เชียงรายแถลงเคสสงสัย "โอไมครอน" เป็นชายชาวอังกฤษ 36 ปี มีผู้สัมผัสเสี่ยง 4 คน เบื้องต้นผลเป็นลบ รอยืนยันซ้ำ ขณะที่เคสสงสัย รอคอนเฟิร์มเชื้อจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์  ด้านผู้ว่าฯ  ย้ำทางจังหวัดมีมาตรการรองรับ สั่งการทุกอำเภอเตรียมพร้อมรับโอไมครอน รักษาแยกจากเชื้อเดลตาเดิม พร้อมทั้งเชิญชวนฉีดวัคซีนป้องกันโควิด

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 21 ธ.ค.2564 ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงราย นายภาสกร บุญญลักษม์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วย นพ.วัชรพงศ์ คำหล้า นายแพทย์สาธาณสุขจังหวัดเชียงราย, นพ.ศุภเลิศ เนตรสุวรรณ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ และ นพ.อิทธิพงษ์ ยอดประสิทธิ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ศรีบุรินทร์ จ.เชียงราย ร่วมกันแถลงข่าวผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ในจ.เชียงราย โดยมีการแถลงข่าวผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงรายอีกช่องทางหนึ่ง

นพ.ภาสกร กล่าวว่า  ปัจจุบันมีผู้ป่วยสงสัยเป็นโอไมครอน 1 ราย  โดยไทม์ไลน์ของกรณีนี้ คือ เป็นนักท่องเที่ยวชาย ชาวอังกฤษอายุ 36 ปี ติดโควิด 19 ซึ่งต้องสงสัยเข้าข่ายสายพันธุ์โอมิครอน ในจ.เชียงราย โดยพบขณะพักอยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในอ.เชียงของ วันที่พบว่าติดเชื้อมีอาการไข้สูง 38 องศา และเจ็บคอ ไข้ลดลงเป็นปกติแล้ว ผู้ป่วยคนดังกล่าวเดินทางจากประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.64 โดยทำการ RT-PCR ก่อนที่จะเดินทางโดยสายการบินเอมิเรตส์ จากนั้น ได้แวะเปลี่ยนเครื่องที่ดูไบ แล้วเข้าสู่สนามบินสุวรรณภูมิประเทศไทย ทำการ RT-PCR เป็นครั้งที่ 2 และกักตัว 1 วัน โดยมีผลเป็นลบ

นายภาสกร กล่าวต่อว่า จากนั้นได้เดินทางพักในโรงเแรมในส่วนกลางตั้งแต่วันที่ 13-15 ธ.ค.ที่ผ่านมา  โดยวันที่ 15 ธ.ค. ได้เดินทางด้วยเครื่องบินจากกรุงเทพฯไปยังท่าอากาศยานจ.เชียงใหม่ มีเพื่อนร่วมเดินทางชาวอเมริกาและคนขับรถ รวม 5 คน โดยเดินทางจากจ.เชียงราย ได้แวะพักปั๊มน้ำมันที่แม่ขะจาน อ.เวียงป่าเป้า แวะเที่ยวที่วัดร่องขุ่นระยะสั้นๆ จากนั้นเดินทางเข้าสู่ที่พักโรงแรมในอ.เชียงของ ร่วมกับเพื่อนชาวอเมริกัน

นายภาสกร กล่าวอีกว่า วันที่เข้าพักได้ลงไปทานอาหารที่ร้านอาหารใกล้กับโรงแรมที่พัก จากนั้นกลับเข้าห้องพักแล้วรู้สึกมีไข้ เจ็บคอเล็กน้อย เจ้าตัวรู้สึกไม่สบาย จึงไปซื้อชุดตรวจ ATK จากร้านขายยาใกล้โรงแรมมาตรวจ พบว่าผลเป็นบวก จึงพักอยู่ในห้องพัก และตรวจ ATK ซ้ำในช่วงเช้าก็พบว่าผลเป็นบวก จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ รพ.สมเด็จพระยุพราชฯ มารับตัว ก่อนจะส่งตัวไปรักษาต่อที่ รพ.เกษมราษฎรศรีบุรินทร์เชียงราย ในวันที่ 16 ธ.ค. หลังจากจังหวัดทราบเรื่อง จึงส่งทีมตรวจสอบโรคเข้าไปสอบสวนโรค 

สำหรับกลุ่มเสี่ยงสูงมี 4 ราย คือ เพื่อนที่เดินทางร่วมกันในรถมาจากเชียงใหม่ และคนขับรถ รวมกัน 4 คน โดยเบื้องต้นทั้ง 4 คนผลออกมาเป็นลบ ส่วนชาวอเมริกาได้ขอส่งตัวไปรักษาในสถานกักกันโรคสถานทูตอเมริกากรุงเทพฯ โดย นพ.สสจ. ได้ทำเรื่องส่งตัวไปแล้ว ส่วนคนขับรถก็เข้าสู่การกักตัวจ.เชียงใหม่  สำหรับพื้นที่ข้างเคียงที่อยู่ในระดับเสี่ยงต่ำเป็น พนักงานโรงแรม 2 ราย  ร้านอาหาร 1 ราย และร้านขายยา 1 ราย ที่ผู้ป่วยได้เข้าไปสัมผัส ซึ่งระหว่างที่ผู้ป่วยไปใกล้ชิดทั้งหมดได้สวมหน้ากากอนามัยและอยู่ด้วยกันเป็นเวลาสั้น  ขณะเดียวกันได้ตรวจ RT-PCR ทุกคนเป็นลบ จากนั้นจะมีการตรวจยืนยันอีกครั้ง โดยขณะนี้อยู่ระหว่างกักตัวทั้งหมดไว้เพื่อดูอาการ

นายภาสกร กล่าวว่า เรื่องโอไมครอน ทางจังหวัดได้สั่งการทุกอำเภอสำรองเตียง สำหรับ HI และ CI ประมาณ 30-50% ให้สำรวจและหาที่ใหม่พร้อมส่งมาภายในสิ้นเดือนนี้ โดยหากเราพบโอไมครอน เราจะแยกโซนผู้ป่วยออกจากกลุ่มเชื้อเดลตา ไม่ให้ปะปนกัน  อย่างไรก็ตาม กรณีพบผู้ป่วยโควิดชาวอังกฤษ หลังจากที่ได้ส่งตัวเข้ารับการรักษาแล้ว ได้ส่งตัวอย่างไปยังกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และพบว่ามีเชื้อเข้าข่ายสายพันธุ์โอมิครอน แต่ยังคงต้องตรวจสอบอีกครั้ง โดยผู้ติดเชื้อโอไมครอนทั่วประเทศ 63 ราย รอยืนยันอีก 20 ราย อย่างไรก็ตาม เคสเชียงรายยังไม่ยืนยันชัดเจน แต่ให้สงสัยว่าเป็นโอไมครอน
 

"เรามีมาตรการ อย่าเพิ่งตื่นตระหนก การนำเสนอข่าวอาจก่อให้เกิดความตื่นตระหนกกับพี่น้องประชาชนในบรรยากาศการท่องเที่ยวที่มีคนหลั่งไหลเข้าจังหวัดค่อนข้างมาก ดังนั้น หากมีข้อสงสัยให้สอบถาม เรายินดีให้ข้อมูลข้อเท็จจริงทั้งหมด" นายภาสกร กล่าว
พร้อมเชิญชวนพี่น้องประชาชนที่ยังไม่ได้รับวัคซีน ให้เข้ามารับทั้งเข็ม 1 หรือ 2 หรือแม้กระทั่งเข็ม 3 ปัจจุบันมีวัคซีนค่อนข้างมาก หากฉีดวัคซีนจะช่วยลดอาการรุนแรง และเสียชีวิตได้