โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร จัดคลับเฮาน์ในหัวข้อ “ร้านยา ตัดวงจรโควิดในชุมชน” โดยระดมสมอง แพทย์แผนไทย ผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร ผู้ประกอบการร้านขายยา พิธีกรรายการชัวร์ก่อนแชร์ ตลอดจนผู้ที่เคยป่วยโควิด และผู้สนใจ มาแลกเปลี่ยนประสบการณ์เพื่อหาทางออกร่วมกันในวิกฤตการณ์โควิด 19 ที่มีผู้ที่ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นอย่างน่ากังวลว่า อีกไม่นานสถานพยาบาลต่าง ๆ จะไม่สามารถรองรับผู้ป่วยได้

โดยในส่วนของแพทย์แผนไทย และผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร มีความเห็นสอดคล้องไปในแนวทางเดียวกันว่า ในภาวะที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น การดูแลสุขภาพเป็นทางเลือกที่สำคัญ ประชาชนควรต้องได้รับความรู้ที่ถูกต้อง และสามารถใช้สมุนไพรในการดูแลรักษาเบื้องต้นเพื่อให้มีอาการลุกลาม และในขณะนี้การจัดการของภาครัฐด้วยวิธีการดูแลผู้ป่วยแบบเดิมแทบจะรองรับไม่ไหวแล้ว ระบบสังคมคุณภาพและการบูรณาการจากาภาคส่วนต่าง ๆ ต้องมาช่วยกัน ไม่ควรปล่อยหรือรอให้หน่วยราชการจัดการแต่เพียงฝ่ายเดียว เพราะจะยิ่งทำให้ปัญหาบานปลายจนไม่อาจแก้ไขได้ 

“ร้านยา ก็ควรลุกขึ้นมาเป็นตัวแทนของชุมชนในการให้ข้อมูลความรู้ และกระจายสมุนไพรที่ได้รับการยอมรับว่าสามารถ ดูแลและป้องกันการลุกลามของเชื้อโควิดได้ คือ ฟ้าทะลายโจร ตลอดจนยาอมแก้ไอ และยาลดไข้ ประกอบกับการดูแลสุขภาพในภาวะที่ต้องอยู่ในครอบครัวเดียวกับผู้ติดเชื้อ ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องมีการออกแบบระบบขึ้นมา โดยบูรณาการภาคส่วนต่าง ๆ เข้าด้วยกัน ซึ่งรัฐบาลเองจะต้องสั่งการ เพราะหน่วยงานต่าง ๆ ก็ไม่สามารถดำเนินการได้ลำพัง เพราะยังมีความกังวลเรื่องกฎ ระเบียบ ที่เป็นปัญหาอุปสรรคอยู่” 

นอกจากนี้ ที่ประชุม ยังได้เสนอ ว่า ควรออกคู่มือ และใช้วิธี tele pharmacy โดยเชื่อมโยงกับ กรมควบคุมโรค และกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นระบบที่เคยทำได้ผลและรวดเร็ว แต่อาจต้องปรับระบบให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน นอกจากนี้ สภาเภสัชกรรม และโรงพยาบาลต่าง ๆ ควรประกาศรับอาสาสมัคร เพื่อเป็นตัวแทนในการดำเนินการแบบม้าเร็ว ในสถานการณ์เช่นนี้ ความเข้าใจที่ถูกต้องด้วยองค์ความรู้เป็นสิ่งสำคัญที่สุด ประชาชนจะต้องรู้และเข้าใจว่าเขาควรต้องดำรงชีวิตอย่างไร และต้องเป็นหมอให้กับตัวเอง เพราะเขาอยู่กับตัวเองตลอด 24 ชั่วโมง  ในสภาวการณ์ที่ยังไม่มียารักษาได้โดยตรง โดยอาจต้องให้ทุกบ้านมีปลูกฟ้าทะลายโจรไว้ ไม่เพียงแต่เป็นการป้องกันและรักษาโควิด 19 เท่านั้น แต่สามารถขยายผลไปถึงการกลายพันธุ์ของโรค และโรคอุบัติใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

 

 

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org