สธ.เผยภูมิคุ้มกันหมู่คืออะไร พร้อมย้ำ! วัคซีนป้องกันโควิดมีประโยชน์ ลดอัตราเสียชีวิต

กรมควบคุมโรคย้ำ! ประสิทธิภาพวัคซีนโควิดมีประโยชน์ โดยเฉพาะกลุ่ม 608 ช่วยลดอัตราเสียชีวิตได้ 40-50 เท่า ด้านกรมวิทย์เผยกรณีโซเชียลฯ ชี้วัคซีนเข้าข้างโควิด เป็นเรื่องไม่จริง

เมื่อวันที่  4 เม.ย. 2565  ที่กระทรวงสาธารณสุข  นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค  กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีภูมิคุ้มกันหมู่ และประโยชน์ของวัคซีนป้องกันโควิด ว่า   ข้อมูลโควิด 19 มีการเปลี่ยนแปลงตลอด มีความไม่แน่นอนสูง ฉะนั้นการพิจารณาหรือตัดสินใจเรื่องใดในภาคปฏิบัติระดับประเทศต้องอาศัยความคิดเห็นหลักฐานเชิงประจักษ์ของผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้อง ไม่ใช้ความเห็นของคนใดคนหนึ่ง ส่วนใหญ่ข้อมูลที่ออกไปจะเป็นความเห็นโดยมีข้อมูลมารองรับ  

นพ.โอภาส กล่าวว่า  ยืนยันว่า ข้อมูลที่ออกไปทางกระทรวงสาธารณสุข  ศบค. คณะกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคกับวัคซีนเป็นผู้ให้ความคิดเห็น รวมทั้งสมาคมวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง  ต่างมีข้อมูลสอดคล้องกันว่า การฉีดวัคซีนป้องกันโควิดมีประโยชน์  ซึ่งคำว่าภูมิคุ้มกันหมู่ มีหลายประเทศที่เป็นตัวอย่าง พอติดเยอะๆ แล้วเกิดภูมิคุ้มกันมากขึ้น  การระบาดก็ลดลง เป็นตัวยืนยันว่าว่ามีภูมิคุ้มกันหมู่ แต่ภูมิคุ้มกันหมู่ต้องตีความและแปลความกันใหม่ เนื่องจากหลายประเทศแย้งว่าฉีดวัคซีนไปเยอะทำไมยังติดเชื้ออยู่ ย้ำอีกทีว่าภูมิคุ้มกันหมู่ ไม่ได้แปลว่ามีแล้วไม่ติดเชื้อ แต่มีแล้วติดเชื้อไม่ระบาดมากขึ้น 

"ขอย้ำว่า การฉีดวัคซีนมีความสำคัญ การที่ประเทศไทยเรามีผู้เสียชีวิตลดน้อยลง ส่วนหนึ่งเพราะเราฉีดครอบคลุมบุคคลากร รวมทั้งประชาชนได้ค่อนข้างมาก ตอนนี้เราเห็นแล้วว่าคนที่ติดเชื้อส่วนใหญ่อาการน้อยอยู่ที่บ้าน พอหายก็บอกว่าเป็นเพราะวัคซีน  จึงต้องย้ำประเด็นนี้ โดยเฉพาะกลุ่ม 608  เมื่อฉีดวัคซีนแล้วโอกาสป้องกันการเสียชีวิตได้สูง  ตัวเลขที่ผ่านมาลดเสียชีวิตได้ 40-50 เท่า" อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าว

ด้าน นพ.บัลลังก์ อุปพงษ์ รองอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า สำหรับข้อมูลที่มีการส่งต่อในโลกออน์ไลน์ประเด็น ภูมิคุ้มกันเข้าข้างไวรัส ต้องอธิบายว่า โดยปกติก่อนที่ผู้ผลิตวัคซีนจะมาขอขึ้นทะเบียนกับอย. จะต้องมีการตรวจสอบอย่างถี่ถ้วนว่า อาสาสมัครที่รับวัคซีน จะต้องไม่มีภาวะส่งเสริม ให้ไวรัสเพิ่มจำนวนในร่างกาย จนเกิดอาการรุนแรงเมื่อภูมิคุ้มกันลดลง ซึ่งทางการแพทย์เรียกว่า Vaccine-associated enhanced disease (VAED) นักวิชาการเรียกว่า ภาวะเวียด ซึ่งผู้ผลิตฯ จะต้องถูกหน่วยงานที่ควบคุมกำกับตรวจสอบถี่ถ้วน  โดยจากการตรวจสอบข้อมูลทั้งไทยและต่างประเทศ ยังไม่พบภาวะเวียด ที่ส่งเสริมให้ไวรัสเพิ่มจำนวนในร่างกายจนเกิดอาการรุนแรงเมื่อภูมิคุ้มกันลดลง ภายหลังการรับวัคซีนโควิด 1 2 และ 3 เข็ม 

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org