ปลัดสธ. ชี้ “หมอด่าคนไข้” ต้องแยกส่วนพื้นที่ตรวจสอบ ส่วนกระทรวงฯดูนโยบายภาพรวม ทั้งกรอบอัตรากำลัง ขวัญกำลังใจ ฯลฯ

ปลัด สธ. เผยกรณี “หมอด่าคนไข้”  มีการดำเนินการทั้งส่วนของพื้นที่ โดยผอ.รพ.เชียงแสน ตั้งแต่มีข่าวได้ออกชี้แจงมาตลอด ขณะที่กระทรวงสาธารณสุข มีคณะกรรมการมองภาพรวมทั้งระบบ ทั้งกรอบอัตรากำลัง ภาระงาน มอบรองปลัดสธ.ดูแล ส่วนขวัญกำลังใจมีการดำเนินการ เป็นหนึ่งในนโยบาย ปรับปรุงสร้างใหม่ที่พักบุคลากร ฯลฯ

เมื่อวันที่ 8  พฤศจิกายน  นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ให้สัมภาษณ์ประเด็นแพทย์หญิงด่าผู้ป่วยที่โรงพยาบาล(รพ.) เชียงแสน จ.เชียงราย โดยวานนี้(7พ.ย.) รายการโทรทัศน์หนึ่งเปิดเผยว่า ไม่สามารถติดต่อผู้บริหารสธ.  ว่า ตามที่มีข่าวดังกล่าวทางผู้อำนายการ รพ.เชียงแสน ก็ได้ออกคำชี้แจงทันที ไม่มีการปกปิดอะไร อย่างกรณีดังกล่าว ผอ.รพ.เชียงแสน เป็นหัวหน้าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและรู้ข้อมูลเรื่องนี้โดยตรง ทางสธ.ยืนยันว่าไม่ได้สั่งห้าม ทั้งยังบอกให้ออกข่าวชี้แจง

“เรื่องดังกล่าวต้องให้ผู้บริหารในพื้นที่ชี้แจง ส่วนทางกระทรวงฯ ก็ต้องดูเรื่องระบบและนโยบายมากกว่าส่วนพื้นที่ที่มีนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดได้รับมอบหมายไปตามนั้น เป็นไปตามระบบ” นพ.โอภาส กล่าว

นพ.โอภาส กล่าวอีกว่า  โดยหลักเรื่องนี้มี 2 ส่วน ในส่วนพื้นที่ ทางผู้อำนวยการโรงพยาบาลดำเนินการตรวจสอบอยู่  และการชี้แจงต่างๆ ไม่ใช่ไม่มีการดำเนินการเลย เพราะเท่าที่ทราบเมื่อเกิดเรื่อง ทางผู้อำนวยการได้มีการชี้แจงออกมาแล้ว  ส่วนกระทรวงฯ ก็มีการดำเนินการตามนโยบายในเรื่องของบุคลากร กรอบอัตรากำลัง ซึ่งดำเนินการมาตลอด ไม่ใช่เพิ่งมาดำเนินการ  

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากภาระงานแพทย์ที่มากจนทำให้งานโหลด และเกิดผลกระทบตามมาหรือไม่ นพ.โอภาส กล่าวว่า จริงๆกระทรวงฯ มีการดำเนินการเรื่องนี้มาตลอด และมีนโยบายในการดำเนินการดูแลบุคลากร รวมทั้งเรื่องกรอบอัตรากำลังที่เหมาะสม ซึ่งมีคณะกรรมการศึกษาเรื่องนี้ มี นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน รองปลัด สธ. เป็นผู้ดูแลเรื่องดังกล่าว ทำงานร่วมกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง อาทิ แพทยสภา ไม่ใช่ว่า เมื่อเกิดเรื่องแล้วจะมาทำ แต่เราทำมาตลอด

เมื่อถามถึงกรณีสังคมมองว่า ควรมีนโยบายดูแลขวัญกำลังใจบุคลากร โดยเฉพาะแพทย์ที่ทำงานหนัก ภาระงานเยอะ นพ.โอภาส กล่าวว่า กระทรวงฯ มีนโยบายสร้างขวัญกำลังใจ ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบาย Health For Wealth  มีสวัสดิการต่างๆ การปรับปรุงหรือสร้างใหม่ที่พักบุคลากรทางการแพทย์ เป็นต้น รวมทั้งเรื่อง  work  life balance เพียงแต่ในเรื่องภาระงานแพทย์ การจะกำหนดชั่วโมงการทำงานแพทย์อาจทำไม่ได้ เพราะจะกระทบต่อการบริการประชาชนได้ เรื่องเหล่านี้เราต้องทำเป็นระบบ มีการดำเนินการทั้งหมด และมีฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาช่วยดูแล  

ผู้สื่อข่าวถามกรณีคนไข้ออกมาพูดว่า การที่กระทรวงฯ ไม่ออกมาชี้แจง เพราะหมอคนดังกล่าวเป็นลูกอาจารย์แพทย์   นพ.โอภาส กล่าวว่า   โดยหลักการข้อมูลส่วนบุคคลทั้งแพทย์และคนไข้เป็นสิทธิส่วนบุคคลตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล(PDPA)   

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org