กรมควบคุมโรคเผยกรณีกระจายวัคซีนโควิด-19 สังขละบุรี จ.กาญจนบุรีได้ 1 ขวด ต้องสอบถามทางจังหวัด เหตุส่วนกลางส่งล็อตใหญ่ภาพรวมจังหวัด จากนั้นแต่ละพื้นที่จัดสรรในจังหวัดของตนเอง ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ขอให้สอบถามทางผู้ว่าฯจังหวัดนั้นๆ

เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. ที่ห้างสรรพสินค้า เดอะมอลล์บางแค ภายในการตรวจเยี่ยมศูนย์บริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด- 19 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการจัดสรรวัคซีนไปยังพื้นที่ต่างๆที่ยังมีไม่เพียงพอ เช่น อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ที่มีรายงานว่าได้วัคซีนเพียง 1 ขวด ว่า เรื่องการจัดสรรวัคซีน คำนวณจาก จำนวนวัคซีนหารด้วยจำนวนจังหวัด และหารด้วยจำนวนประชากรในจังหวัด แล้วมาเทียบ กับปัจจัยเสี่ยงในพื้นที่ก็จะออกมาเป็นตัวเลขของวัคซีนในแต่ละจังหวัด ซึ่งไม่มีจังหวัดไหนที่ได้เท่ากันแน่นอน แต่เป็นการจัดสรรอย่างเป็นธรรม จากนั้น กรมควบคุมโรคกระจายวัคซีนลงไปตามจำนวนที่คำนวณแล้วทางจังหวัดจะเป็นผู้บริหารจัดการจัดส่งเอง ดังนั้นในส่วนของอำเภอสังขละอาจจะต้องไปดูว่าไม่ใช่พื้นที่การระบาดหรือไม่ถึงได้รับวัคซีนในจำนวนเท่านั้นเรื่องนี้จะต้องไปถาม คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด

วันเดียวกัน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีการเปิดเผยข้อมูลว่า อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ซึ่งเป็นวัคซีนแอสตราเซเนกา เพียง 10 โดสหรือ 1 ขวด ว่า ส่วนกลางโดยกรมควบคุมโรค จะจัดส่งวัคซีนไปที่แต่ละจังหวัดตามแผนการกระจายของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19(ศบค.) หลังจากนั้นทางจังหวัด โดยผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด จะดูแผนภาพรวมจังหวัดว่า จุดใดควรได้มากได้น้อยอย่างไร จัดสรรตามสถานการณ์ของแต่ละจังหวัด ดังนั้น แต่ละอำเภอจะได้เท่าไหร่ต้องสอบถามกับทางจังหวัด หรือผู้ว่าราชการจังหวัด

“แต่ละอำเภอได้เท่าไหร่ ทางส่วนกลางจะไม่ทราบแล้ว ต้องถามท่านผู้ว่าฯ เพราะเราจะส่งไปที่จังหวัด และให้จัดสรรในจังหวัดของตนเอง แต่ละจังหวัดได้รับวัคซีนไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับสถานการณ์จังหวัด” นพ.โอภาส กล่าว

 

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org