“อนุทิน” รับโควิดผับบาร์ทำติดเชื้อเพียบ! เป็นสถานการณ์วิกฤต เตรียมเสนอมาตรการศบค. อาจต้องปิดสถานบันเทิงพื้นที่เสี่ยง หรือยกระดับพื้นที่ปิด ส่วนความคืบหน้าวัคซีนโควิดซิโนแวคเข้าไทยอีก 1 ล้านโดส 10 เม.ย.นี้ พร้อมซื้อเพิ่มอีก 5 แสนโดส โดย อภ.ดำเนินการ

เมื่อวันที่ 5 เม.ย. ที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข กล่าวถึงกรณีการระบาดโควิด-19 หลายคลัสเตอร์ในไทยว่า ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เราพบการระบาดของโรคโควิด-19 จำนวนมากในสถานบันเทิง โดยมีข้อมูลการติดเชื้อสูงถึง 48% ซึ่งเป็นสถานการณ์เข้าขั้นวิกฤต เช่น ผับคลิสตัลคลับ ตรวจ 10 ราย เจอ 8 ราย ฉะนั้น สธ. จะต้องมีมาตรการอะไรบางอย่างเสนอต่อศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 (ศบค.) อย่างแน่นอน โดยสิ่งที่เราจะทำต้องเข้มข้นเพื่อความปลอดภัยของประชาชนอยู่แล้ว เช่น อาจจะถึงขั้นเสนอให้ปิดสถานบันเทิง ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยง หรือยกระดับพื้นที่ปิด เพราะหากปิดตรงนี้แต่ไม่ปิดตรงนั้นก็อาจจะเกิดการเคลื่อนย้ายของประชาชนไปอีกที่หนึ่งได้ซึ่งก็จะควบคุมได้ยาก

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เราเสนอไป เป็นมาตรการขั้นสูงสุดอยู่แล้วแต่การพิจารณาจะต้องให้อำนาจกับผู้ว่าราชการจังหวัดร่วมกับคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด พิจารณาดำเนินการให้สอดคล้องกันอีกครั้งหนึ่ง ให้ประชาชนช่วยกันอดทนอีกสักนิด แล้วทุกอย่างจะผ่านพ้นไป ปีหน้าเราจะได้สนุกกันอย่างเต็มที่

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ มีความคืบหน้าเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดหาวัคซีนป้องกันโควิด 19 โดย ในวันที่ 10 เม.ย. วัคซีนจากซิโนแวค ประเทศจีนจำนวน 1 ล้านโดสจะเดินทางมาถึงประเทศไทยอย่างแน่นอน และขณะนี้มีการเจรจาเพื่อสั่งซื้อเพิ่มเติม ซึ่งทางจีนยอมขายให้เราเพิ่มอีก 5 แสนโดส ราคา 15 เหรียญสหรัฐฯ ต่อโดส ซึ่งองค์การเภสัชกรรม(อภ.) อยู่ในระหว่างการชำระค่าวัคซีน คาดว่าวัคซีนจำนวน 5 แสนโดสนี้จะมาถึงไทยประมาณวันที่ 19-20 เม.ย. นี้ เพื่อดำเนินการกระจายวัคซีนให้ครอบคลุมในระหว่างการรอวัคซีนจากแอสตราเซเนกา ที่จะทยอยออกมาในเดือนมิ.ย.

นายอนุทินกล่าวว่า สำหรับพื้นที่กรุงเทพมหานคร ที่มีการปรับการให้วัคซีน โดยจะนำลงไปฉีดให้กับพนักงานที่ทำงานในสถานบันเทิงและครอบครัว ตรงนี้อยู่ในการพิจารณาของพื้นที่ และมีเครือข่ายสถานพยาบาลที่จะฉีดอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ตนยืนยันว่าการกระจายวัคซีนมีแผนดำเนินการเป็นขั้นเป็นตอน ไม่ใช่เกิดการระบาดที่ไหนแล้วเราจะเอาวัคซีนไปฉีดที่นั่น ไม่อย่างนั้นจะเกิดปัญหา เกิดข้อสงสัยว่าถ้าอยากได้วัคซีนก็ทำให้มีการระบาดในพื้นที่

"การฉีดวัคซีนป้องกันโรคนั้น ตรงนี้ไม่ต้องเป็นห่วงเพราะหลังจากวัคซีนของแอสตราฯ ออกมา เราจะมีวัคซีนจำนวนมากที่จะฉีดให้กับประชาชน มีการใช้เทคโนโลยีแอปพลิเคชั่น “หมอพร้อม” ไลน์ “หมอพร้อม” รวมถึงแอปพลิเคชั่น เป๋าตังซึ่งมีฐานข้อมูลเชื่อมโยงกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติอยู่แล้ว จึงไม่ต้องกังวลส่วนประชาชนที่ไม่มีสมาร์ทโฟนก็จะใช้บัตรประชาชนรวมถึง อีกทั้งเรามีอสม.สำรวจและให้คำแนะนำด้านการบริการวัคซีนของประชาชนอยู่" นายอนุทิน กล่าว