สธ.ย้ำหน่วยบริการ แจกชุดตรวจ ATK ให้ประชาชนตรวจด้วยตัวเองแล้ว ขอให้วางแนวปฏิบัติให้ชัดเจน โดยประชาชนต้องได้รับการดูแลที่ถูกต้อง หรือพิมพ์แนวปฏิบัติว่าจะติดต่อหน่วยบริการอย่างไรในกรณีผลตรวจเป็นบวกแจกคู่ไปกับชุดตรวจด้วย ย้ำเมื่อประชาชนติดต่อมาแล้วห้ามปฏิเสธการดูแล ด้าน สปสช.คาดสัปดาห์หน้าเริ่มเปิดลงทะเบียนขอรับชุดตรวจได้
นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวในการประชุมชี้แจงแนวทางกระจายชุดตรวจ Antigen test kit (ATK) เพื่อแจกประชาชน และการจ่ายชดเชยค่าบริการสำหรับหน่วยบริการในระบบหลักประกันสุขภาพ วันที่ 10 ก.ย. 2564 โดยระบุว่าขณะนี้ โหมดในการใช้ชีวิตของคนไทยคือ Living with COVID หรือการใช้ชีวิตร่วมกับโควิด-19 ดังนั้นสิ่งที่กระทรวงสาธารณสุขจะทำมี 3 เรื่องใหญ่ๆ คือ
1. ฉีดวัคซีนป้องกันโควิดให้ครอบคลุมมากที่สุด แม้ไม่มีวัคซีนยี่ห้อใดในโลกที่สามารถป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ได้ 100% แต่สามารถป้องกันการป่วยหนักหรือเสียชีวิตได้เกือบ 100% ดังนั้นต้องเร่งฉีดให้ครอบคลุมมากที่สุดโดยเฉพาะกลุ่มที่มีโอกาสป่วยแล้วเสียชีวิตสูง คือ ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป กลุ่ม 7 โรคเรื้อรัง และกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ โดยในกลุ่มหญิงตั้งครรภ์นั้น ขณะนี้ยังมีสัดส่วนการฉีดวัคซีนที่น้อยมาก ดังนั้นขอให้หน่วยบริการดูแลให้มากขึ้น ปกติหญิงตั้งครรภ์ต้องมาคลินิกฝากครรภ์ทุกเดือนอยู่แล้ว ถ้ามาแล้วพบว่ายังไม่ได้รับวัคซีนโควิด-19 ก็ให้เจ้าหน้าที่ฉีดได้เลย ไม่ต้องรอให้ถึงวันนัดฉีด
2. universal prevention ให้บุคลากรทางการแพทย์และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) สื่อสารกับประชาชนในเรื่องการป้องกันตัว ขอให้คิดเสมือนว่าตัวเองติดเชื้ออยู่แต่ยังไม่มีอาการ ต้องป้องกันตัวไม่ให้เอาเชื้อไปติดคนอื่น ขณะเดียวกันก็ต้องคิดเสมอว่าคนรอบๆตัวอาจมีเชื้อโควิดโดยที่ยังไม่แสดงอาการ เพราะฉะนั้นก็ต้องป้องกันตัวไม่ให้รับเชื้อจากคนอื่นเช่นกัน
3. การตรวจหาเชื้อด้วย ATK เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการระบาดหนัก ในขณะนี้จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่กำลังอยู่ในช่วงขาลง แต่ก็ไม่มีอะไรยืนยันว่าจะไม่กลับมาระบาดหนักอีก การตรวจหาเชื้อด้วย ATK จะเป็นเครื่องมือช่วยลดจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพราะถ้าสามารถค้นหาได้เร็ว แยกได้เร็ว แทนที่ 1 คนจะแพร่เชื้อได้ 8-9 คนก็อาจจะเหลือ 1 คนต่อ 1-2 คนหรือไม่ติดใครเพิ่มเลย
“ต้องขอบคุณ สปสช.ที่สนับสนุนให้ประชาชนมีชุดตรวจ ATK ที่สามารถใช้เองได้ ดังนั้น ATK 8.5 ล้านชิ้นนี้ต้องฝากทุกจังหวัด ในการกระจายและให้ประชาชนได้ทำการตรวจด้วยตัวเอง โดยให้ อสม.ช่วยในการกระจายชุดตรวจและสอนวิธีการใช้” นพ.ธงชัย กล่าว
นพ.ธงชัย เน้นย้ำด้วยว่า ขอให้หน่วยบริการที่กระจายชุดตรวจในแต่ละพื้นที่ จัดทำแนวทางการปฏิบัติให้ชัดเจนว่าถ้าผลตรวจเป็นบวกแล้วต้องทำอย่างไร ติดต่อที่ไหน ให้มาหาที่โรงพยาบาลหรือโทรมาก่อนแล้วโรงพยาบาลไปรับ โดยให้จัดทำแนวทางตามความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่ พร้อมทั้งพิมพ์สติ๊กเกอร์พร้อมหมายเลขติดต่อหน่วยบริการติดไว้ที่กล่อง ATK หรืออาจพิมพ์แนวทางการปฏิบัติใส่ซองไปพร้อมๆกันก็ได้
“เมื่อกระจายชุดตรวจลงไปแล้วขอให้วางแนวปฏิบัติให้ชัดเจน โดยประชาชนต้องได้รับการดูแลที่ถูกต้องรวดเร็วและไม่มีการปฏิเสธไม่ว่าจะตรวจด้วย ATK จากโครงการนี้หรือไปซื้อมาตรวจเองก็ตาม ถ้าอาการไม่หนักก็แนะนำให้ทำ Home Isolation แต่ถ้าจะรับเข้าโรงพยาบาลหรือโรงพยาบาล ต้องทำ RT-PCR ก่อน” นพ.ธงชัย กล่าว
นพ.ธงชัย กล่าวย้ำเพิ่มเติมว่า ในการแจก ATK นั้น ขอให้เจ้าหน้าที่มีการสอบถามเบื้องต้นก่อนว่าอยู่ในกลุ่มเสี่ยงหรือไม่ ไม่ใช่ใครมาขอก็ให้หมด ขอให้เน้นกลุ่มเสี่ยงที่มาจากพื้นที่ที่มีการระบาด คนในครอบครัวในชุมชนมีผู้ป่วย รวมทั้งกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าในในตลาด โดยหากตรวจครั้งแรกแล้วไม่เจอ ให้แนะนำว่าอย่าเพิ่งวางใจ อีก 4-5 วันให้ตรวจซ้ำอีกครั้งหรือตรวจทันทีที่มีอาการไม่สบาย
นพ.อภิชาติ รอดสม รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า คาดว่าชุดตรวจ ATK จะกระจายไปยังหน่วยบริการต่างๆได้ในสัปดาห์หน้าและเริ่มลงทะเบียนรับชุดตรวจได้ตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย. 2564 เป็นต้นไป ซึ่งในจำนวนชุดตรวจ 8.5 ล้านชุด จะกระจายในเบื้องต้น 96% แบ่งเป็น กทม. 2.5 ล้านชุด เขตสุขภาพที่ 1-12 อีกประมาณ 5 ล้านชุด หน่วยบริการในสังกัดกรมอนามัยอีก 4 แสนชุด ส่วนชุดตรวจที่เหลือจะเป็นส่วนที่สำรองไว้
นพ.อภิชาติ กล่าวว่า ในพื้นที่ กทม. จะบริหารจัดการโดยสำนักอนามัยของ กทม. กระจายไปยังศูนย์บริการสาธารณสุข แล้วศูนย์บริการสาธารณสุข มอบต่อให้ผู้นำชุมชนหรืออาสาสมัครสาธารณสุข (อสส.) นำไปกระจายให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่รับผิดชอบ โดยเน้นชุมชนแออัด ตลาด ร้านเสริมสวย สปา โรงเรียน และกลุ่มที่เกี่ยวกับบริการสาธารณะ
นอกจากนี้ ประชาชนยังสามารถขอรับได้ที่คลินิกชุมชนอบอุ่นและร้านยาที่เข้าร่วมกับโครงการของ สปสช. โดยลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง
ส่วนในพื้นที่ต่างจังหวัดจะกระจายชุดตรวจ ATK ไปยังโรงพยาบาลชุมชนและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) โดยมี อสม. และจิตอาสา กระจายชุดตรวจให้กลุ่มเสี่ยงที่บ้าน ขณะเดียวกันประชาชนก็ยังขอรับชุดตรวจที่คลินิกชุมชนอบอุ่นและร้านยาที่เข้าร่วมโครงการในต่างจังหวัด ผ่านการลงทะเบียนผ่านแอปฯเป๋าตังได้เช่นกัน
*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org
- 9 views