“หมอนิธิ” เผยวัคซีนซิโนฟาร์มเข้าไทยอีกวันที่ 18 และ 25 ก.ค.นี้ เตรียมพร้อมสำหรับรายบุคคลธรรมดา เปิดให้เริ่มยื่นความจำนงค์ปลายสัปดาห์หน้า เน้นเฉพาะพื้นที่เสี่ยงสีแดง และเปิดเป็นช่วงๆ ครั้ง 1-2 หมื่นราย

เมื่อวันที่ 8 ก.ค. 2564 ศ.นพ.นิธิ มหานนท์ เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ โพสต์เฟซบุ๊ค Nithi Mahanonda กรณี ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์เตรียมจัดสรรวัคซีนให้แก่ผู้ที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีน ซึ่งวัคซีนซิโนฟาร์มจะมาอีกในวันที่ 18 ก.ค. และ 25 ก.ค. นี้

โดยเนื้อหาใจความระบุว่า

วันนี้ได้ประชุมรวบรวมข้อมูลกลุ่มกิจกรรมและกลุ่มตามคุณสมบัติต่างๆจากที่ อปท.ทำลำดับความสำคัญกันมาในระบบพร้อมหนังสือรับรองจากผู้ว่าราชการจังหวัด แล้วได้ตัดสินใจเบื้องต้นว่าจะจัดสรรให้ผู้ที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีน คือ

1.กลุ่มบุคลากรการแพทย์และสาธารณสุข

2.กลุ่มการศึกษาและโรงเรียน

3.กลุ่มองค์กรการกุศล และผู้ด้อยโอกาสในท้องถิ่นจากกลุ่มที่จะได้รับวัคซีนบริจาค คือ คนพิการ คนในชุมชน พระนักบวช โดยจะมีหนังสือกลับไปให้เริ่มขบวนการ ลงทะเบียน นัดโรงพยาบาล และใส่ชื่อคนรับวัคซีนให้ตรง

ทั้งนี้ จะแจ้งจำนวนที่แต่ละอปท.ได้รับการจัดสรร(ไม่ทั้งหมด)ในรอบแรก(จะมีรอบต่อๆไป) อปท.จะเริ่มลงทะเบียนเข้าระบบได้ในอาทิตย์หน้าได้แต่การนัดฉีดอาจเป็นปลายเดือนนี้ถึงต้นเดือนหน้า

สำหรับหลาย อปท ที่ไม่ได้ส่งแผนเข้ามาในระบบตามเวลาที่กำหนทางทีมงานจะประสานแจ้งให้ทราบท่านจะยังไม่ได้รับการจัดสรรในคราวนี้ และในกลุ่มบุคคลทั่วไปทางราชวิทยาลัยที่บางอปท เสนอมานั้นทางราชวิทยาลัยฯในเบื้องต้นไม่สามารถจัดหาให้ได้เพราะจะไปซับซ้อนกันกับการฉีดแบบปูพรมที่รัฐบาลต้องทำให้ประชาชน

สำหรับรายบุคคลธรรมดานั้น เราก็จะเปิดให้ลงทะเบียนยื่นความจำนงอาทิตย์หน้าเช่นกัน โดยวันนี้ที่ได้ประชุมได้นัดหารือทำความเข้าใจโรงพยาบาลต่างๆที่จะรับช่วยบริการฉีดให้ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ อย่างไรก็ตาม กรณีบุคคลธรรมดาจะเปิดจองเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงสีแดงก่อน และจะต้องขอเปิด เป็นช่วงๆ เช่นครั้ง 1-2 หมื่นราย เต็มแล้วปิด(ไม่ใช่ระบบล่มนะ) ปิดๆเปิดๆ เป็นช่วงๆเพื่อจัดการระบบให้เรียบร้อยเป็นชุดๆ

 

อนึ่ง ผู้ที่สนใจติดตามข้อมูลผ่านทางเฟซบุ๊กราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ Chulabhorn Royal Academy หรือสอบถาม “ศูนย์ข้อมูลวัคซีน ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์” ให้บริการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับวัคซีนหลัก และวัคซีนตัวเลือก ซิโนฟาร์ม โทร. 0 2078 9350  

 

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org