"อนุทิน" เผยเข้าครม.8 มี.ค.ไม่ใช่ยกเลิกโควิดยูเซป ยังใช้อยู่กลุ่มอาการเหลือง แดง เหตุต้องเข้าครม.เพราะอยู่ในหมวดงบประมาณ

 

เมื่อวันที่ 7 มี.ค.ที่กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวถึงกรณีประชาชนเข้ารพ.ในพื้นที่ กทม.พบว่าเต็มหลายโรงพยาบาล และยังขาดการประชาสัมพันธ์เรื่องนี้ ว่า เชื่อว่ากทม.คงเร่งแก้ไขปัญหาการสื่อสารกับประชาชน กระทรวงสาธารณสุขพร้อมสนับสนุนกทม.ทุกรูปแบบหากได้รับการร้องขอมา ซึ่งเราได้แจ้งให้ทราบแล้วว่า สธ.ได้ยินอะไรมาบ้างจากประชาชน ขอให้กทม.เร่งแก้ไข หากมีอะไรที่สธ.ช่วยได้ก็ยินดี 

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า สำหรับสายด่วน 1330 นั้นแต่ละวันมีการโทรเข้ามากว่า 6-7 หมื่นคู่สาย ซึ่งสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) รับทราบปัญหา และได้มีการเพิ่มคอลเซ็นเตอร์มากขึ้นแต่ก็ต้องใช้เวลา  และมีการปรับรูปแบบเรื่อย ๆ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์  มีการเปิดรพ.สนาม เปิดระบบดูแลตัวเองที่บ้าน (Home Isolation : HI) ศูนย์กักตัวในชุมชน (Community Isolation : CI) ตอนนี้มีการติดเชื้อ จึงกลัวว่าจะบริการได้ไม่ทันใจจึงเพิ่มระบบการดูแลผู้ติดเชื้อโควิด แบบผู้ป่วยนอก (OPD) ซึ่งปัญหาส่วนใหญ่อยู่ในเมืองใหญ่อย่างกทม. เพราะไม่มีรพ.ส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) เหมือนในต่างจังหวัดที่มีการผ่องถ่ายไปยังรพ.หลายๆ ระดับ 

“ตอนนี้ปัญหามันกระจุกอยู่ที่เดียว เราจะได้ระดมสรรพกำลังเข้าไปสนับสนุน ช่วยเหลือกันได้ แต่เจ้าภาพของของพื้นที่อย่างกทม. ท่านก็ต้องแจ้งมาว่าจะให้เราเข้าไปช่วยเหลืออย่างไร เพราะบางครั้งอยู่นอกเขตอำนาจ เข้าไปแล้วอาจจะเป็นการก้าวก่ายงาน และเกิดปัญหาได้ ซึ่งมันก็เคยเกิดมาแล้ว” นายอนุทิน กล่าว  

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา ในกทม.นั้นคนทำงานเขาคุยกันอยู่แล้ว ผอ.สำนักอนามัย กทม. ปลัดสธ.ก็ประสานงานกันตลอด แต่สธ.เข้าไปสั่งการอะไรได้ มีแต่การสนับสนุน ซึ่งเราก็ช่วยไว้พอสมควรในส่วนของรพ.ที่เรามีอยู่ อย่างรพ.ราชวิถี รพ.เลิดสิน มีการระดมช่วยพี่น้องกทม.เต็มที่ เป็นตัวกลางจัดเวชภัณฑ์ อาหารต่างๆ  แต่หากพี่น้องประชาชนมาช่วยกันเรื่องการทำ OPD คนอาการน้อย เจอ จาย จบ ก็จะทให้ระบบลื่นไหลได้มากขึ้น เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ หรือการตามแก้ไขปัญหา แต่เป็นการปรับให้ตรงกับสถานการณ์ ไม่ได้ปล่อยให้คนหายเอง แม้ว่าหลายเคสที่สามารถหายเองได้ก็ตาม ส่วนกรณีที่มีรายงานผู้ติดเชื้อในกทม.เสียชีวิตที่บ้านนั้นตนยังไม่ได้รับรายงานอย่างเป็นทางการ จะมีการสอบถามไปยังอธิบดีกรมควบคุมโรคถึงรายละเอียดอีกครั้ง

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 8 มี.ค.นี้จะมีการเสนอเรื่องยูเซปโควิด ซึ่งเป็นการนำเสนอเข้าไปอีกครั้งหนึ่ง สอดคล้องหรือตอบข้อสงสัยเมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้วอย่างชัดเจน ไม่ใช่ว่ามีผู้ติดเชื้อเยอะแล้วไม่เปิดเตียง แต่ที่จริง ผู้ติดเชื้อเยอะแล้วเราต้องยิ่งเปิดเตียง แต่ไม่ใช่ให้มาครองเตียงให้มาก แต่เมือ่คนติดเชื้อเพิ่มขึ้น เรายิ่งต้องแยกคนที่อาการน้อยให้รักษาแบบหนึ่ง อาการปานกลางรักษาอีกแบบหนึ่ง และคนที่มีอาการหนักรักษาอีกแบบหนึ่งที่ต้องเข้าถึงเตียงรักษาในโรงพยาบาล เป็นการตอบคำถามเรียบร้อยแล้ว 

 

“อย่างจะเรียนว่าเรื่องที่เข้าครม.ไม่ใช่เรื่องยูเซปจะเลิกหรือไม่เลิก การให้สีเขียวเข้าไปครองเตียง เพราะเป็นอำนาจของสธ.ในการดูแลผู้ติดเชื้อ ไม่ต้องขออนุมัติครม. แต่ที่เข้าครม. คือหมวดงบประมาณที่ใช้รักษาผู้อาการสีเหลือง สีเขียวที่จะให้ลักษณะฉุกเฉิน เพื่อให้รพ.ที่ดูแลสามารถเบิกจ่ายได้เร็วขึ้น ไม่ได้มีอะไรที่กระทบกับผู้ติดเชื้อ” นายอนุทิน กล่าว