนี้สามารถขอสนับสนุนจาก อบจ. ได้โดยตรง"

นพ.ประวัติ กล่าวต่อว่า สิ่งแรกที่ต้องการผลักดันคือ การยกระดับสุขภาพปฐมภูมิให้แข็งแรงขึ้น , การเพิ่มบุคลากร , การพบแพทย์ทางไกล , การเชื่อมโยงข้อมูลระดับปฐมภูมิ  , การใช้บัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ 

และเหนือไปกว่านั้นคือ “รพ.สต.พรีเมียม” โดยเราจะเน้นไปที่รพ.สต.ขนาดใหญ่และสถานที่ติดกับถนนใหญ่ มีการคมนาคม กลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางผ่านไปมา การเตรียมพร้อมสถานที่อุปกรณ์ การเติมทรัพยากรต่างๆ เช่น เจาะเลือดและรู้ผลเองได้ที่รพ.สต. การเอกซเรย์ในบางจุด การส่งต่อผู้ป่วย เป็นต้น ซึ่งจะเชื่อมโยงไปถึงการท่องเที่ยวปลอดภัยได้ด้วย และสุดท้ายคือการบริการชาร์จแบตเตอรี่เพื่อรองรับรถไฟฟ้า เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถมาใช้บริการที่ รพ.สต.พรีเมี่ยมได้อีกด้วย

 หมอประวัติ ว่าที่นายก อบจ.กาญจนบุรี

 

 เมื่อครั้งนายสาธิต ปิตุเตชะ สมัยเป็น รมช.สธ. ลงพื้นที่พร้อมผู้บริหารเยี่ยม รพ.ด่านมะขามเตี้ย