ทำความเข้าใจวัคซีนทางเลือก “ซิโนฟาร์ม” ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์เป็นผู้แทนนำเข้าให้เอกชน

สรุป! รายละเอียดราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์นำเข้าวัคซีนทางเลือก “ซิโนฟาร์ม” คนรับวัคซีนฟรี! ไม่ต้องจ่าย แต่การซื้อขายจะเป็นเฉพาะราชวิทยาลัยและเอกชนที่ประสานเข้ามา ซึ่งราคาไม่เอากำไร เป็นทางเลือกให้เอกชนมีกำลังทรัพย์ในการซื้อให้บุคลากร องค์กรตนเอง ห้ามนำไปจำหน่ายต่อเด็ดขาด

ตามที่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ร่วมกันแถลงข่าวบูรณาการความร่วมมือนำเข้าวัคซีนโควิดทางเลือก “ซิโนฟาร์ม” โดยจะเข้าล็อตแรกในช่วงเดือนมิถุนายนนี้ จำนวน 1 ล้านโดส   โดยผู้สื่อข่าว Hfocus  สรุปรายละเอียดหลักๆ ดังนี้ 

-  ราคาการจำหน่ายให้กับภาคเอกชน เบื้องต้นมีติดต่อทางราชวิทยาลัยฯ คือ สภาอุตสาหกรรม และทางบริษัท ปตท. คาดว่าราคาเบื้องต้นประมาณ 1 พันบาทต่อโดสรวมค่าประกัน แต่ยังต้องมีการพิจารณารายละเอียดอีกครั้ง

-  เมื่อมีการกำหนดราคาแล้ว จะเป็นราคาซื้อขายสำหรับภาคเอกชน ที่เมื่อซื้อไปแล้วจะต้องนำไปฉีดให้แก่ บุคลากร พนักงาน หรือกลุ่มคนขององค์กรนั้นๆ โดยไม่มีการเก็บเงินกับผู้ฉีดแต่อย่างใด

-  เมื่อซื้อวัคซีนซิโนฟาร์มกับทางราชวิทยาลัยฯ ไปแล้วนั้น ห้ามมีการนำไปจำหน่ายต่อ ต้องฉีดฟรีให้คนในองค์กรนั้นๆ

-  องค์กรที่ซื้อจะต้องมีสถานพยาบาลหรือโรงพยาบาลรองรับการฉีดให้แก่บุคลากร ส่วนจะมีการจ้างสถานพยาบาลใดก็เป็นข้อตกลงระหว่างองค์กรและสถานพยาบาลนั้นๆ

-  สำหรับสถานที่ฉีดก็จะอยู่ที่มีการประสานสถานที่ใด หรือติดต่อสถานพยาบาลใดให้เข้ามาดำเนินการ

-  ราชวิทยาลัยฯ จึงเป็นเพียงตัวแทนในการจำหน่ายวัคซีนโควิด “ซิโนฟาร์ม” ให้ภาคเอกชน เพราะบริษัทผู้ผลิตจะไม่มีการดีลกับทางเอกชนโดยตรง จึงต้องมีหน่วยงานภาครัฐ โดยราชวิทยาลัยฯ ไม่ได้มีการนำเข้ามาเพื่อค้ากำไรแต่อย่างใด แต่เป็นทางเลือก เพื่อให้ภาคเอกชนที่มีกำลังซื้อเข้ามาดีลและดำเนินการตามข้อกำหนด เพราะ ณ ขณะนี้ วัคซีนโควิดยังเป็นการใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน

(อ่านข่าว : ข่าวดี! วัคซีนทางเลือก "ซิโนฟาร์ม" ล็อตแรก 1 ล้านโดส มิ.ย.นี้)

ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 พ.ค. ศ.นพ.นิธิ มหานนท์ เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ โพสต์เฟซบุ๊ก Nithi Mahanonda ให้ข้อมูลข้อเท็จจริงเรื่องนี้อีกครั้ง ว่า

ต้องขอโทษที่แถลงข่าวพูดเร็วเกินไปมีคนคิดเลขไม่ทันเข้าใจไปว่า #ราชวิทยาลัยฯ จะหากำไรจากวัคซีนตัวเลือก…..ขอเรียนว่าไม่เป็นความจริงและสรุปสั้นๆดังนี้ครับ

ถ้าทุนที่ซื้อวัคซีนมา = X , ค่าขนส่ง = Y , ค่าเก็บรักษา = Z , ค่าประกัน = V ราชวิทยาลัยจะจัดให้ องค์ภาครัฐ องค์กรภาคเอกชนที่ต้องการนำไปฉีดให้กับบุคลากรภายในที่มีชื่อตัวตนระบุชัดเจนในราคา X+Y+Z+V เท่านั้น ไม่มีการบวกเพิ่มแม้แต่บาทเดียว และยังมีข้อกำหนดว่าทุกแห่งจะไปขายให้บุคลากรหรือคนอื่นต่อไม่ได้เป็นอันขาด แต่ท่านจะไปจ้างสถานพยาบาลใดๆฉีดให้ สถานพยาบาลนั้นๆจะไปคิดค่าบริการอื่นใดเป็นข้อตกลงระหว่างสถานพยาบาลและองค์กรที่รับวัคซีนจากราชวิทยาลัยไป ดังนั้นประชาชนที่องค์กรนั้นๆจะดูแล จะได้รับบริการฉีดวัคซีน”ฟรี” ครับ

อันนี้เป็นการแบ่งเบาภาระงบประมาณและการกระจายการฉีดวัคซีนให้ประเทศร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข…..แต่ประชาชนเป็นคนๆอาจจะไม่สามารถรับวัคซีน”ทางเลือก”นี้ได้ อย่างไรก็ดีคิวของท่านในวัคซีน”หลัก”ของประเทศจะได้เร็วขึ้น (ผมหวังว่าจะเป็นเช่นนั้นนะครับ)

นอกจากนี้ถ้าเป็นบริษัทเอกชนราชวิทยาลัยมีข้อกำหนดว่าท่านต้องซื้อวัคซีนเพิ่มอีกร้อยละสิบเพื่อบริจาคให้รัฐนำไปฉีดให้กับประชาชนที่ด้อยโอกาสและไม่ได้อยู่กับองค์กรใดๆเช่นผู้ค้าขายอิสระบนทางเท้า หรือในตลาด

#ใครทำอะไรได้ก็ช่วยกัน

#ฉีดวัคซีนทุกครั้งสังคมไทยได้ประโยชน์

#คิดถึงคนที่ด้อยโอกาสด้วย

นิธิ มหานนท์ 29 พค 64