กรมควบคุมโรคเตรียมส่งหนังสือถึง รพ.เอกชนทุกแห่ง ไม่ให้รับตรวจเอชไอวีให้สถานประกอบการ นำไปใช้เป็นเงื่อนไขกีดกันรับคนเข้าทำงาน ขณะที่กระทรวงแรงงาน เคยย้ำชัดเรื่องนี้
เมื่อวันที่ 17 มีนาคม นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ เรียกร้องกรณีการตีตราผู้ติดเชื้อเอชไอวีของสถานประกอบการหลายแห่ง ที่มีการกำหนดให้ตรวจสุขภาพและให้ตรวจเชื้อเอชไอวี เพื่อเป็นเงื่อนไขก่อนรับเข้าทำงาน โดยสถานพยาบาลเอกชนมีการตรวจโดยไม่แจ้งให้ผู้ตรวจทราบและส่งผลไปยังสถานประกอบการโดยตรง ซึ่งที่ผ่านมาคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน ชี้ชัดว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน ว่า นอกจากลดจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่และลดการเสียชีวิตแล้ว การลดการตีตราและการเลือกปฏิบัติเป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่กรมควบคุมโรคร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พยายามดำเนินการขับเคลื่อนเพื่อลดปัญหาเหล่านี้
ไม่ให้สถานประกอบการบังคับตรวจหาเชื้อเอชไอวี
จากการประชุมเมื่อเร็วๆ นี้ ทราบว่า ทางกระทรวงแรงงานได้มีการทำหนังสือออกประกาศถึงสถานประกอบการทุกแห่งทั่วประเทศ แจ้งว่าไม่ให้สถานประกอบการไม่ให้มีการบังคับตรวจหาเชื้อเอชไอวีและเอาผลการตรวจมาใช้กีดกันในการเข้าทำงาน ดังนั้น ในส่วนของสถานพยาบาล ทางกรมควบคุมโรคจะทำหนังสือถึง รพ.เอกชนให้ทราบถึงเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน
"ที่ผ่านมาเข้าใจว่าอาจจะยังมีบางส่วนที่ยังไม่ทราบ เมื่อสถานประกอบการมาขอให้ตรวจจึงมีการดำเนินการตรวจให้ จึงต้องทำหนังสือแจ้งย้ำให้ชัดเจนว่า การที่สถานประกอบการส่งคนมาตรวจสุขภาพก่อนรับเข้าทำงาน หากมีการตรวจหาเชื้อเอชไอวีด้วยถือเป็นข้อห้าม ไม่ควรรับตรวจการหาการติดเชื้อเอชไอวี ดังนั้น ก่อนจะทำข้อตกลงระหว่างสถานประกอบการกับ รพ.เอกชนในการรับตรวจสุขภาพ ก็ควรทำความเข้าใจกันให้ชัดเจน" นพ.ธเรศกล่าว
นพ.ธเรศกล่าวว่า แต่หากผู้มารับบริการประสงค์ที่จะขอตรวจหาการติดเชื้อ ก็ต้องดำเนินการตรวจตามมาตรฐาน ที่จะต้องมีการทำความเข้าใจกับผู้รับบริการและมีการเซ็นยินยอมก่อน ที่สำคัญเมื่อผลตรวจออกมาก็ต้องส่งผลตรวจให้แก่ผู้มารับบริการโดยตรง ไม่ได้ส่งไปที่นายจ้าง ซึ่งจริงๆ ไม่ใช่แค่ผลการตรวจเชื้อเอชไอวี แต่มองว่ายังรวมถึงผลการตรวจสุขภาพอื่นๆ ของผู้มารับบริการด้วย เพราะข้อมูลเหล่านี้ถือเป็นข้อมูลสุขภาพส่วนบุคคล ผลตรวจจึงควรส่งไปยังผู้มารับบริการและให้ผู้มารับบริการเป็นผู้ยื่นแก่สถานประกอบการด้วยตนเอง
- 358 views