“อนุทิน” รับมอบวัคซีนไฟเซอร์ 1.5 ล้านโดสล็อตแรก! จากสหรัฐสนับสนุนให้ไทย พร้อมเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบคุณภาพ จากนั้นดำเนินการฉีดกลุ่มเป้าหมาย บุคลากรการแพทย์ด่านหน้าบูสเตอร์ โดส 700,000 โดส ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค หญิงตั้งครรภ์ที่มีอายุครรภ์ตั้งแต่ 12 สัปดาห์ขึ้นไป ฯลฯ
เมื่อเวลา 04.00น.วันที่ 30 ก.ค. ที่ ท่าอากาศยานสนามบินสุวรรณภูมิ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และคณะผู้บริหาร เดินทางไปตรวจรับมอบวัคซีนไฟเซอร์ จำนวน 1.5 ล้านโดส ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาสนับสนุนให้ไทย
นายอนุทิน กล่าวว่า ขอขอบคุณรัฐบาลสหรัฐอเมริกาที่ได้มอบวัคซีนให้กับประเทศไทยเพื่อป้องกันโรคระบาด ซึ่งการกระจายวัคซีนชุดนี้จะขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการด้านบริหารจัดการการให้บริการวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19
ทั้งนี้ วัคซีนไฟเซอร์ ทั้ง 1.5 ล้านโดส จะต้องเก็บภายใต้อุณหภูมิ -70 ถึง -90 องศาเซลเซียส เพื่อคงประสิทธิภาพของวัคซีน หลังจากนั้น จะกระจายไปยังพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศตามแผนการฉีดที่กำหนดไว้
ด้านนพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า วัคซีนไฟเซอร์ที่ได้รับมอบหมาย 1.5 ล้านโดส จะต้องนำสู่เข้ากระบวนการตรวจสอบคุณภาพและระหว่างนั้นดำเนินการคู่ขนานคืออบรมการฉีดวัคซีนเนื่องจากเป็นวัคซีนแบบชนิดเข้มข้น เบื้องต้นตั้งเป้าหลังอบรมเสร็จแล้ว ดำเนินการฉีดให้กับบุคลากรด่านหน้าจำนวนทั้งสิ้น 700,000 คน ร่วมกับกลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7กลุ่มโรคและผู้สูงอายุรวมถึงเด็กอายุ 12 ปีที่มีโรคประจำตัว โดยตัวเลข สัดส่วนนี้ จะทำตามที่จังหวัดเสนอมา โดยรายละเอียดทั้งหมดได้มอบหมายให้นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้ดำเนินการ
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้รับรายงานการมาถึงของวัคซีนไฟเซอร์แล้ว โดยนายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณในไมตรีที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกา มีต่อประเทศไทยเสมอมา โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ประเทศไทยกำลังเผชิญกับสถานการณ์โรคระบาดนี้ และนายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำว่าการกระจายวัคซีนจะต้องเป็นไปตามแผนที่กำหนด เน้นการฉีดแก่บุคลากรการแพทย์ด่านหน้าและกลุ่มเป้าหมายเท่านั้น จะต้องไม่มีกรณีจัดสรรไปยังบุคคลสำคัญ หรือนอกกลุ่มที่กำหนดไว้เป็นอันขาด
สำหรับกลุ่มเป้าหมายที่คณะทำงานด้านบริหารจัดการการให้บริการวัคซีนป้องกันโควิด-19 กำหนดว่าจะได้รับวัคซีนไฟเซอร์ล็อตแรกประมาณ 1.5 ล้านโดส ประกอบด้วย
1.บุคลากรทางการแพทย์ที่ปฏิบัติภารกิจดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ทั่วประเทศ (เข็ม 3 กระตุ้นภูมิคุ้มกัน) 700,000 โดส
2.ผู้มีภาวะเสี่ยงสูงต่อการเสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 ที่มีสัญชาติไทย 645,000 โดส
3.ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค หญิงตั้งครรภ์ที่มีอายุครรภ์ตั้งแต่ 12 สัปดาห์ขึ้นไป ชาวต่างชาติที่อาศัยในประเทศไทย เน้นผู้สูงอายุ และโรคเรื้อรัง และผู้เดินทางไปต่างประเทศ ที่จำเป็นต้องรับวัคซีนไฟเซอร์ เช่น นักการทูต นักศึกษา 150,000 โดส
4.ทำการศึกษาวิจัย (ได้รับการอนุมัติโดยคณะกรรมการวิจัยจริยธรรม) จำนวน 5,000 โดส และ 5.สำรองส่วนกลางสำหรับตอบโต้การระบาดของเชื้อกลายพันธุ์ จำนวน 40,000 โดส
(ข่าวเกี่ยวข้อง : ทำความเข้าใจ! วัคซีนไฟเซอร์ ทำไมต้องผสมน้ำเกลือ)
*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org
- 46 views