ประเดิมฉีดวัคซีนตัวเลือก “ซิโนฟาร์ม” กลุ่มด้อยโอกาส ผู้สูงอายุ ผู้พิการ 6,400 ราย

นายกรัฐมนตรี ตรวจเยี่ยมหน่วยบริการฉีดวัคซีนโควิด 19 ตัวเลือก “ซิโนฟาร์ม” ของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เป็นวัคซีนซิโนฟาร์มพระราชทานในสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี จำนวน 6,400 โดส เนื่องในโอกาสที่ทรงเจริญพระชนมายุครบ 64 พรรษา 4 กรกฎาคม 2564

เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. 2564 ที่บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) สำนักงานแจ้งวัฒนะ กทม. พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เยี่ยมชมและให้กำลังใจแก่บุคลากรทางการแพทย์และผู้ปฏิบัติงานศูนย์ฉีดวัคซีนตัวเลือกซิโนฟาร์ม ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ โดยมีศาสตราจารย์นายแพทย์นิธิ มหานนท์ เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ให้การต้อนรับ

สำหรับศูนย์ฉีดวัคซีนตัวเลือกซิโนฟาร์ม ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เปิดให้บริการฉีดวัคซีนตัวเลือก “ซิโนฟาร์ม” สำหรับกลุ่มบุคคลในองค์กรต่างๆ และเลือกโรงพยาบาลจุฬาภรณ์เป็นสถานพยาบาลให้บริการฉีดวัคซีน มีศักยภาพรองรับการฉีด 5,000 คนต่อวัน ในวันนี้ได้นำร่องฉีดวัคซีนพระราชทานในสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ที่โปรดฯให้มูลนิธิภัทรมหาราชานุสรณ์ นำเงินทุนมาจัดซื้อวัคซีนตัวเลือก และพระราชทานแก่โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ จำนวน 6,400 โดส ในโอกาสที่ทรงเจริญพระชนมายุครบ 64 พรรษา4 กรกฎาคม 2564 ให้แก่ประชาชนผู้ด้อยโอกาส ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้ที่มีรายได้น้อย และชุมชนในพื้นที่โดยรอบโรงพยาบาลเป็นกลุ่มแรก

นายอนุทินกล่าวว่า สถานการณ์ของโรคโควิด 19 ในประเทศ ยังพบผู้ติดเชื้ออย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกทม.และปริมณฑล กระทรวงสาธารณสุขร่วมกับภาคีเครือข่ายและผู้เชี่ยวชาญติดตามประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิดทุกวัน ประเด็นการล็อกดาวน์ประเทศนั้น ต้องประเมินตามสถานการณ์และผ่านการพิจารณาจากคณะผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และสาธารณสุข โดยพิจารณาจากข้อมูลที่เป็นปัจจุบัน ข้อดี ข้อเสีย วิเคราะห์ปัจจัยเสี่ยง ก่อนส่งให้ ศบค. พิจารณาเป็นขั้นตอนสุดท้าย

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ส่วนการบริหารเตียงและแนวทางการลดระยะเวลารักษาในโรงพยาบาลนั้น ขณะนี้ทุกอย่างยังเหมือนเดิม กระทรวงสาธารณสุขบริหารจัดการโดยใช้ระบบเขตสุขภาพ ส่วนปัญหาเตียงเต็มใน กทม.นั้น ได้ร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดกับ กทม. และโรงเรียนแพทย์ ขอให้มองมิติโดยรวม เพราะทุกวันนี้มีผู้ป่วยจำนวนหนึ่งที่รักษาหายกลับบ้านได้ และมีผู้ป่วยที่อาการดีขึ้น อาจปรับเปลี่ยนสถานที่ดูแลเพื่อรักษาเตียงในโรงพยาบาลหลักให้แก่ผู้ป่วยสีแดง ซึ่งขณะนี้มีโรงพยาบาลบุษราคัมรับผู้ป่วยสีเหลืองและยังสามารถขยายได้ถึง 5,000 เตียง จะได้ประสานกับเจ้าของสถานที่ขอขยายเวลา นอกจากนี้ยังได้เตรียมโรงพยาบาล 4 มุมเมืองไว้รองรับอีกด้วย

“ขอให้ประชาชนร่วมมือกันปฏิบัติตามมาตรการส่วนบุคคล สวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง หมั่นล้างมือ ลดกิจกรรมทางสังคมอย่างเคร่งครัด เป็นการช่วยบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ที่ทำงานอย่างหนักและต่อเนื่อง อาจมีอาการเหนื่อยล้ากันบ้าง” นายอนุทินกล่าว