ไทยเตรียมปรับมาตรการโควิดเป็น "โรคประจำถิ่น" พร้อมเผย 3 ประเทศ และ 1 รัฐ ปรับเป็นโรคประจำถิ่นแล้ว มี สเปน อินเดีย รัฐแคลิฟอร์เนียสหรัฐ และจีน และกำลังจะยกเลิกมาตรการโควิดเป็นศูนย์ หันมาใช้ Living with Covid ขณะที่ผู้ติดเชื้อรายงานวันนี้( 3มี.ค.) 65,756 ราย รวมทั้งการตรวจ RT-PCR และ ATK
เมื่อวันที่ 3 มี.ค.ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.สุมนี วัชรสินธุ์ ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารความเสี่ยง กรมควบคุมโรค กล่าวถึงสถานการณ์การติดเชื้อโควิด ว่า ขณะนี้ทั่วโลกติดเชื้อโควิด 440,641,800 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,579,200 ราย เสียชีวิตสะสม 5,993,043 ราย เสียชีวิตวันนี้ 7,733 ราย คิดเป็นอัตราการเสียชีวิต 1.36 % โดยประเทศที่มีการติดเชื้อ ทั้งนี้ จากสถานการณ์แพร่ระบาดโอมิครอนทั่วโลก ที่มีการแพร่ระบาดง่าย แต่อาการไม่รุนแรง เมื่อเทียบกับสายพันธุ์เดลตา ทำให้หลายประเทศมีการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ แม้จะมีผู้ติดเชื้อสูงก็ตาม โดยปรับไม่มีการล็อกดาวน์อีกต่อไป ซึ่งมีการจัดการในรูปแบบของการเป็นโรคประจำถิ่น ได้แก่ สเปน อินเดีย รัฐแคลิฟอร์เนีย ของสหรัฐอเมริกา จีน ซึ่งกำลังจะยกเลิกมาตรการโควิดเป็นศูนย์ หันมาใช้มาตรการอยู่กับโรคโควิด (Living with Covid)
"ส่วนประเทศไทยมีแนวโน้มปรับมาตรการให้โควิด เป็นโรคประจำถิ่น แต่ฝ่ายที่เกี่ยวข้องยังต้องพิจารณาอย่างรอบด้าน คำนึงถึงประชาชนในการเข้าถึงระบบบริการ คู่กับการทำมาหากินแบบวิถีใหม่เพื่อประโยชน์ในการควบคุมโรค และขับเคลอื่นเศรษฐกิจไปพร้อมๆ กัน ซึ่งต้องติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด" พญ.สุมนี กล่าว
(ข่าวเกี่ยวข้อง : ปลัด สธ.ลั่น 15 มี.ค.นี้ เตรียมเปิดแผนแนวทางรองรับโควิด19 เป็นโรคประจำถิ่น)
พญ.สุมนี กล่าวว่า สถานการณ์โควิดในไทยวันนี้ ผู้ติดเชื้อรายใหม่จากการตรวจด้วย RT-PCR จำนวน 23,618 ราย เป็นผู้ป่วยจากระบบเฝ้าระวังและบริการ 22,939 ราย จากการค้นหาเชิงรุก 272 ราย จากเรือนจำ 226 ราย ผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 181 ราย ส่วนผลการตรวจด้วย ATK เป็นบวกมีจำนวน 42,138 ราย ดังนั้น ผู้ติดเชื้อรายใหม่รวมทั้ง 2 วิธีการตรวจ อยู่ที่ 65,756 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยปอดอักเสบ 1,131 ราย โดย 1 ใน 3 ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ หรือ 325 ราย
ทั้งนี้ ผู้ที่อยู่ระหว่างการรักษาทั้งหมดตอนนี้ 223,414 ราย เป็นการรักษาในรพ. 79,412 ราย ในจำนวนนี้เป็นคนอาการน้อย 78,281 ราย คิดเป็น 98.5% ส่วนผู้ที่รักษาในรพ.สนาม กักตัวที่บ้าน หรือศูนย์กักตัวในชุมชน 144,002 ราย อย่างไรก็ตาม จะเห็นว่าผู้ติดเชื้ออาการน้อยมีจำนวนมาก มีการติดต่อผ่านสายด่วน 1330 จำนวนมาก จึงเพิ่มกำลังคนหลายหน่วยงานเข้ามาช่วย อาทิ ทหาร 300 นาย จิตอาสา ภาคประชาสังคม นอกจากนี้ ยังมีการลงทะเบียนผ่านไลน์ @nhso และลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์
"ที่ประชุมยังหารือเรื่องการรวมศูนย์คอลเซ็นเตอร์หน่วยงานต่างๆ มาช่วยเพิ่มเติม หากผู้ติดเชื้ออาการรุนแรง สีแดงให้โทรสายด่วน 1669 " พญ.สุมนี กล่าว
*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org
- 463 views