ที่ประชุม ศบค. เห็นชอบขยายเวลาสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วราชอาณาจักรไปอีก 2 เดือน จนถึง 31 ม.ค.65 และยกเลิกพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) และไม่มีเคอร์ฟิว เริ่ม 1 ธ.ค.64 ส่วนผับ บาร์ ขอเป็นดูความพร้อม ตัดกำหนดการเดิม 16 ม.ค.65 ใครพร้อมอาจเปิดก่อน

เมื่อวันที่ 26 พ.ย. 2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด19(ศบค.) แถลงข่าวภายหลังการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ เรื่องปรับมาตรการเปิดประเทศ ว่า ที่ประชุมพิจารณาเห็นชอบขยายเวลาสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วราชอาณาจักรครั้งที่ 15 ด้วยเหตุผลการควบคุมโรคเป็นหลัก โดยขยายไปอีก 2 เดือน คือ ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 2564- 31 ม.ค.2565  และเห็นชอบปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ทั่วราชอาณาจักร โดยพิจารณาข้อเสนอจากกระทรวงสาธารณสุข และหลายปัจจัย สรุปดังนี้

- พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด จากเดิมมี 6 จังหวัด ขณะนี้ไม่มีแล้ว   เมื่อไม่มีพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด จึงยกเลิกการห้ามออกนอกเคหสถาน

- พื้นที่ควบคุมสูงสุด จาก 39 จังหวัด เหลือ 23 จังหวัด 

- พื้นที่ควบคุม จาก 23 จังหวัด ยังเป็น 23 จังหวัด

- พื้นที่เฝ้าระวังสูงจาก 5 จังหวัด เป็น 24 จังหวัด 

- พื้นที่เฝ้าระวังไม่มี 
- พื้นที่สีฟ้า(นำร่องการท่องเที่ยว) เดิม 4 จังหวัด เป็น 7 จังหวัด 
(จังหวัดอื่นดำเนินการบางอำเภอ บางพื้นที่ 19 จังหวัด) 
ทั้งหมดเริ่มวันที่ 1 ธ.ค.2564 เป็นต้นไป 

 

ส่วนการพิจารณาเปิดผับ บาร์ คาราโอเกะ  ขอเป็นดูความพร้อม ตัดกำหนดการเดิม 16 ม.ค.65 ใครพร้อมอาจเปิดก่อน โดยต้องเน้นมาตรการ COVID19 Free Setting ส่วนเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบได้มอบหมายหน่วยงานสำรวจผู้ได้รับผลกระทบ ทั้งนายจ้างลูกจ้าง ว่ามีจำนวนเท่าไหร่ เพื่อพิจารณาหาทางเยียวยาต่อไป