ประชุมผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข แจ้งงบขาขึ้น สธ.กว่า 4.3 แสนล้านเสนอสำนักงบฯแล้ว  พร้อมเดินหน้า ดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ ขณะที่ “สมชัย ศรีสุทธิยากร” จ่อยื่น กกต.ร้องป้ายประชาสัมพันธ์กระทรวงฯ อิงการเมือง ด้าน “อนุทิน” ชี้เป็นสิทธิร้องได้ แต่ทุกอย่างไม่มีอะไรแอบแฝง พร้อมชูหนังสือของ สช.จัดทำเช่นกัน เน้นประโยชน์ไม่มีนัยยะการเมือง  ส่วนกรณีย้าย “หมอสุภัทร” ย้ำทุกอย่างมีระเบียบ ไม่กระทบธรรมาภิบาล ยุคนี้ไม่ว่าวาระซ่อนเร้น แต่คนอื่นไม่รู้ ขณะที่ “หมอสวัสดิ์” เผยได้ผอ.รพ.จะนะคนใหม่แล้ว

 

เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 ที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวภายหลังการประชุมผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขว่า ในวันนี้มีการแจ้งถึงการสรุปงบประมาณขาขึ้นจำนวน   437,000 ล้านบาท ซึ่งได้นำเสนอไปยังสำนักงบประมาณแล้ว โดยจะมีรายละเอียดต่างๆ เช่น การปรับปรุงระบบสาธารณสุขต่างๆ  การเพิ่มสวัสดิการค่าป่วยการอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) 2,000 บาทต่อเดือน และการเตรียมงบประมาณดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ ทั้งการส่งเสริมสุขภาพ และการป้องกันการเจ็บป่วยต่างๆ มีการจัดคลินิกสุขภาพผู้สูงอายุเป็นพิเศษ เพื่อให้การบริการผู้สูงวัยอย่างสะดวกสบาย และหากมีความจำเป็นต้องใช้บริการต่างๆของสถานบริการสาธารณสุข เป็นต้น

**ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบายพรรคเสรีรวมไทย และอดีตกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เตรียมยื่น กกต.กรณีป้ายประชาสัมพันธ์การส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ ที่มีภาพนายอนุทิน จะเข้าข่ายขัดแนวปฏิบัติของ กกต.ในช่วง 180 วันก่อนสภาผุ้แทนราษฎรครบอายุ  นายอนุทิน กล่าวว่า  ก็เป็นเรื่องปกติ ใครจะใช้สิทธิตรงไหนก็สามารถทำได้ หากถูกกฎหมายก็จะมีขั้นตอนการปฏิบัติ แต่หากเป็นการกลั่นแกล้ง ทำให้เกิดความเสียหาย ผู้ที่ถูกพาดพิงก็มีสิทธิใช้สิทธิตามกฎหมายเช่นกัน

“จริงๆ ไม่ได้มีปัญหา นี่สมัชชาสุขภาพแห่งชาติยังทำเป็นเล่ม โดยเห็นว่าผมไปพูดเรื่องที่มีประโยชน์ ทางคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ(สช.) ก็ไปถอดเทปผมมา เพราะเห็นมีประโยชน์ มีรูปผม เพราะผมพูด ซึ่งตรงนี้ไม่ได้มีนัยยะทางการเมืองใดๆ ไม่ก่อให้เกิดความได้เปรียบอะไร ยิ่งทำให้เป็นข่าวดังๆ ก็ถือว่าขึ้นป้ายหรือป่าว ก็แล้วแต่   ซึ่งพวกผมทำงาน ไม่กังวลเรื่องพวกนี้” นายอนุทิน กล่าว

**เมื่อถามว่า นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ยังเตรียมร้องเรื่องคำสั่งย้าย นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ จากผอ.รพ.จะนะ ไปรพ.สะบ้าย้อย โดยจะยื่นร้อง กกต. เรื่องนี้ด้วย นายอนุทิน กล่าวว่า ก็แล้วแต่ เพราะว่าเรื่องการย้ายข้าราชการระดับผู้อำนวยการรพ. หรือระดับต่ำกว่า ซี 10 นั้น รัฐมนตรีไม่มีอำนาจและไม่เคยใช้อำนาจในประเด็นนี้ รัฐมนตรีจะหารือกับปลัดกระทรวงเฉพาะข้าราชการระดับซี 10 ขึ้นไป เพราะต้องเป็นผู้ลงนามเสนอ ครม.  ซึ่งหากดูรายชื่อก็มีสิทธิเชิญท่านปลัดฯ มาสอบถามได้ อันนี้คือระดับที่รัฐมนตรีจะถาม แต่ส่วนใหญ่ก็เอาตามท่านปลัดฯ หมด

**เมื่อถามว่าเรื่องนี้จะกระทบกับระบบธรรมาภิบาลของกระทรวงหรือไม่ เพราะล่าสุด ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาได้ส่งหนังสือถึงปลัดสธ. เพื่อขอให้ พิจารณาทบทวนคำสั่งย้าย นายอนุทิน กล่าวว่า  เท่าที่ได้รับรายงานมาทราบว่ามีการร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรมด้วย ท่านผู้ว่าฯ ก็ต้องออกหนังสือมาตามขั้นตอน แต่จริงๆ ท่านต้องทำไปให้ปลัดกระทรวงมหาดไทย  ต้องเป็นระดับปลัดกระทรวงกับปลัดกระทรวง แต่นอกเหนือจากนี้ตนไม่ทราบแล้ว

เมื่อถามย้ำว่า เมื่อทางผู้ว่าฯ ส่งหนังสือขอให้มีการทบทวนมาเช่นนี้ ทาง สธ.จะมีการทบทวนหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า

 “เรื่องนี้อยู่ที่ท่านปลัดสธ. ว่าจะทบทวนหรือไม่” นายอนุทิน กล่าว พร้อมหันไปสอบถาม นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดสธ. ซึ่งยืนอยู่ข้างๆ ว่าจะทบทวนหรือใม่ โดยปลัดสธ. ก็ตอบว่า “ยังไม่ได้รับหนังสือ” 

เมื่อถามด้วยว่า ขณะนี้มีฟากการเมืองพรรคต่างๆ เข้ามาแตะเรื่องการย้ายนพ.สุภัทร ถือว่าเป็นการแทรกแซงงานบริหารของกระทรวงฯ หรือไม่  นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่หรอก เรื่องแค่นี้ เอาเรื่องธรรมาภิบาลก่อน ซึ่งพวกตนเข้ามาทำงานที่สธ.  คำว่าพวกตน คือคนทำงาน  ตนคิดว่าธรรมาภิบาลสูงสุดแล้ว

“ในยุคที่อยู่กระทรวงสาธารณสุข ไม่มีเรื่องการทุจริต ไม่มีเรื่องการทำอะไรที่เคลือบแคลง สงสัย ไม่มีวาระซ่อนเร้นในส่วนของพวกผม   ส่วนคนอื่นอาจจะมีวาระซ่อนเร้นอะไรต่างๆ ก็มีการตั้งกรรมการสอบสวนไป และไปที่ป.ป.ช. แต่ระดับผู้บริหารภาพรวมสธ. คิดว่าวันนี้ทุกคนมีความภาคภูมิใจ ตั้งแต่รมว.สธ. ถึงผู้บริหารทุกคน ปลัดผ่านมาสองคนแล้ว แม้ผ่านพ้นวาระการทำงานในสธ.ไปด้วยเกียรติยศ คนที่ยังทำงานอยู่ล้วนเป็นคนตั้งใจทำงาน มีเจตนารมณ์ที่ดีต่อประชาชน เราดีใจ เต็มใจ ภาคภูมิใจที่ได้ทำหน้าที่นี้

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ใครมีวาระซ่อนเร้น และเรื่องไปที่ ป.ป.ช. นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ทราบ เรื่องนี้ขอให้ช่วยกันตรวจสอบ

 

 

วันเดียวกัน  นพ.สวัสดิ์ อภิวัจนีวงศ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 12 กระทรวงสาธารณสุข (สธ.)   ให้สัมภาษณ์กรณีจะมีการฟ้องศาลปกครองในความผิดกฎหมายอาญา มาตรา 157  จากการย้าย นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ว่ามีความกังวลหรือไม่  ว่า ไม่ได้มีความกังวลอะไร  เพราะมั่นใจว่าปฏิบัติตามระเบียบที่ถูกต้อง แต่อาจจะเป็นประเด็นว่าผู้ที่ถูกย้ายสมัครใจอยู่ต่อที่เดิม แต่มีคำสั่งให้ไปอยู่ รพ. อื่น ซึ่งตามหลักปฏิบัติแล้วทางจังหวัดสามารถพิจารณาคัดเลือกผู้ที่เหมาะสมไปดำรงตำแหน่งได้ เพียงแต่ให้ผู้ตรวจราชการฯ เป็นคนลงนามคำสั่งย้ายในระดับเชี่ยวชาญ

 

เมื่อถามว่าขณะนี้ได้ผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่ง ผอ.รพ.จะนะ แทน นพ.สุภัทร แล้วหรือไม่ นพ.สวัสดิ์ กล่าวว่า โรงพยาบาลชุมชนจะไม่มีตำแหน่งรองผู้อำนวยการ ดังนั้น ตามกระบวนการแล้วเป็นอำนาจของจังหวัดที่สามารถเปิดรับสมัครผู้ที่สนใจเข้ามาดำรงตำแหน่งได้ แต่หากไม่มีคนมาสมัครก็สามารถตั้งคณะกรรมการบริหารของจังหวัดเพื่อพิจารณาคัดเลือกผู้ที่เหมาะสม ซึ่งเป็นแพทย์ระดับเชี่ยวชาญขึ้นมาดำรงตำแหน่ง ผอ.รพ. จากนั้นก็จะส่งมาที่ผู้ตรวจราชการฯ โดยจะมีคณะกรรมการพิจารณาว่าเหมาะสมหรือไม่ เพื่อออกเป็นคำสั่งต่อไป

“ตอนนี้เราได้คนมาเป็น ผอ.รพ.จะนะ แล้ว เป็นแพทย์ระดับเชี่ยวชาญทำงานใน รพ.จะนะ มากว่า 23 ปี เป็นคนในพื้นที่ อ.จะนะ ซึ่งคณะกรรมการพิจารณาเห็นแล้วว่าคนนี้เหมาะสม สามารถดูแล รพ. ต่อจาก นพ.สุภัทร ได้ โดยสามารถเข้ารับตำแหน่งต่อได้เลย เพราะทำงานร่วมกันมากว่า 20 ปี ฉะนั้น ตำแหน่ง ผอ. ไม่ได้ว่าง” นพ.สวัสดิ์ กล่าว