นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ เปิดความในใจหลังถูกผู้ตรวจฯ เซ็นย้ายจากผอ.โรงพยาบาลจะนะ ไปเป็นผอ.รพ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ตั้งแต่วันที่ 25 ม.ค.66 ทำงานรพ.ชุมชนกว่า 20 ปีเหลืออายุราชการอีก 7 ปีตั้งใจเกษียณรพ.จะนะ   แต่ถูกย้ายมีเบื้องหลัง เพราะทักท้วงเสนอแนะเรื่องราวใน สธ. เช่น ไม่เห็นด้วยต่อนโยบายกัญชาเสรี การโยกย้ายที่ไม่เป็นธรรม การบริหารจัดการโควิดและวัคซีน  สร้างความหงุดหงิดต่อใครบางคน จนนำมาสู่คำสั่งย้ายก่อนยุบสภา
 

หลังจากนพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผอ.รพ.จะนะ ถูกคำสั่งจากผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข ย้ายให้ไปดำรงตำแหน่งเป็น ผอ.รพ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา มีผลตั้งแต่วันที่ 25 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา ได้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางถึงเบื้องหลังการโยกย้าย สืบเนื่องจากการที่ นพ.สุภัทร ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ประเด็นนโยบายกัญชา และเรื่องอื่นๆที่สวนทางกับนโยบายของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) หรือไม่นั้น

(คำสั่งย้าย : เซ็นย้าย!  “หมอสุภัทร” ผอ.รพ.จะนะ ไป รพ.สะบ้าย้อย มีผลแล้ว)

ล่าสุดวันที่ 27 มกราคม นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผอ.รพ.จะนะ ที่ได้ถูกคำสั่งย้ายไปรพ.สะบ้าย้อย ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ถึง “ความในใจเมื่อผมโดนย้าย”

ผมรับราชการมาตั้งแต่ปี 2538 มาเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะตั้งแต่ปี 2542 มีแพทย์เพียง 3 คนอยู่หลายปี ผมสนุกกับงาน เป็นทั้งผอ.และหมอ ตรวจคนไข้ อยู่เวร ออกชุมชน สอนนักศึกษา บริหารโรงพยาบาล ร่วมกิจกรรมชุมชนทั้งการคัดค้านโครงการนิคมอุตสาหกรรมหรือกิจกรรมสร้างสรรค์มากมาย ผมผูกพันกลายเป็นส่วนหนึ่งของจะนะ อายุราชการที่เหลืออีก 7 ปีก็คิดจะเกษียณที่จะนะ

สธ.ได้วางระบบไว้ว่า ตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมชนและแพทย์สามารถขึ้นได้ถึงระดับวิชาการเชี่ยวชาญ ซึ่งไม่ใช่ตำแหน่งบริหารจึงไม่มีวาระที่ต้องย้าย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมชนจำนวนมากรวมทั้งผมจึงเลือกทำงานจนเกษียณโดยไม่ขอย้าย ทำให้งานสาธารณสุขในชนบทเกาะติดพื้นที่พัฒนาได้ต่อเนื่อง

  ปี 2563 ผมรับภารกิจเป็นประธานชมรมแพทย์ชนบทอีกตำแหน่งหนึ่ง ทำหน้าที่ทักท้วงเสนอแนะเรื่องราวใน สธ. อาทิ การไม่เห็นด้วยต่อนโยบายกัญชาเสรี การโยกย้ายที่ไม่เป็นธรรม การบริหารจัดการโควิดและวัคซีน การไม่ลงนามงบส่งเสริมป้องกันปี 2566 หรือ การซื้อ ATK ที่มีข้อสงสัย สิ่งเหล่านี้สร้างความหงุดหงิดต่อใครบางคน จนนำมาสู่คำสั่งให้ย้ายผมให้ได้ก่อนยุบสภา
 

จริงๆการจะย้ายผมไม่ยากเลย เพียงแค่ปลัดกระทรวงสั่งย้ายตามอำนาจที่ท่านมี (แต่ต้องมีเหตุมีผลด้วยนะ) แต่เพราะตำแหน่งผมเป็นตำแหน่งวิชาการระดับเชี่ยวชาญ ไม่มีเกณฑ์ที่ต้องถูกย้ายตามวาระ เหตุความผิดที่ต้องถูกย้ายก็ไม่มี ผมเองก็ไม่ได้สมัครใจย้าย ปลัดกระทรวงจึงไม่กล้าเซ็นเอง เพราะกลัวผิดกฎหมายอาญา ม. 157 ก็เลยต้องมีการสั่งการให้ผู้ตรวจราชการเป็นคนเซ็น ใครลงนามจะได้เลื่อนชั้นรวดเร็ว เรื่องราวจึงโกลาหล

7 ธันวาคม 2565 สธ.ลงนามคำสั่งโยกย้ายผู้ตรวจราชการทั่วประเทศ ผู้ตรวจสวัสดิ์ อภิวัจนีวงค์ ได้ขึ้นที่เขต 4 (สระบุรี) ส่วนเขต 12 ยังเป็นผู้ตรวจสุเทพ เพชรมาก ท่านเดิม ช่วงนั้นมีข่าวผมจะถูกย้ายอีก ทราบว่าผู้ตรวจสุเทพไม่ยอมลงนาม ด้วยเห็นว่าไม่มีเหตุให้สั่งย้าย ผลก็คือ วันที่ 11 มกราคม 2566 ปลัดกระทรวงมีคำสั่งย้ายผู้ตรวจสุเทพไปอยู่เขตอื่น เอาผู้ตรวจสวัสดิ์ อภิวัจนีวงค์ จากเขต 4 มาเขต 12 ทั้งๆที่เพิ่งไปเขต 4 ได้เดือนเดียว คนพร้อมลงนามมีแล้ว

แต่ระเบียบการให้อำนาจผู้ตรวจสั่งย้ายผู้อำนวยการเชี่ยวชาญในโรงพยาบาลชุมชนยังไม่ชัดเจน ปลัดกระทรวงสาธารณสุขจึงลงนามในหนังสือหลักเกณฑ์ใหม่ลงวันที่ 23 มกราคม 2566 ให้ผู้ตรวจมีอำนาจย้ายวิชาการเชี่ยวชาญได้ หนังสือยังไม่ถึงหน่วยงานเลย วันที่ 25 ถัดไปสองวันก็มีการประชุมคณะกรรมการย่อยพิจารณาย้ายผมและลงนามในคำสั่งย้ายผมไปเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลสะบ้าย้อยทันที วันที่ 26 มกราคม 2566 คำสั่งย้ายผมหลุดออกมาทางสื่อ โดยที่ผมไม่ได้เห็นก่อน จะย้าย ผอ.รพ.บ้านนอกสักคน ต้องทำพิรุธเป็นขั้นเป็นตอนเพียงนี้เชียวหรือ ซึ่งเป็นผลดีมากกับผมในการฟ้องศาลปกครองและฟ้องผิดกฎหมายอาญา ม. 157

วันนี้ 27 มกราคม 2566 คำสั่งย้ายที่เป็นทางการยังมาไม่ถึงผม ส่วนใครเป็นคนบงการสั่งย้ายผม คิดเอาเองนะครับ 

(ข่าวเกี่ยวข้อง : พรรคก้าวไกลออกโรงป้อง "หมอสุภัทร" ปมโยกย้าย)