วันนี้ (6 กรกฎาคม 2565) ที่สถาบันบำราศนราดูร จ.นนทบุรี นายแพทย์โสภณ เมฆธน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข ได้รับมอบหมายจากนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพและโรคจากสิ่งแวดล้อม ครั้งที่ 3/2565 โดยมีผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม โดย นายแพทย์โสภณกล่าวว่า ในวันนี้ที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณาและมีมติเห็นชอบ อนุบัญญัติภายใต้พระราชบัญญัติควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพและโรคจากสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2562 ใน 3 เรื่องสำคัญ คือ 1.การกำหนดมาตรฐานการให้บริการของหน่วยบริการอาชีวเวชกรรม 2.การกำหนดมาตรฐานการให้บริการของหน่วยบริการเวชกรรมสิ่งแวดล้อม โดยมาตรฐานการให้บริการประกอบด้วย การบ่งชี้และประเมินความเสี่ยงของการเกิดโรคจากการประกอบอาชีพและโรคจากสิ่งแวดล้อม ตรวจสุขภาพตามปัจจัยเสี่ยง ตรวจสุขภาพให้เหมาะสมกับงาน ตรวจสุขภาพก่อนกลับเข้าทำงาน เฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรค รวมทั้งการวินิจฉัยสาเหตุของโรค การรักษาพยาบาล การฟื้นฟูสมรรถภาพ และการเฝ้าระวังสุขภาพประชาชน และ3.การขึ้นทะเบียนของหน่วยบริการ โดยกำหนดให้หน่วยบริการฯ ขึ้นทะเบียนกับกรมควบคุมโรคหรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐ ซึ่งหน่วยบริการจะต้องมีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขตามที่กำหนด และประเมินมาตรฐานทุกๆ 3 ปี โดยหลักการทั้ง 3 อนุบัญญัติ ดังกล่าวจะนำไปใช้เป็นมาตรฐานเดียวกันในหน่วยบริการทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อยกระดับการดูแลเฝ้าระวังสุขภาพกลุ่มคนวัยทำงาน ให้ได้รับการดูแลรักษาอย่างทันท่วงที และมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น โดยมอบให้กรมควบคุมโรคจะจัดทำคู่มือและแนวทางการดำเนินงานของหน่วยบริการ
นอกจากนี้ ในที่ประชุมได้ติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานของอนุกรรมการด้านต่าง ๆ รวมทั้งกำหนดเป้าหมายในการจัดทำอนุบัญญัติภายใต้พระราชบัญญัติควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพและโรคจากสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2562 ทั้งหมด 27 ฉบับ ให้แล้วเสร็จภายในปี 2566 ขณะนี้มีอนุบัญญัติที่มีผลใช้บังคับแล้ว จํานวน 10 ฉบับ อีกทั้งได้นำเสนอความก้าวหน้าการจัดทำแผนการเฝ้าระวัง การป้องกัน และการควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพและโรคจากสิ่งแวดล้อมระดับชาติ (พ.ศ. 2564 - 2580) และแผนปฏิบัติการ (Action Plan) ภายใต้แผนฯ ระยะที่ 1 (พ.ศ. 2564 - 2565) และระยะที่ 2 (พ.ศ. 2566 - 2570) คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบต่อ (ร่าง) แผนฯ ดังกล่าว และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำแผนไปดำเนินการต่อไป
*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org
- 564 views