กรมการแพทย์จัด “รถฟอกไต” เคลื่อนที่ช่วยผู้ป่วยเขตสุขภาพละ 1 คัน อยู่ระหว่างผลิตคาดเสร็จ ก.พ.-มี.ค.นี้

อธิบดีกรมการแพทย์รับนโยบาย “อนุทิน” เดินหน้าฟอกไตฟรีทุกอำเภอ! รองรับทุกสิทธิการรักษา เตรียมสร้าง "รถฟอกไต" ตั้งเป้าเขตสุขภาพละ 1 คัน หวังกระจายพื้นที่ฉุกเฉินช่วยผู้ป่วยเข้าถึงการรักษา  ขณะนี้อยู่ระหว่างการออกแบบ คาดเสร็จสิ้นช่วง ก.พ.-มี.ค.66  พร้อมส่งรถ Mobile Stroke Unit ไประนอง ก.พ.นี้ ช่วยผู้ป่วยหลอดเลือดสมอง

เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2566  นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) มีนโยบายเรื่องฟอกไตฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย โดยจะขยายเดินหน้าฟอกไตทุกอำเภอ ซึ่งกรมการแพทย์ได้รับนโยบายในเรื่องนี้ โดยเน้นเรื่องของการให้บริการเชิงรุก โดยประสานกับภาคเอกชนมาหารือเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา เพื่อออกแบบและจัดทำนวัตกรรม "รถฟอกไตเคลื่อนที่" ซึ่งจะมีหลายขนาด ทั้งรถบัสที่มีขนาด 2 เตียง 3 เตียง และ 4 เตียง  และจะเชิญทางสมาคมโรคไตมาดูเรื่องของมาตรฐานรถฟอกไต โดยคาดว่าประมาณช่วง ก.พ.หรือมี.ค. 2566 น่าจะเสร็จ โดยตั้งเป้าว่าอยากจะให้มีรถฟอกไตเคลื่อนที่เขตสุขภาพละ 1 คัน จะได้ไม่ต้องสั่งซื้อหรือนำเข้าจากต่างประเทศ เพราะต่างประเทศที่ทำมีรถฟอกไตมีที่ออสเตรเลียและสหรัฐอเมริกา

นพ.ธงชัย กล่าวว่า รถฟอกไตจะมาช่วยเสริมบริการเมื่อเกิดภาวะฉุกเฉินต่างๆ จน รพ.ไม่สามารถให้บริการฟอกไตได้ เช่น ภาวะน้ำท่วม รถฟอกไตก็จะเข้าไปอยู่ในพื้นที่ฉุกเฉินเพื่อให้บริการ ไม่ให้คนไข้ต้องเดินทางไกลไปฟอกไตที่อื่น เนื่องจากสัปดาห์หนึ่งต้องฟอกประมาณ 3 ครั้ง โดยกลุ่มที่ต้องฟอกไต คือ ผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะที่ 3 จะมีเจ้าหน้าที่ รพ. และพยาบาลที่ผ่านฝึกอบรมมาให้บริการ รวมถึงใช้แอปพลิเคชัน DMD Telemedicine เพื่อให้สามารถปรึกษากับแพทย์ได้ การให้บริการรถฟอกไตจะสนับสนุนการให้บริการนี้ในทุกสิทธิการรักษา เพื่อหนุนเสริมกับนโยบายฟอกไตทุก รพ. ทุกอำเภอ

นพ.ธงชัย กล่าวว่า การให้บริการเชิงรุกนอกจากเตรียมเรื่องรถฟอกไตแล้ว ที่ผ่านมายังมีการทำรถโมบายสโตรคยูนิต (Mobile Stroke Unit) ซึ่งมี 2 คัน อยู่ที่ รพ.นพรัตนราชธานี 1 คัน และสถาบันประสาทวิทยา 1 คัน สามารถทำซีทีสแกนเพื่อดูว่ามีภาวะเส้นเลือดในสมองแตกหรือไม่ และสามารถให้บริการให้ยาละลายลิ่มเลือดได้ เนื่องจากภาวะหลอดเลือดสมองจะมีช่วงเวลาทองที่ต้องรีบรักษา ซึ่งรถ Mobile Stroke Unit จะนำไปให้บริการในอำเภอที่ไม่มีเครื่องซีทีสแกน และมีสถิติข้อมูลว่า มีการเกิดภาวะหลอดเลือดสมอง โดยเบื้องต้นช่วง ก.พ. 2566 จะลงไปยังพื้นที่ จ.ระนอง นำรถไปอยู่ในพื้นที่ประมาณเกือบเดือน เพราะโรคนี้ไม่ได้มีผู้ป่วยเข้ามารับบริการในทันที แต่เป็นโรคที่ต้องรอว่าผู้ป่วยจะเกิดภาวะหลอดเลือดสมองขึ้นเมื่อไหร่แล้วรีบให้บริการ

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org