‘อนุทิน’ สั่งคุมเข้ม 7 วันอันตราย พนง. ขนส่งต้องดื่มไม่ขับ-ลดเร็ว เป็นต้นแบบผู้ขับขี่ปลอดภัย ปิดประตู “ผับตี 4” หยุดความเสี่ยงคนเมาแล้วขับ มูลนิธิเมาไม่ขับ-สสส.สานพลังสร้างความตระหนัก ขยายเครือข่ายลดอุบัติเหตุทั่วประเทศ

วันที่ 28 ธ.ค. 2565 ณ สถานีขนส่งหมอชิต มูลนิธิเมาไม่ขับ ร่วมกับกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) บริษัทขนส่ง จำกัด (บขส.) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) รณรงค์ลดอุบัติเหตุ “ปีใหม่ปลอดภัย ร่วมใจลดอุบัติเหตุทางถนน” นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานกรรมการกองทุน สสส.  กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขเน้นย้ำให้ผู้ขับขี่ “ขับไม่ดื่ม ดื่มไม่ขับ” เพื่อลดอุบัติเหตุทางถนน เป็นสาเหตุหลักของการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งชวงเทศกาลปใหม่ที่ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนา และท่องเที่ยว คาดว่าจะมีการใช้รถใช้ถนนเป็นจำนวนมาก หรือช่วง 7 วันอันตราย

 

ตนในฐานะดูแลกำกับกระทรวงคมนาคม ได้เน้นย้ำนโยบายสำคัญคือความปลอดภัยในการเดินทางให้ประชาชน ได้กำหนดมาตรการให้พนักงานขับรถต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ทั้งผู้ขับขี่รถ บขส. ขสมก. และรถร่วม ปลอดจากแอลกอฮอล์ ตรวจเข้มในเรื่องการดื่มสุรา การขับรถเร็ว การพักผ่อนให้เพียงพอ เพราะผู้ขับขี่รถสาธารณะเป็นบุคคลที่ต้องรับผิดชอบชีวิตผู้อื่น

“มาตรการบทลงโทษมีอยู่แล้ว แต่สู้จิตสำนึกไม่ได้ ดังนั้น ต้องขอความร่วมมือ เคารพกฎจราจร ระมัดระวังตัวเองในช่วงเทศกาล ไม่พาตัวเองไปอยู่ในจุดเสี่ยง ดื่มไม่ขับ ไม่ต้องรอให้รู้สึกมึนเมา หากมีการดื่มก็ห้ามขับขี่ยานพาหนะโดยเด็ดขาด สวมหมวกกันน๊อค ไม่ขับเร็ว จะช่วยลดความรุนแรงจากอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ ผมก็ได้ยืนยันเจตนารมณ์คัดค้านการขยายเวลาปิดผับเวลาตี 4 เป็นช่วงที่คนเริ่มตื่นออกไปทำงาน จึงไม่ควรที่ไปเพิ่มความเสี่ยงจากกลุ่มคนที่เมาแล้วขับ 2 ชม. ที่เพิ่มขึ้นอาจทำให้เกิดความสูญเสียเพิ่มขึ้นได้” นายอนุทิน กล่าว 

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า นอกจากนั้นได้กำชับการปรับปรุงท้องถนนให้สะดวก ปลอดภัย ปิดจุดกลับรถจุดเสี่ยง จัดทำป้ายเตือนพื้นที่ก่อสร้าง ทางโค้ง ทางแยกอันตรายให้ชัดเจนแจ้งข้อมูลข่าวสารที่สำคัญแก่ประชาชนล่วงหน้า เพื่อบรรเทาปัญหาด้านการจราจร และลดโอกาสเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุทางถนน อีกทั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ที่ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนา และท่องเที่ยวจำนวนมาก จึงต้องดูแลความปลอดภัย โดยเฉพาะผู้โดยสารทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัย รักษาระยะห่าง ซึ่งทางบริษัทขนส่ง จำกัด ได้เตรียมหน้ากากอนามัย และเจลแอลกอฮอล์มาให้บริการด้วย 

ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวว่า ทศวรรษที่ 3 สสส. มุ่งลดบาดเจ็บ และเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน สร้างสังคมสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อความปลอดภัย เกิดวิถีแห่งระบบที่ปลอดภัย (Safe System Approach) สสส. ร่วมกับ มูลนิธิเมาไม่ขับ ทำงานรณรงค์สื่อสารสร้างความตระหนัก ลดการบาดเจ็บ และเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน ที่เกิดจากการดื่มแล้วขับอย่างต่อเนื่อง มีเครือข่ายเหยื่อเมาแล้วขับ เป็นเครือข่ายสำคัญในระดับพื้นที่ ทั่วประเทศมากกว่า 100 เครือข่าย ซึ่งเป็นผู้พิการจากอุบัติเหตุทางถนน เข้ามาทำงานสื่อสารรณรงค์ร่วมกับหน่วยงานในจังหวัดมีจุดมุ่งหมายให้อุบัติเหตุทางถนนลดลง การจัดกิจกรรมในวันนี้ มีเป้าหมายให้ประชาชนเดินทางกลับบ้านและท่องเที่ยวฉลองปีใหม่อย่างปลอดภัย และเป็นโอกาสพิเศษในการกระตุ้นเตือนประชาชน ในช่วงเทศกาลที่มีการเดินทางสูง เพื่อลดอุบัติเหตุสร้างความปลอดภัยทางถนนอย่างมีประสิทธิภาพ

นพ. แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ กล่าวว่า สถานการณ์อุบัติเหตุแม้ว่าจะลดน้อยลง แต่ก็ยังสูงอยู่ เทศกาลปีใหม่ที่จะถึงนี้ขอเชิญชวนร่วมกันลดปัจจัยเสี่ยงทั้งจากโควิด-19 และอุบัติเหตุบนท้องถนน สวมหน้ากากอนามัย มีสติ ไม่ประมาทในการขับรถ ซึ่งนายกรัฐมนตรี มีนโยบายสั่งการไปยังทุกหน่วยให้คุมเข้มการดื่มแล้วขับ โดยเฉพาะร้านค้าที่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี จะถูกดำเนินคดีอย่างหนัก จึงขอความร่วมมือประชาชนที่เดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่ 7 วันอันตราย หากพบเห็นผู้ขับขี่มีพฤติกรรมเสี่ยงบนถนน สามารถส่งคลิปมายังแฟนเพจ “อาสาตาจราจรของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ” เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการนำผู้กระทำความผิดมาลงโทษ ภายใต้ชื่อโครงการ 7 วัน 7 คลิป 7 หมื่น ปีใหม่ร่วมใจลดอุบัติเหตุทางถนน จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มูลนิธิเมาไม่ขับ และบริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ