ตัวแทนกลุ่มลูกจ้างและพนักงานกระทรวงสาธารณสุข 4 ภาค ทำหนังสือถึงหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ขอความเป็นธรรมและผลักดันการบรรจุลูกจ้างสายสนับสนุน 56 สายงาน ทั้งประเภทรายวัน รายคาบ รายเดือนให้เป็นพนักงานกระทรวงสาธารณสุข หรือ พกส. และให้พกส.ราว 1.4 แสนคน เป็นลูกจ้างประจำกรณีพิเศษ ชงเลิกระบบต่ออายุทุก 4 ปีเป็นการจ้างงานจนเกษียณด้วยงบการคลังแทนเงินบำรุง รพ. หลังถูกหลอกปรับตำแหน่ง
เมื่อวันที่ 24 ม.ค. น.ส. อภิสราธรณ์ พันธ์พหลเวช ตัวแทนกลุ่มลูกจ้างและพนักงานกระทรวงสาธารณสุข 4 ภาค ได้ทำหนังสือ ส่งถึง นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ผ่านทางไปรษณีย์ เพื่อขอความเป็นธรรมและช่วยผลักดันในการบรรจุ ให้ลูกจ้างรายวัน / รายคาบ/ รายเดือน สายสนับสนุน 56 สายงาน เป็นพนักงานกระทรวงสาธารณสุข (พกส.) และให้พกส. 56 สายงาน ซึ่งมีประมาณ 1.4 แสนคน เป็นลูกจ้างประจำในกรณีพิเศษ เนื่องจากสถานการณ์ระบาดของโรคโควิด 19 เนื่องจากที่ผ่านมากลุ่มลูกจ้างฯ ได้ทำหนังสือถึงผู้ใหญ่หลายๆ ท่านเพื่อขอความเป็นธรรมให้ช่วยผลักดันในการบรรจุตามข้อเรียกร้องดังกล่าว และเข้าสู่วาระการพิจารณาบรรจุตั้งแต่โควิดรอบแรก จนถึงรอบสุดท้ายแต่ยังไม่ได้รับการแก้ไขและจัดสรรใดๆ
ในทางกลับกัน กลุ่มที่ได้รับการจัดสรรให้บรรจุเป็นข้าราชการ 45,105 อัตรา มีเพียงตำแหน่งแพทย์ พยาบาล เภสัชกรและกลุ่มวิชาชีพต่างๆ รวม 25 สายงาน จากทั้งหมด 131 สายงาน สะท้อนถึงความไม่เป็นธรรม ก่อให้เกิดความแตกแยกภายในองค์กร ขาดขวัญกำลังใจ บางคนทำงาน 10-30 ปี ค่าตอบแทนน้อยไม่สอดคล้องกับค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้น ทำให้ใช้ชีวิตความเป็นอยู่ยากลำบาก และถูกตัดสวัสดิการความมั่นคงในหน้าที่การงานไปเป็นระยะเวลา 23 ปี จึงขอความอนุเคราะห์ และความเมตตาช่วยผลักดัน แก้ไข ปัญหาให้กับกลุ่มลูกจ้างและพกส. 56 สายงานเหล่านี้เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ สร้างสามัคคีในองค์กรต่อไป
น.ส.อภิสราธรณ์ ให้สัมภาษณ์ว่า เดิมเราเป็นลูกจ้างชั่วคราว ต่อมาในสมัยนายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี มีการยุบตำแหน่งลูกจ้างประจำ แล้วให้ตำแหน่งแก่กระทรวง ดำเนินการจ้างเป็น พกส. จากนั้นก็อยู่กันแบบแย่ๆ มากว่า 23 ปี ไม่มีความก้าวหน้า เพราะให้เพียงตำแหน่งมาเท่านั้น ไม่ได้สวัสดิการที่ควรได้แบบลูกจ้างประจำมาด้วย ทั้งๆ ที่เคยระบุว่าตำแหน่งพกส.จะได้รับสวัสดิการเหมือนกับลูกจ้างประจำ ตอนนี้บางคนทำงานมายี่สิบกว่าปี 1.1 หมื่นบาท คิดว่าอยู่ได้หรือไม่ เหมือนถูกเอาเปรียบ ซึ่งรวมถึงค่าเสี่ยงภัยต่างๆ ด้วย เช่นตนเอง เป็นพนักงานห้องยา ในช่วงการระบาดของโรคโควิด 19 ทำหน้าที่คู่กับวิชาชีพเภสัชกร เจ้าพนักงานเภสัชฯ ฯ แต่ค่าเสี่ยงภัยที่ให้มานั้นมีเพียง เภสัชฯ ที่ได้ ส่วนตำแหน่งอื่นไม่ได้รับเลย ทั้งๆ ที่ร่วมทำงานทุกอย่าง ที่ผ่านมาเคยทำหนังสือส่งถึงสำนักนายกรัฐมนตรี ก็มีหนังสือออกมาจากกลุ่มประสานงานการเมืองว่าเห็นควรให้เราให้เราบรรจุเป็นลูกจ้างประจำ แต่ สธ.ก็ไม่บรรจุให้ และกรณีที่ครม.อนุมัติตำแหน่งข้าราชการสธ. 4.5 อัตรา แต่สธ.ให้การบรรจุไม่เป็นธรรม จากที่มี 131 สายงาน แต่สธ.ให้บรรจุเพียง 25 สายงานเท่านั้น
“คนที่ทำงานมาจนใกล้เกษียณไม่มีคุณค่าอะไรกับองค์กรเลยหรือ ทำไมถึงเหลื่อมล้ำขนาดนี้ และเอาเปรียบลูกจ้างเช่นนี้ ที่เสียใจมากคือพอให้ตำแหน่ง พกส.มาก็ยังจ้างด้วยเงินบำรุงโรงพยาบาล ถ้ารพ.ไหนขาดสภาพคล่อง ได้ขึ้นเงินเดือนปีละ 200-300 ทำงานเป็นสิบๆ ปี บางคนจะเกษียณแล้วเงินเดือนยังไม่ถึง 1.5 หมื่นบาท เหมือนหลอกให้ตำแหน่งใหม่เรา แต่ไม่ให้สวัสดิการที่มั่นคง ต้องต่ออายุงานทุกๆ 4 ปี ถ้าเราอยู่ได้คงไม่มาเรียกร้องกัน ที่ผ่านมาส่งหนังสือถึงสธ. ก็โดนปฏิเสธทุกช่องทาง” น.ส.อภิสราธรณ์ กล่าว และว่ากระทรวงสาธารณสุข มีระบบสุขภาพติดอันดับต้นๆ ของโลก แต่บุคลากรกลับไม่มีความสุขในการทำงาน เพราะค่าตอบแทนน้อย ไม่มีความมั่นคง สมมติหัวหน้าไม่ถูกใจ ทำอะไรไม่ถูกใจเขา หนังหมา ไม่ถูกตาเจ๊ก เขาก็ประเมินเราออกได้เลย
ดังนั้น อยากเรียกร้องให้ผู้ใหญ่ช่วยเหลือเรื่องสวัสดิการของลูกจ้าง พนักงานกระทรวง ขอความมั่นคง ขอค่าตอบแทนขึ้น ยกเลิกระบบการต่ออายุงานทุก 4 ปี มาเป็นการจ้างงานจนเกษียณอายุการทำงาน 60 ปี และปรับการจ่ายเงินเดือนโดยการใช้เงินบำรุงโรงพยาบาล มาเป็นการใช้งบประมาณการคลัง และขอให้มีการคืนตำแหน่งลูกจ้างประจำกลับมาในกรณีพิเศษคือโควิด 19 นี้ ให้กับพนักงานกระทรวงสาธารณสุข ส่วนกลุ่มลูกจ้างรายวัน รายเหมา ขอบรรจุเป็นพนักงานกระทรวงสาธารณสุข รวมถึงเรื่องของค่าเสี่ยงภัยโควิด
อ่านข่าวเกี่ยวข้อง
- ตัวแทนลูกจ้าง สธ.ประชุมก่อนบุกกระทรวงฯ 6 ก.พ.นี้ ขอเข้าพบ “อนุทิน” ช่วยเหลือเร่งด่วน!!
- 2931 views