อบจ.นครนายก เล็งสนับสนุนกายอุปกรณ์ดูแลผู้พิการและผู้สูงอายุ หลังจับมือ สปสช.เขต 4 สระบุรี ลงนามจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพระดับจังหวัดเมื่อปลายเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา พร้อมเตรียมสมทบเงินเพิ่มอีก 2-3 ล้านบาท หวังสนับสนุนกายอุปกรณ์และปรับสภาพแวดล้อมผู้พิการให้ครอบคลุมทั้งจังหวัดในระยะ 1-2 ปีนี้  

 

จ่าเอกสมชาย อิศรานุกูล รองปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครนายก กล่าวถึงการจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการ ผู้สูงอายุและคนที่ต้องได้รับการฟื้นฟู ซึ่งทาง องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครนายก (อบจ.นครนายก) โดยนายจักรพันธ์ จินตนาพากานนท์ นายก อบจ.นครนายก ได้ลงนามในข้อตกลง (MOU) ความร่วมมือดำเนินงานและบริหารจัดการกองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพระดับจังหวัด ร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เขต 4 สระบุรี ไปเมื่อวันที่ 24 พ.ย. 2564 ที่ผ่านมา โดยระบุว่า จ.นครนายกไม่เคยมีกองทุนฟื้นฟูฯ มาก่อน การร่วมมือกับ สปสช.ในการจัดตั้งกองทุนดังกล่าวขึ้น ถือว่าเป็นนิมิตรหมายที่ดีที่จะช่วยให้ผู้สูงอายุและคนพิการได้รับการฟื้นฟูสมรรถภาพและได้รับการดูแลด้านสภาพแวดล้อมให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

จ่าเอกสมชาย กล่าวว่า สำหรับ จ.นครนายก มีจำนวนผู้พิการ 9,266 คน ผู้สูงอายุ 46,821 คน ผู้สูงอายุติดบ้าน 41 คน ติดเตียง 20 คน และมีผู้ป่วยติดเตียงที่เป็นผู้พิการอีก 557 คน ซึ่งที่ผ่านมา องค์กรบริหารส่วนตำบล (อบต.) หรือเทศบาล มีขอบเขตการทำงานในพื้นที่รับผิดชอบของตัวเองและมีรูปแบบ มีคุณภาพการดูแลต่างกันไป แต่ในกรณีของ อบจ. มีขอบเขตการทำงานทั้งจังหวัด จึงสามารถให้การดูแลผู้สูงอายุและผู้พิการได้ครอบคลุมและมีคุณภาพเท่าเทียมกัน อีกทั้งผู้บริหารของ อบจ. ก็มาจากการเลือกตั้ง จึงเข้าใจและเข้าถึงประชาชน สามารถตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนในพื้นที่มากยิ่งขึ้น

จ่าเอกสมชาย กล่าวอีกว่า เมื่อมีการจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูฯในระดับจังหวัดขึ้นมาแล้ว ในระยะ 1-2 ปีนี้จะเน้นการจัดบริการที่เกี่ยวกับกายอุปกรณ์เป็นอันดับแรก เพราะกายอุปกรณ์ของผู้สูงอายุและผู้พิการบางส่วนเริ่มชำรุด หรือแม้แต่กลุ่มผู้ป่วยติดเตียงส่วนมากเบาะนอนก็เก่า ไม่ได้มาตรฐาน โดยขณะนี้ได้เริ่มประสานกับภาคประชาชน ทั้งกลุ่มผู้พิการ ผู้สูงอายุ รวมทั้งประสานไปยัง อบต.และเทศบาลต่างๆ เพื่อทำการสำรวจข้อมูล เช่นเดียวกับการปรับสภาพบ้าน ได้มอบหมายแต่ละพื้นที่ทำการสำรวจและเขียนโครงการเสนอเข้ามา ขณะที่ นายก อบจ.นครนายก มีแผนจะเพิ่มเงินสมทบในปีนี้อีก 2-3 ล้านบาท ทั้งหมดจะใช้เพื่อการดูแลผู้สูงอายุและผู้พิการในระยะ 1-2 ปีนี้ให้ได้ครอบคลุมทั่วถึงมากที่สุด

ด้าน นพ.ชลอ ศานติวรางคณา ผู้อำนวยการ สปสช.เขต 4 สระบุรี กล่าวว่า สปสช. ได้ดำเนินการตามมาตรา 47 แห่งพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545 โดยกำหนดหลักเกณฑ์การดำเนินงานและการบริหารจัดการกองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพระดับจังหวัด เพื่อให้องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) มีส่วนร่วมในการสร้างหลักประกันสุขภาพด้านการฟื้นฟูสมรรถภาพให้กับบุคคลในพื้นที่ได้อย่างครบวงจรและมีประสิทธิภาพ โดยการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ส่วนหนึ่ง สมทบกับเงินงบประมาณขององค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อีกส่วนหนึ่งในจำนวนที่เท่ากัน เพื่อให้คนพิการ ผู้สูงอายุ ผู้ที่อยู่ในระยะที่จำเป็นต้องได้รับการฟื้นฟูสมรรถภาพได้รับบริการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์ที่จำเป็นต่อสุขภาพจากหน่วยบริการ สถานบริการ หรือองค์กรอื่นๆ รวมทั้งได้รับเครื่องช่วยกายอุปกรณ์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับบริการทางการแพทย์

สำหรับ จ.นครนายก มีประชากรสิทธิบัตรทอง จำนวน 174,158  คน โดย สปสช. สนับสนุนงบประมาณ 5 บาทต่อประชากร เป็นจำนวนเงิน 870,790 บาท ขณะที่ อบจ.นครนายก ตั้งงบประมาณสมทบอีก 1,000,000 บาท เข้ากองทุนฟื้นฟูฯ ทำให้มีเงินตั้งต้นในการดำเนินงาน 1.87 ล้านบาท  กองทุนนี้สามารถนำไปจัดบริการได้หลากหลาย เช่น การอบรมการดูแลผู้สูงอายุ การดูแลคนพิการ การสนับสนุนกายอุปกรณ์ที่ระบบปกติเบิกไม่ได้แต่มีความจำเป็น เช่น รถโยก หรือคลังอุปกรณ์ เช่น ถังออกซิเจน ที่นอนลม เตียงสำหรับคนพิการ หรือเกี่ยวกับเชิงสังคม เช่น การปรับสภาพบ้านคนพิการ ทางลาด ราวจับในห้องน้ำ รวมถึงเพิ่มการฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการหรือคนชายขอบ