รองปลัดสธ. เผย ทำหนังสือถึงสำนักงบประมาณ แจงรายละเอียดขอสนับสนุนงบกลางเป็นค่าเสี่ยงภัยโควิดใน 3 แนวทาง คือ จ่ายตั้งแต่ ก.ค. 2564 - ก.ย. 2565 รวม 6,745 ล้านบาท, จ่ายถึงมิ.ย. 2565 รวม 3,180 ล้านบาท และจ่ายถึงครึ่งเดือนมิ.ย. 2565 รวม 3 พันล้านบาท เพื่อให้พิจารณาก่อนเสนอ ครม.เห็นชอบต่อไป
เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวถึงความคืบหน้าการขอรับการสนับสนุนค่าตอบแทนเสี่ยงภัยให้บุคลากรที่ปฏิบัติงานในช่วงโควิด 19 ว่า ที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุขได้มีการหารือกับสำนักงบประมาณเพื่อขอรับการสนับสนุนงบกลางกว่า 3 พันล้านบาท มาจัดสรรเป็นค่าเสี่ยงภัยโควิด 19 ให้แก่บุคลากรที่ปฏิบัติงานโควิด 19 ทั้งในสังกัดและนอกสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทุกสายงาน แต่มีข้อติดขัดเรื่องเอกสารหลักฐานในการเบิกจ่ายของหน่วยงานนอกสังกัดกระทรวงสาธารณสุขยังไม่ครบถ้วน
สธ.ชง 3 แนวทางจ่ายค่าเสี่ยงภัยโควิด19
ล่าสุดเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุขได้ทำหนังสือถึงผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เรื่องรายละเอียดประกอบการขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการบรรเทา แก้ไขปัญหา และเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของกระทรวงสาธารณสุข ในการจัดสรรเป็นค่าเสี่ยงภัยลำดับแรก โดยมี 3 แนวทาง ดังนี้
1.จัดสรรให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานระหว่างเดือนกรกฎาคม 2564 - กันยายน 2565 หรือถึงช่วงสิ้นสุดการประกาศให้โรคโควิด 19 เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขของประเทศไทย จำนวน 6,745,641,640.41 บาท 2.จัดสรรให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานระหว่างเดือนกรกฎาคม 2564 - มิถุนายน 2565 หรือจนถึงช่วงที่ประเทศไทยประกาศเปิดประเทศในวันที่ 1 กรกฎาคม 2565 จำนวน 3,180,738,958.44 บาท และ 3.จัดสรรภายในกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการบรรเทาแก้ไขปัญหา และเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด 19 จำนวน 3 พันล้านบาท โดยให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานระหว่าง กรกฎาคม 2564 - พฤษภาคม 2565 จำนวน 2,816,089,333.28 บาท และเดือนมิถุนายน 2565 เป็นระยะเวลา 15 วัน จำนวน 183,910,666.72 บาท
ย้ำ! ขั้นตอนจากนี้อยู่ที่สำนักงบประมาณ
"ขั้นตอนต่อจากนี้ อยู่ที่สำนักงบประมาณในการพิจารณาว่าจะเห็นชอบสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายงบกลางตามแนวทางใด และนำเสนอต่อไปยังคณะรัฐมนตรีรักษาการให้ความเห็นชอบต่อไป ซึ่งหากพิจารณาให้จ่ายภายใต้กรอบวงเงิน 3 พันล้านบาท ที่จะจ่ายได้ถึงช่วงเดือนมิถุนายน 2565 เป็นเวลา 15 วัน ในส่วนที่เหลือจนถึงเดือนกันยายน 2565 จะต้องรอรัฐบาลใหม่ จึงจะดำเนินการอีกครั้ง" นพ.ทวีศิลป์กล่าว
*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org
- 5758 views