รองนายกฯ -รมว.สธ. พร้อมผู้บริหาร ลุยตรวจความพร้อมจุดฉีดวัคซีนโควิด ตั้งเป้าทะลุ 1 ล้านโดส เนื่องในวันมหิดล ยันสถานการณ์ปลอดภัยรัฐพร้อมผ่อนคลาย แถมฉีดวัคซีนบูสเตอร์ทุก 6 เดือน คล้ายฉีดวัคซีนหวัดใหญ่ทุกปี

เมื่อวันที่ 24 ก.ย.นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมจุดให้บริการรณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 จำนวน 1 ล้านโดส เนื่องในวันมหิดล เพื่ออุทิศถวายแด่สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร์ อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก พระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันของไทย ที่ห้างเซ็นทรัลเวสต์เกต บางใหญ่ ซึ่งมีเป้าหมายฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ให้ประชาชนกลุ่มเป้าหมาย เข็ม 2 จำนวน 11,954 คน และฉีดกระตุ้นเข็ม 3 จำนวน 500 คน รวมทั้งสิ้น 12,454 คน ก่อนจะเดินทางไปตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจการให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด -19 ที่ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ซึ่งมีเป้าหมายฉีดเข็ม 3 จำนวน 1.5 หมื่นคน

นายอนุทิน กล่าวว่า วันนี้เป็นวันมหิดลซึ่งเป็นวันที่มีความหมายกับวงการแพทย์และสาธารณสุขทั้งนี้เพื่อเป็นการระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนกซึ่งถือเป็นพระบิดาแห่งวงการแพทย์ของไทย วันนี้ สธ.จึงรณรงค์เชิญฉีดป้องกันโรคโควิด 19 ให้ได้ทั่วประเทศจำนวน 1 ล้านโดส โดยย้ำว่าวัคซีนที่จัดหามาทั้งวันนี้หรือก่อนหน้านี้เป็นวัคซีนที่มีคุณภาพ ช่วยให้ปลอดภัย แม้ว่าจะป้องกันการติดเชื้อไม่ได้ 100% แต่เมื่อติดเชื้อแล้วก็ช่วยป้องกันอาการป่วยรุนแรงและแทบจะไม่มีโอกาสเสียชีวิตนี่คือคุณสมบัติที่ดีที่สุดของวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ซึ่งขณะนี้ฉีดไปแล้ว 47 ล้านโดส ภายในสิ้นเดือนนี้น่าจะเกิน 50 ล้านเข็ม ถือว่าฉีดวัคซีนได้เร็ว เป็นไปตามแผนการ เพราะฉะนั้นคิดว่าถึงสิ้นปีที่ประชากรในประเทศไทยจะได้รับวัคซีนตามเป้าหมาย ครบถ้วน แล้วโอกาสการแพร่เชื้อฯ ควบคุมการแพร่ระบาดของโควิดกระชับและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทุกคนก็จะปลอดภัย

“ในฐานะที่ผมเป็นผู้รับผิดชอบระบบสาธารณสุขของไทย ขอวิงวอนประชาชนทุกคนว่าถึงแม้จะได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เรียบร้อยทุกคนแล้ว แต่เนื่องจากไวรัสโควิดยังอยู่ทั่วไปในประเทศนี้จึงขอความร่วมมือให้ประชาชนคงพฤติกรรมที่เราทำมาตลอดคือล้างมือ เว้นระยะห่าง และสวมหน้ากากอนามัย โอกาสที่จะได้รับอันตรายจากโควิด เรียกได้ว่าแทบจะไม่มีเลย แล้วจะช่วยให้ทุกคนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างเป็นปกติสุขได้ รัฐบาลขอให้คำยืนยันว่าเมื่อเราได้ควบคุมสถานการณ์เห็นว่ามีความปลอดภัยระดับหนึ่งแล้วจะเริ่มผ่อนคลายมาตรการต่างๆ เพื่อให้ประชาชน ได้กลับมาใช้ชีวิตให้เป็นปกติมากที่สุดเท่าที่จะทำได้” นายอนุทิน กล่าว

นายอนุทิน กล่าวว่า วันนี้หลายคนมาฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ซึ่งเป็นวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า เข็มแรกเป็นซิโนแวค และภูมิคุ้มกันจะเพิ่มขึ้นใน 2 สัปดาห์หลังฉีด ดังนั้นในช่วงระยะเวลานี้ขอให้ระมัดระวังตัวเอง นอกจากนี้วันนี้จะได้มีการเริ่มการรณรงค์ฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 ให้กับผู้ที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มในเดือนมี.ค.-พ.ค. ซึ่งหลังฉีดวัคซีนเข็ม 2-3 ไปแล้วมีรายงานการศึกษาพบว่าหลัง 6 เดือน ภูมิคุ้มกันอาจจะลดลงกระทรวงสาธารณสุขก็ได้จะฉีดบู๊สเตอร์โดสเพื่อเสริมภูมิคุ้มกันไปเรื่อยๆ เหมือนกับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ทุกปี