รพ.กล้วยน้ำไทย้ำพร้อมดูแลสิทธิบัตรทองในช่วงเปลี่ยนผ่าน ผู้ป่วยไม่ต้องกังวล-ไม่มีปรับลดมาตรฐานการรักษา

โรงพยาบาลกล้วยน้ำไทลั่น ยังดูแลผู้ป่วยสิทธิบัตรทองในช่วงเปลี่ยนผ่านหลังยกเลิกสัญญากับ สปสช. ไปจนถึงสิ้นปีนี้ ย้ำมาตรฐานการรักษาเหมือนเดิม ไม่มีการลดคุณภาพหรือปรับลดยา ผู้ป่วยมารับบริการได้ตามปกติไม่ต้องกังวล 

วันที่ 8 ตุลาคม 2565 นพ.สุวินัย บุษราคัมวงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์และพยาบาล โรงพยาบาลกล้วยน้ำไทเปิดเผยว่า จากกรณีที่มีการยกเลิกสัญญาระหว่างโรงพยาบาลกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ซึ่งจะส่งผลกระทบกับผู้ใช้สิทธิบัตรทองที่ลงทะเบียนให้โรงพยาบาลเป็นหน่วยบริการปฐมภูมิ/ประจำ และรับส่งต่อทั่วไป รวมทั้งผู้ป่วยที่ถูกส่งตัวจากคลินิกในเครือข่ายมารักษาที่ รพ.กล้วยน้ำไท เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดในช่วงเปลี่ยนผ่านนี้ ทางโรงพยาบาลจึงยังให้บริการผู้ป่วยที่รับบริการอยู่เดิมไปจนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2565 พร้อมทั้งมีการจัดตั้งหน่วยงานเพื่อดูแลให้คำปรึกษาผู้ป่วยกลุ่มนี้โดยเฉพาะ

“ผู้ใช้สิทธิบัตรทองที่อยู่กับเราค่อนข้างเยอะ บางคนก็รักษากันมานานหลายปี เฉพาะที่ขึ้นทะเบียนกับโรงพยาบาลก็ 3 หมื่นคน ยังมีคลินิกในเครือข่ายอีกกว่า 20 แห่งดูแลประชากรเกือบ 1 แสนคนที่ส่งต่อคนไข้มาที่เรา ซึ่งถ้าอยู่ๆ ยกเลิกให้บริการเลยเขาก็จะเคว้ง เราเห็นถึงความเดือดร้อนตรงนี้ พอ สปสช.เปิดทาง ขยายเวลาให้ดูแลต่อ เราจึงรู้สึกยินดี เพราะจะเป็นผลดีกับคนไข้” นพ.สุวินัย กล่าว

ทั้งนี้ ผู้ป่วยเดิมที่เน้นให้บริการในช่วงเปลี่ยนผ่านนี้จะเป็นกลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดันโลหิต ที่ต้องรับยาเป็นประจำ คนไข้ที่มีนัดผ่าตัด คนไข้โรคมะเร็งที่อยู่ระหว่างการรักษา รวมทั้งคนไข้ที่ต้องส่งตัวไปโรงพยาบาลที่มีศักยภาพที่สูงกว่า ส่วนผู้ใช้สิทธิบัตรทองที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มข้างต้น แต่เคยลงทะเบียนเป็นหน่วยบริการประจำไว้และต้องการมารับบริการในช่วงนี้ ตามขั้นตอนแล้วโรงพยาบาลจะต้อง Authen Code หรือยืนยันตัวตนผู้ใช้บริการจาก สปสช.ก่อน ถ้า สปสช.อนุมัติถึงจะรับรักษาได้ ดังนั้นแนะนำว่าควรเป็นโรคที่มีเหตุอันควร เช่น ท้องเสียรุนแรงจนความดันต่ำ เจ็บหน้าอก หรือเจ็บป่วยฉุกเฉิน เป็นต้น 

นพ.สุวินัย ยังกล่าวให้ความมั่นใจอีกว่า แม้สัญญาระหว่างโรงพยาบาลและ สปสช. จะถูกยกเลิกไปแล้ว แต่ผู้ป่วยที่มารับบริการในช่วงเปลี่ยนผ่านนี้ จะยังคงได้รับการดูแลที่มีมาตรฐานเหมือนเดิม ไม่มีการลดทอนมาตรฐานการรักษา ไม่ปรับลดยาหรือเวชภัณฑ์แต่อย่างใด ดังนั้น ผู้ใช้สิทธิบัตรทองที่มารับบริการไม่จำเป็นต้องกังวลใจใดๆ

“โรงพยาบาลเรามีมาตรฐาน ได้รับการรับรองจากสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (สรพ.) และจาก Joint Commission International (JCI) ซึ่งเป็นองค์กรสากลจากประเทศสหรัฐอเมริกาที่ตรวจสอบมาตรฐานคุณภาพและความปลอดภัย เพื่อให้การรับรองคุณภาพแก่โรงพยาบาล ดังนั้นการให้บริการจะเป็นไปตามมาตรฐานอยู่แล้ว ประชาชนที่มารับบริการไม่ต้องกังวล และในช่วงเปลี่ยนผ่านนี้ผู้มีสิทธิบัตรทองอาจยังงงๆ อยู่ บางคนเช็คสิทธิแล้วขึ้นว่าสิทธิว่าง ไม่รู้จะไปทางไหนต่อ ขอเรียนว่าถ้าเคยมีบัตรผู้ป่วยอยู่กับโรงพยาบาลกล้วยน้ำไท ท่านสามารถมาสอบถามกันก่อนได้ ถ้ารับรักษาได้เราก็จะรักษาให้เลย แต่ถ้ารักษาไม่ได้ก็จะให้คำแนะนำว่าขั้นตอนในการเข้าถึงบริการต้องทำอย่างไรต่อไป” นพ.สุวินัย กล่าว

อนึ่ง นอกจากโรงพยาบาลกล้วยน้ำไทแล้ว ยังมีโรงพยาบาลอีก 2 แห่งที่ถูก สปสช.ยกเลิกสัญญา แต่ยังคงยินดีให้การดูแลผู้ใช้สิทธิบัตรทองในช่วงเปลี่ยนผ่านไปจนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2565 คือ โรงพยาบาลประชาพัฒน์ และ โรงพยาบาลบางมด ขณะเดียวกัน สปสช. จะเปิดให้ผู้ได้รับผลกระทบจากการยกเลิกสัญญากับ 9 โรงพยาบาลเอกชน สามารถเลือกหน่วยบริการประจำแห่งใหม่ได้ด้วยตัวเอง ตั้งแต่วันที่ 10 ต.ค. 2565 เป็นต้นไป ผ่าน 4 ช่องทาง คือ 1.สายด่วน 1330 2.ไลน์ไอดี @nhso เลือกเมนู เปลี่ยนหน่วยบริการด้วยตนเอง 3.แอปพลิเคชัน สปสช. เลือกเมนู ลงทะเบียนเปลี่ยนหน่วยบริการ และ 4.ติดต่อด้วยตัวเองที่ที่ทำการของ สปสช. ชั้น 2 อาคารบี ศูนย์ราชการฯ ถ.แจ้งวัฒนะ ตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น.

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่  
1.สายด่วน สปสช. 1330 กด 6 
2.ช่องทางออนไลน์ 
• ไลน์ สปสช. พิมพ์ไลน์ไอดี @nhso หรือคลิก https://lin.ee/zzn3pU6
• Facebook : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ https://www.facebook.com/NHSO.Thailand
ตรวจสอบสิทธิรักษาพยาบาลด้วยตนเองที่ https://eservices.nhso.go.th/eServices/mobile/login.xhtml