มูลนิธิรณรงค์พนัน-สสส. จับตา 10 วันอันตรายโค้งสุดท้ายบอลโลก เปิด 6 โลงศพนักพนัน!! เตือนหยุดก่อนจะเสียหนัก พบ 23% ฟุตบอลโลกโอกาสของดื่ม-เล่นพนัน-ลุ้นโชคทายผล ห่วงครอบครัวรับแรงกระแทกหลังบอลเลิก
เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 65 ณ หอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) มูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน จัดรณรงค์ “จับตา 10 วันอันตราย หายนะผีพนัน” พร้อมขบวนแฟนตาซีผีพนันชุด “แง้ม 6 โลงศพผีพนัน...ถ้าไม่เห็น ไม่หลั่งน้ำตา” และเสวนาจากตัวแทนหลายฝ่าย น.ส.รุ่งอรุณ ลิ้มฬหะภัณ รักษาการผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงทางสังคม สสส. กล่าวว่า อีก 10 วันก็จะสิ้นสุดการแข่งขันฟุตบอลโลก สสส. และเครือข่ายเป็นห่วงทุกครั้งที่เทศกาลฟุตบอลขนาดใหญ่ ซึ่งจะเกิดพฤติกรรมเสี่ยง ทั้งการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการเล่นพนันโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มเด็กและเยาวชน โดยเฉพาะการพนันออนไลน์ บางคนไม่เคยเสี่ยงกับการพนันมาก่อน ก็เปลี่ยนมาเริ่มเล่นพนันฟุตบอล จากความสนุกชั่วครั้งชั่วคราว ลองเล่นสักนิดแต่เล่นไปแล้วจะลงหนัก พบกับปัญหาตามมา หลายคนคิดว่า จะไม่เกิดกับตัวเองแต่ก็เกิดขึ้นมาแล้ว
น.ส.รุ่งอรุณ กล่าวถึงผลสำรวจเยาวชนกับความสนใจในฟุตบอลโลก 2565 โดยมูลนิธิรณรงค์หยุดพนันสำรวจกลุ่มอาชีวศึกษา 10 แห่ง ใน 5 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ชลบุรี ระยอง สมุทรปราการ และสมุทรสงคราม ช่วง 1 เดือนก่อนฟุตบอลโลกจะเปิดสนาม พบว่า กว่า 60% สนใจที่จะติดตามการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งนี้ 23% คิดว่าฟุตบอลโลกเป็นโอกาสของการได้ดื่มกิน เล่นพนัน ลุ้นโชคทายผล และ 15% ตั้งใจจะเล่นพนัน เมื่อถามถึงมีประสบการณ์กับการพนันออนไลน์มาก่อนหรือไม่เกิน 70% เคยเห็นโฆษณาชวนพนันออนไลน์และ 40% เคยถูกเว็บพนันหลอกหลวง 20% ถูกหลอกให้เล่นเกม แต่กลายเป็นเล่นพนันและทำให้สูญเสียเงิน 10% ถึงเคยเล่นได้แต่ก็ถอนเงินไม่ได้ ในจำนวนนี้ 22% มีหนี้จากการ พนัน โดย 10% พยายามหาเงินคืนโดยการเล่นพนันต่อและ 13% ถูกตามทวงหนี้ อย่างไรก็ตาม ต้องขอขอบคุณตํารวจไซเบอร์ที่ปิดเว็บพนันออนไลน์ ป้องปราบการพนัน ทำให้เยาวชนรู้ว่า การพนันเป็นสิ่งไม่ดีและไม่เข้ามาเล่น
รศ.นวลน้อย ตรีรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน กล่าวว่า ฟุตบอลโลกมีผลดีในแง่ของการกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจ คนมีการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น เพราะมีการจัดกิจกรรมที่ผับ บาร์ ร้านอาหาร รวมกลุ่มกันดูฟุตบอล ใช้จ่ายกันมากขึ้น มีเงินหมุน แต่ประเด็นสำคัญคือเรื่องการพนัน เป็นกิจกรรมกระตุ้นเศรษฐกิจที่ผิดปกติ เพราะการพนันส่งผลกระทบต่อสังคม การบอกว่าพนันฟุตบอลโลกก่อให้เกิดเงินหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ แต่ไม่ได้หมายความว่าสามารถไปกระตุ้นเศรษฐกิจได้ เพราะในการพนันมีการแพ้ชนะ เงินหมุนเวียนจึงเกิดจากการโอนเงินจากคนแพ้พนันสู่คนที่ชนะ แต่เจ้ามือจะได้รับค่าน้ำ ซึ่งเป็นคนกลุ่มน้อยที่ได้ประโยชน์ ทั้งนี้ จากการวัดผลผู้ที่กระทบจากการพนัน พบว่า ขาดเงินใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เป็นหนี้เจ้าของโต๊ะ โดยเฉพาะพนันบอลที่มีเครดิต เมื่อถูกติดตามทวงหนี้จะกระทบกับครอบครัว เพื่อนฝูง เสียชื่อในการทำงาน ต้องหลบหนี บางคนเลือกทำอาชีพผิดกฎหมายเพื่อหาเงินมาคืน นี่คือ ชีวิตคนที่สูญเสียไป อีกทั้งผู้เล่นยังเสียสุขภาพจิต เกิดความเครียด ส่งผลต่อการเรียนและการทำงาน และสุดท้ายอาจเสียครอบครัว เสียคนรักไป เกิดการทะเลาะเบาะแว้ง นอกจากนี้ ยิ่งเล่นการพนันแล้วเสียมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งอยากได้คืน โดยเชื่อกันว่า จะไม่แพ้ไปตลอดจึงเพิ่มเงินลงไปเรื่อย รวมแล้วกลายเป็นหนี้ก้อนใหญ่
"ปี 2564 ได้สำรวจพฤติกรรมการพนันฟุตบอลในประเทศไทย มีคนเล่นพนันฟุตบอล 3.8 ล้านคน ซึ่งจะมีทั้งการเล่นพนันฟุตบอลออนไลน์ ส่วนผู้ที่เล่นผ่านโต๊ะบอลมีมากถึง 70 เปอร์เซ็นต์ในปีนั้น เพราะการเล่นผ่านโต๊ะบอลจะมีเครดิต ทำให้คนเล่นได้ต่อเนื่อง แต่ในปีดังกล่าวก็เริ่มมีผู้เล่นพนันฟุตบอลออนไลน์เพิ่มมากขึ้น หากประเมินจากบอลโลกครั้งนี้ ก็น่าจะมีตัวเลขใกล้เคียงกับเดิม จากที่เคยสำรวจมานั้นพนันฟุตบอลมีนักเล่นหน้าใหม่สูงสุด เพราะอายุการเล่นจะสั้นเมื่อเทียบกับการพนันชนิดอื่น แต่หมดตัวเร็ว ซึ่งผู้เล่นหน้าใหม่เมื่อเริ่มเล่นไปแล้ว ราว 1 ใน 4 ก็จะเล่นการพนันอื่น ๆ ต่อไป สำหรับ 10 วันอันตราย เพราะคู่ที่เหลือจะเป็นไฮไลท์ เมื่อใกล้จบ ใกล้จะรู้ผลแล้วว่าใครจะเแป็นแชมป์ ก็จะเล่นกันเยอะขึ้น ทีมที่เข้าในครั้งนี้ก็เป็นทีมขวัญใจคนจำนวนมาก ผู้เล่นพนันจึงมีทั้งหน้าใหม่ และคนที่เล่นหนัก จึงอยากให้คิดให้รอบคอบ ถามตัวเองว่า เสียแล้วเดือดร้อนหรือไม่ ถ้าเดือดร้อนก็ไม่ควรเล่น เพราะจริง ๆ แล้วดูฟุตบอลก็สนุกอยู่แล้ว โดยไม่ต้องเล่นการพนัน" รศ.นวลน้อย ย้ำ
ด้านนายธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน เพิ่มเติมว่า ผู้เล่นส่วนใหญ่เริ่มต้นจากคำ 3 คำ คือ ปั้น เชื่อว่าการพนันจะสามารถปั้นเงินก้อนเล็กเป็นก้อนใหญ่ได้ ตาม เล่นตามหลายคู่หวังจะได้เงินเยอะ จิ้ม เลือกจิ้มบางคู่แล้วลงเงินหนัก ส่วนใหญ่จะวนเวียนอยู่ 3 คำนี้ จนสูญเสียหนัก ทั้งนี้ คอพนันฟุตบอลถ้าไม่เห็นโลงศพ มักจะไม่หลั่งน้ำตา ไม่เลิกพนัน สามารถแยกการเห็นโลงศพได้ 6 แบบ คือ 1.งานย่ำแย่ ติดพันกับการพนันจนคุณภาพชีวิตเสียไป อดหลับอดนอน ไม่มีสมาธิ งานที่รับผิดชอบเกิดความเสียหาย บางคนต้องถูกออกจากงาน 2.แพ้จนเพลีย พยายามปั้นจากเงินก้อนเล็กให้เป็นก้อนใหญ่ ลงเงินหนักมากขึ้นเพื่อตามเอาเงินที่เสียไปคืน 3.เสียหมดตัว เล่นพนันฟุตบอลจนเสียหมดตัว 4.กลัวโดนอุ้ม เสียพนันจนต้องไปกู้หนี้นอกระบบ ไม่มีเงินไปใช้คืนกลัวโดนเจ้าหนี้มาทำร้าย 5.กลุ้มโดนคุก กลัวจะติดร่างแหโดนตำรวจจับกุมไปด้วยหากแหล่งพนันที่ตนเองเข้าไปเล่นถูกจับได้ 6.เห็นทุกข์เพื่อน จุดจบของเพื่อนทั้งถูกไล่ออกจากงาน โดนเจ้าหนี้ทำร้าย สูญเสียครอบครัว หรืออื่น ๆ เหล่านี้คือโลงศพที่นักพนันบอลพอเริ่มเห็นมันมาตั้งอยู่ข้างหน้า จึงคิดจะเลิกพนัน ที่น่าเป็นห่วงคือ ผลกระทบหลังบอลโลกจะเกิดกับครอบครัว ผู้เล่นโกหกปกปิดเกิดปัญหาหนี้สิน ความเครียดที่สะสมทั้งของผู้เล่นพนันและครอบครัว อาจบวกด้วยการดื่มสุราจะยิ่งเสี่ยงต่อการใช้ความรุนแรงในครอบครัว เรื่องนี้เป็นปัญหาใหญ่ที่เกิดขึ้นทั่วโลก ทุกครั้งที่มีการแข่งขันกีฬานัดใหญ่ ๆ มักพบสถิติความรุนแรงในครอบครัวเพิ่มขึ้น
ส่วนนายเอ (นามสมมติ) ตัวแทนเยาวชน ยอมรับว่า ต้องโทษที่ใจตัวเอง เริ่มเล่นการพนันในวงจากไฮโล น้ำเต้าปูปลา เล่นในสถานศึกษา จนมาเห็นเพื่อนโพสต์ชวนเล่นพนันออนไลน์ เริ่มจากบาคาร่าและเล่นสล็อต แล้วมาที่การเล่นพนันฟุตบอลตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม เข้าเล่นกับเว็บพนันใช้เงินประมาณอาทิตย์ละหนึ่งพันบาท ก็เล่นมาต่อเนื่อง 3 ปี ยอมรับเลยว่าเสียมากกว่าได้ ได้เงินไม่มาก แต่เวลาเสียมักจะเสียหมด จนมาถึงช่วงโควิด-19 ค่อนข้างลำบาก จึงตัดสินใจเลิกเล่นพนัน ยิ่งมาเห็นคลิปที่ยูทูบเบอร์รายหนึ่ง แฉกลโกงเว็บพนัน ยิ่งมั่นใจว่าควรเลิก แต่เรื่องพนันก็ยังวนเวียนเข้ามาหาอีก เห็นเพื่อนโพสต์เฟซบุ๊กว่าได้เงินจากเว็บพนัน ประมาณ 300-500 บาท วิธีการคือ ทางเว็บไซต์จะโอนเงินมาให้ประมาณ 5,000 บาท และให้แชร์ภาพหลักฐานโอนเงินบนหน้าเฟซบุ๊ก จากนั้นโอนเงินนั้นคืนกลับไป เท่ากับเป็นการโฆษณาหลอกลวงให้คนอื่นหลงเชื่อ พบว่าหลายคนถูกชักชวนให้ทำแบบนี้ ตนเองยิ่งคิดคำนวณยิ่งอยากได้เงินเยอะ ยิ่งเล่นเยอะขึ้น พอชนะแล้วก็ไม่เลิก เสียก็อยากได้คืน อยากเตือนเยาวชนว่า พนันฟุตบอลเป็นโลกของธุรกิจ ที่โอกาสชนะมีน้อยมาก อย่าเข้าไปยุ่งเกี่ยว เพราะมีแต่เสียไม่มีได้
*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org
- 354 views