สธ.สำรวจกลุ่มลังเลฉีดวัคซีน จ.นครศรีธรรมราช 8 พันคน ให้นักจิตวิทยา ทีมสุขภาพจิตให้ข้อมูลสร้างความเข้าใจวัคซีนโควิด พบ 6 พันคนหันยอมฉีดวัคซีน มีอีก 2 พันคนไม่ฉีด ด้าน ปลัดสธ.เผยไม่ใช้กฎหมายบังคับ หรือ พรบ.โรคติดต่อฯ ชี้ สธ.เดินหน้าฉีดวัคซีนให้ได้ 100 ล้านโดส ตั้งเป้า 5 ธ.ค.64 แม้เลยกำหนดเป้าหมายก็ต้องฉีดเรื่อยๆ แต่เน้นความสมัครใจ

เมื่อวันที่ 22 พ.ย. นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ให้สัมภาษณ์กรณีการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในประเทศไทย เพื่อให้ถึงเป้าหมาย 100 ล้านโดส รวมถึงการฉีดวัคซีนเข็มแรกให้ครบ 100% ของประชากร ว่า ไทยเราฉีดวัคซีนไปเยอะมาก แต่ที่มีข้อมูลปรากฏในระบบน้อยกว่าที่ฉีดไปประมาณ 2-3 ล้านข้อมูล เนื่องจากบางข้อมูลไม่สมบูรณ์ ทำให้ไม่ขึ้นในระบบ เช่น เลขบัตรประชาชน เลขล็อตวัคซีนผิดเพราะตัวเลขเยอะ รวมถึงตัวเลขที่ฉีดในระบบอื่นก็อาจตกหล่นอยู่บ้าง ซึ่งเรากำลังสางข้อมูลอยู่

“หากตามระบบที่มีอยู่ ก็น่าจะมีคนประมาณอีก 10 กว่าล้านคนที่ยังไม่ได้ฉีด แต่ก็อาจมีที่ฉีดไปแล้ว ซึ่งก็อาจจะไม่ถึง แต่เราจะพยายามทำสวนกลับ มอบให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ แทนที่จะนับคน นับขวด ก็ให้ทำการศึกษาในแล็บตรวจภูมิต้านทาน เพื่อดูว่าคนที่มีภูมิต้านทานมีกี่เปอร์เซ็นต์ ก็น่าจะพอบอกได้ว่าประเทศมีคนมีภูมิฯ ระดับไหน” นพ.เกียรติภูมิ กล่าว

นพ.เกียรติภูมิ กล่าวอีกว่า เมื่อเราฉีดวัคซีนไปจำนวนหนึ่งแล้ว เช่น 70-80% ของประชากร ซึ่งถือว่าเยอะมาก ก็เปลี่ยนจากการหาคนที่ยังไม่ได้ฉีด มาเป็นศึกษาคนว่ามีภูมิฯ ระดับไหนแล้ว เช่น หากเราฉีดไป 70% แต่อาจมีภูมิฯ ถึง 75% ก็ได้ ซึ่งการฉีดวัคซีนกับภูมิฯ ก็เกิดขึ้นได้จาก 1.ฉีดวัคซีน 2.เคยติดเชื้อแล้วเกิดภูมิฯ และ 3.ฉีดวัคซีนแต่ภูมิฯ ไม่ขึ้น โดยเราก็ต้องศึกษาในเรื่องนี้ เพื่อดูว่าคนในชุมชนมีภูมิฯ ประมาณกี่เปอร์เซ็นต์ แต่ไม่เชิงการหาภูมิคุ้มกันหมู่ในประเทศ ทั้งนี้ เราจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในสิ้นเดือน พ.ย.64 นี้ เพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์ วางแผนต่อไป

เมื่อถามว่ากลุ่มผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน ทางกระทรวงฯ จะมีแนวทางอย่างไร เพื่อจูงใจให้มาฉีด นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า เราชักชวนอยู่ ซึ่งเราได้ทำการศึกษาสำเร็จใน จ.นครศรีธรรมราช กลุ่มผู้ที่ลังเลจะฉีดวัคซีน เพราะอาจจะยังกลัวแพ้ หรือกังวลความปลอดภัย เราได้ศึกษาในประชาชน 8 พันกว่าคน โดยให้นักจิตวิทยา และทีมสุขภาพจิตเข้าไปช่วยให้ข้อมูล ปรากฏว่า มี 6 พันคนที่ยอมฉีดวัคซีน ส่วนอีก 2 พันกว่าคนยืนยันว่าไม่ฉีด ผลสรุปคือ หากเราทำความเข้าใจแล้ว จะมี 2 ใน 3 ที่ยอมฉีด อีก 1 ส่วนคือผู้ที่ไม่ยอมฉีดเลย

“ทาง สธ. ก็จะเชิญชวนมาฉีดมากขึ้น เราไม่อยากใช้มาตรการบังคับ แต่หากถึงจุดหนึ่ง หากเรามีภูมิฯ แล้ว คิดว่าพอเพียง ก็คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ก็ยังตามความสมัคร แต่สมมติเกิดการระบาดขึ้นมาก ก็อาจต้องใช้มาตรการมากกว่าเชิญชวน อาจต้องห้ามคนที่ยังไม่มีรับวัคซีน ทำกิจกรรมอะไรบางอย่างที่จะเกิดการติดหรือแพร่เชื้อได้” ปลัดสธ. กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าต้องถึงกับมีการใช้กฎหมาย หรือ พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ หรือไม่ นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า ยังไม่ได้คิดถึงการใช้กฎหมาย หรือ พ.ร.บ.โรคติดต่อ มาบังคับ เนื่องจากเรายังฉีดวัคซีนได้อยู่ ถึงระยะหลังอาจจะช้าลง แต่ก็เกิดขึ้นในทุกประเทศที่มีการฉีดวัคซีนเยอะแล้ว แต่เราก็ยังฉีดได้เรื่อย ๆ เราก็พยายามทำให้สำเร็จให้ได้ แม้จะถึง 100 ล้านโดสที่เราวางเป้าหมายไว้วันที่ 5 ธ.ค.64 แต่หลังจากนั้น ก็ยังต้องฉีดต่อไปเรื่อย ๆ ไม่ใช่ถึง 100 ล้านโดสแล้วเราจะหยุด ดังนั้น ก็ยังเป็นความสมัครใจ

เมื่อถามย้ำว่า เป้าหมายการฉีดให้ครบ 100 ล้านโดสภายในวันที่ 5 ธ.ค. จะทำได้ครบหรือไม่ นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า เราก็พยายาม ตอนนี้เรามีวัคซีน มีศักยภาพ เราก็พยายามทำให้สำเร็จ

 

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org