เปิดรายละเอียดผลตรวจ ATK โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในอำเภอนิคมคำสร้อย จ.มุกดาหาร เพราะอะไรผลลวงตอนแรก พร้อมย้ำไม่ได้บังคับให้สถานศึกษาต้องตรวจ ATK ทุกคน แต่ให้ใช้แบบสุ่มตรวจ

(อัปเดตข่าวเกี่ยวข้อง : ชุดตรวจ ATK รร. คำสร้อยพิทยาสรรพ์ มุกดาหาร ที่แท้ได้รับบริจาค และไม่ผ่าน อย.)

จากกรณีการตรวจATK ในรร.มัธยมแห่งหนึ่งในอำเภอนิคมคำสร้อย จ.มุกดาหารนพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ให้ข้อมูล ว่า ส่วนกรณีข่าวนักเรียน จ.มุกดาหารตรวจ ATK พบการติดเชื้อจำนวนมากนั้น กองระบาดวิทยาติดตามข้อมูลเบื้องต้น พบว่าเกิดที่โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.นิคมคำสร้อย จ.มุกดาหาร มีการตรวจ ATK ในครูผลบวก 14 คน และนักเรียน 3 คน รวม 17 คน ทีมสอบสวนโรคและสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมุกดาหารจึงออกตรวจเชิงรุกอีกครั้งด้วย ATK 4 ยี่ห้อ ในนักเรียนและบุคลากร 1,106 ราย พบผลบวก 87 คน ซึ่งมาจากชุดตรวจ ATK ที่โรงเรียนจัดหาทั้งหมด จึงมีการสุ่มตรวจด้วยชุดตรวจ ATK อีกชุดพบว่าเป็นผลลบ และเมื่อตรวจซ้ำด้วย RT-PCR พบว่าทุกรายเป็นลบ สรุปว่าผลตรวจไม่มีการติดเชื้อ แต่จะเฝ้าสังเกตอาการเพื่อความไม่ประมาท โดยโรงเรียนสามารถทำความสะอาดและเปิดเรียนได้ เพราะนักเรียนและบุคลากรเกิน 70% รับวัคซีนแล้ว จะมีการตรวจสอบหาสาเหตุที่ ATK ให้ผลบวกลวงอีกครั้ง ซึ่งอาจเกิดจากการจัดเก็บไม่ดี ตรวจไม่ถูกวิธี ปนเปื้อนเชื้อ หรือทิ้งผลตรวจไว้นาน

"เบื้องต้นจากการตรวจด้วย ATK  ครั้งแรกพบ   ครู นักเรียน ภารโรง 87 คน ติดเชื้อ แต่เมื่อมีการตรวจซ้ำด้วย ชุดตรวจอื่นๆ ทั้งเลอปู๋ ที่ทางสปสช. จัดหากลับไม่พบการติดเชื้อ และชุดตรวจ ATK ยี่ห้อ Standard Q ของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมุกดาหารก็ไม่พบการติดเชื้อเช่นกัน จึงได้มีการตรวจซ้ำด้วย  RT-PCR ซ้ำ ไม่พบการติดเชื้อ   โดยชุดตรวจ ATK  ที่ตรวจแล้วพบการติดเชื้อ เป็นชุดตรวจที่ทาง ร.ร.จัดหา  (DVOT)  อย่างไรก็ตามสำหรับระเบียบและข้อปฏิบัติในสถานศึกษาไม่ได้มีการบังคับให้มีการตรวจ ATK ทุกคน แต่ให้ใช้การสุ่มตรวจ ส่วนอัตราการรับวัคซีนในโรงเรียนดังกล่าวพบว่า ส่วนใหญ่ครูและนักเรียนได้รับวัคซีนแล้ว 1 เข็ม"

นพ.โอภาส กล่าวว่า สำหรับความแม่นยำของ ATK นั้น เมื่อเทียบกับ RT-PCR ย่อมน้อยกว่า แต่ATK เหมาะสำหรับผู้ที่มีเชื้อมาก และ ต้องตรวจซ้ำบ่อยๆ โดยการเก็บรักษาเพื่อให้ ATK คงประสิทธิภาพก็มีส่วนสำคัญ โดยต้องเก็บให้พ้นแสงแดด และความชื้น รวมถึงต้องตรวจให้ถูกต้อง เช่น การอ่านผลในช่วงเวลาที่กำหนด 15 นาที เกินกว่านั้นอาจคลาดเคลื่อนได้ 

 



 

 

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org